เตรียมชง เปิดผับตี4 เข้าครม. 15พ.ย.นี้ ดูเลยมีพื้นที่ไหนบ้าง





3 พ.ย.2565 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า แนวทางการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึง 04.00 น. จากเดิม 02.00 น. ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำเรื่องส่งเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอได้ภายในการประชุมนัดวันที่ 15 พ.ย.นี้ ก่อนการประชุมเอเปค 2022 หรือการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก โดยหากได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมครม. และกระทรวงมหาดไทย (มท.) สามารถออกข้อยกเว้นได้ ก็สามารถทำได้ทันที เพราะขณะนี้มีความพร้อมอยู่แล้ว

ในพื้นที่ที่เสนอไป ได้แก่ ถนนบางลา ภูเก็ต, กระบี่, พังงา, สมุย, พัทยา และกรุงเทพฯ ใน 3 พื้นที่ คือ ถนนข้าวสาร ซอยคาวบอย ซอยพัฒน์พงศ์ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างขาติโดยเฉพาะ โดยหากได้รับการอนุมัติจากครม. แล้ว จะเริ่มนำร่องที่แรกในถนนบางลา ภูเก็ต เพราะมีความพร้อมมากที่สุดทั้งในด้านสถานที่ท่องเที่ยว ภาคเอกชนผู้ประกอบการ และชาวชุมชนด้วย

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับในช่วงที่เหลือของปีนี้ ที่จะมีเทศกาลเฉลิมฉลองต่าง ๆ อาทิ ลอยกระทง คริสต์มาส เคานต์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ การดูแลความปลอดภัยนั้น การจัดงานต่าง ๆ จะมีหน่วยงานดูแลภายใต้ผู้ว่าราชการประจำจังหวัดอยู่แล้ว ซึ่งเน้นให้ฝ่ายปกครองที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ปฏิบัติหน้าที่ตรวจตราและดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างเคร่งครัด

นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนกระทรวงได้มีข้อสั่งการไปยังตำรวจท่องเที่ยว ให้เสริมการดูแลเข้าไปเพิ่มเติม รวมถึงสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด การกีฬาแห่งประเทศไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการจัดงานต่าง ๆ ให้เข้มงวดในเรื่องการรักษาความปลอดภัยในทุกกรณี และกำชับทางทีมผู้จัดงานอีเว้นท์ให้มีมาตรการป้องกันเหตุในการจัดงานอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องการรักษาความปลอดภัย การบริหารจัดการความแออัด และการทำความเข้าใจทางหนีไฟ

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า และขณะนี้ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้สั่งให้ผู้การทุกคนไปสำรวจพื้นที่ว่า มีที่ใดบ้างจะมีการจัดงานเทศกาลต่าง ๆ และให้ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์อุบัติเหตุใหญ่ที่เกิดขึ้นอย่างอิแทวอน ว่าพื้นที่ของตัวเองสามารถรองรับคนเข้าร่วมได้มากน้อยเท่าใด เพราะต้องมีการตรวจสอบจำนวนคนเข้าพื้นที่ไม่ให้มากจนเกินไป อาทิ เกิดเหตุการณ์ล้มทับจนขาดอากาศหายใจได้

นายพิพัฒน์ กล่าวด้วยว่า แนวโน้มตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าทั้งเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมนี้ จะต้องทำให้ได้อย่างน้อยรวมกัน 2.7 ล้านคน หรือเดือนละ 1.3 ล้านคน หรือกระตุ้นให้เกิดการเดินทางของต่างชาติ อยู่ที่ 4.5-5 หมื่นคนต่อวัน เพื่อให้ทั้งปี 2565 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำได้ที่ 10 ล้านคนตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งขณะนี้เราเห็นสัญญาณที่ดีของตลาดต่างชาติเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง

สำหรับแนวโน้มตลาดชาวจีน ขณะนี้ยังมองไม่เห็นทิศทางกลับมาเที่ยวไทย เนื่องจากรัฐบาลจีนยังใช้นโยบายซีโร่โควิด-19 และไม่ปลดล็อกให้พลเมืองเดินทางออกเที่ยวต่างประเทศ โดยคาดหวังว่าการที่สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จะเดินทางเข้าร่วมประชุมเอเปคที่ไทยครั้งนี้ จะมีการหารือร่วมกัน เพื่อให้ปลดล็อกเป็นบางมณฑลของจีน ให้เข้ามาเที่ยวไทยได้อีกครั้ง ซึ่งจะถือเป็นความสำเร็จในการหารือร่วมกันครั้งนี้ โดยอยากเสนอให้นายกฯ หารือถึงประเด็นดังกล่าวร่วมกันสี จิ้นผิง เพื่อให้ประกาศผลลัพธ์ที่เป็นบวกออกมาด้วย

“ของขวัญปีใหม่ 2566 ในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ขณะนี้ต้องยอมรับตรง ๆ ว่ายังไม่มีอะไรออกมา เพราะงบประมาณที่จะใช้ดำเนินโครงการต่าง ๆ ยังไม่มี ทำให้พอไม่มีเงินก็ไม่สามารถมีอะไรออกมาได้ แต่ภายในเดือนพ.ย.นี้ หากรัฐบาลอนุมัติงบประมาณอะไรออกมาเพิ่มเติม ก็อาจมีอะไรออกมาเป็นของขวัญปีใหม่ให้ได้” นายพิพัฒน์ กล่าว

 

ข่าวจาก : ข่าวสด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: