11 พฤศจิกายน นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า จากการประชุมคณะทำงานบูรณาการการให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมืองให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมี นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน
โดย ทอท.จะเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาความแออัดบริเวณท่าอากาศยานที่อยู่ภายใต้การดูแล อาทิ ปัญหาการขาดแคลนรถแท็กซี่ เนื่องจากแท็กซี่ที่ลงทะเบียนให้บริการภายในท่าอากาศยานที่ผ่านมายังกลับมาให้บริการไม่เต็ม 100% ตัวอย่าง ท่าอากาศยานดอนเมือง ที่มีแท็กซี่ลงทะเบียนไว้ 2,500 คัน ขณะนี้กลับมาให้บริการเพียง 500 คัน ส่วนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิลงทะเบียนไว้ 5,000 คัน ปัจจุบันกลับมาให้บริการประมาณ 2,500 คัน ส่งผลให้ผู้โดยสารได้รับผลกระทบต้องรอคิวแท็กซี่เป็นเวลานาน
“ปัญหาการขาดแคลนรถแท็กซี่ตอนนี้ เห็นภาพชัดเจนในท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งที่ผ่านมาบางวันผู้โดยสารต้องรอคิวรถแท็กซี่ถึง 700 คิว ขณะที่แท็กซี่กลับมาให้บริการเพียง 500 คิว และบางคันเข้าไปส่งผู้โดยสารในเมืองเจอปัญหารถติด จึงไม่สามารถทำเวลากลับมาเข้าคิวได้เร็วเพียงพอต่อความต้องการ” นายนิตินัย กล่าว
นายนิตินัย กล่าวว่า ทอท.จะเสนอให้มีการศึกษานำเอาบริการแกร็บแท็กซี่มาปรับใช้ภายในท่าอากาศยาน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้โดยสารในการเรียกใช้บริการ แก้ไขปัญหาขาดแคลนรถ โดย ทอท.จะหารือร่วมกับผู้ประกอบการแท็กซี่ที่ลงทะเบียนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบและหาทางออกเรื่องนี้ร่วมกัน
นอกจากนี้ จะเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาความหนาแน่นบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) โดย ทอท.จะเสนอนำเอาเทคโนโลยีระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า หรือเอพีพีเอส ซึ่งจะทำให้สามารถทราบจำนวนผู้โดยสารล่วงหน้าก่อนที่จะลงเครื่องบิน หากนำเอาเทคโนโลยีนี้มาประมวลผลร่วมกับ ตม.จะทำให้สามารถวางแผนบุคลากรบริเวณ ตม.มาให้บริการได้เพียงพอ และสามารถให้บริการตรวจคนเข้าเมืองได้ตามเป้าหมายที่ ตม.ตั้งไว้เฉลี่ย 1 นาทีต่อคน
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ