ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Meta ประกาศแผนการปรับโครงสร้างบริษัท เมื่อวันพุธที่ 9 พ.ย. 65 เพื่อลดค่าจ่ายการดำเนินงาน ด้วยการ ลดจำนวนพนักงานอย่างมีนัยยะสำคัญ 11,000 ตำแหน่งงาน ซึ่งหมายความว่าพนักงาน Meta ทุก ๆ 8 คน จะต้องถูกเลิกจ้างอย่างน้อย 1 คน
ณ สิ้นเดือน ก.ย. 65 Meta มีพนักงานทั้งหมด 87,314 คน มากที่สุดนับตั้งแต่ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ให้กำเนิด Facebook
การปรับลดจำนวนพนักงานขนานใหญ่ สะท้อนว่า Meta มีพนักงานมากเกินความจำเป็น (overstuffed) และไม่มีประสิทธิภาพ (inefficient)
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก สื่อสารกับพนักงานในรูปแบบจดหมายเวียนภายในผ่าน E-mail ยอมรับว่า เขาประเมินสถานการณ์ผิดพลาด ด้วยการทุ่มเงินลงทุนจำนวนมากในช่วงปีที่มีการระบาดโควิด-19 ทั่วโลก เพราะช่วงนั้นกิจกรรมทางออนไลน์เติบโตสูงมาก สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้คนในช่วงเวลานั้นที่ต้องใช้ชีวิตในบ้าน ทำงานที่บ้าน
แต่สถานการณ์ไม่เป็นไปตามคาด ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ประเทศต่าง ๆ ส่วนใหญ่ผ่อนคลายมาตรการให้ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติ โลกก็ต้องเผชิญกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน ราคาพลังงานพุ่งสูง ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทะยานสู่จุดที่สูงเป็นประวัติการณ์ทั่วโลก
ขณะเดียวกันการแข่งขันบนแพลตฟอร์ม สื่อสังคมออนไลน์ก็รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะการเติบโตของ TikTok และซ้ำเติมด้วยนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ Apple ที่ปิดกั้นไม่ให้ Facebook เข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน iPhone ได้มากนัก โดยเฉพาะข้อมูลพฤติกรรมบนโลกออนไลน์ (digital footprint)
ปัจจัยทั้งหมดนี้ส่งผลให้ผลประกอบการของ Meta ในปี 2565 ต่ำกว่าคาดการณ์ โดยเฉพาะรายได้จากโฆษณาบน Facebook
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก แสดงความรับผิดชอบกับ การตัดสินใจในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา โดยบอกว่ากับพนักงานผ่าน E-mail ภายในองค์กรว่า
“I got this wrong,and I take responsibility for that”
“ผมยอมรับความผิดพลาด และรับผิดชอบกับการตัดสินใจ”
ข่าวจาก : thaipbs
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ