เรื่องราวของเจ้าของกระทู้รายนี้ ที่ได้โพสต์ในเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ด้วยหัวกระทู้ว่า “แม่เรียกสินสอดจากแฟนฝรั่ง” ปรึกษาปัญหาชีวิตคู่ คือเธอไปสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่านักเรียน ต้องส่งเสียตัวเองเรียน ส่วนแฟนเป็นผู้ชายอเมริกัน เป็นมนุษย์เงินเดือนที่พอมีเงินเก็บบ้าง ที่ผ่านมาก็ช่วยซัพพอร์ตเธอเรื่องต่าง ๆ มาตลอด แต่ไม่ใช่เรื่องเงิน เขาไม่ใช่สายเปย์ แต่เพราะมีรายได้มากกว่าเวลาไปเที่ยวหรือกินข้าวเขาก็จะช่วยออกซะส่วนใหญ่
โดยเธอกับแฟนเพิ่งแต่งงานกันได้ 2 เดือน แม่เธอก็ถามว่าจะกลับไทยเมื่อไร เธอยังไม่มั่นใจเพราะต้องรอกรีนการ์ดก่อน แม่เธอเลยบอกว่า เขาอยากได้สินสอด “ถ้ากลับไทยไปต้องมีให้แม่นะ” ส่วนตัวเธอคิดว่าเรื่องสินสอดมันไร้สาระมาก คือแฟนดูแลดีมาก ตอนแต่งงานเขาก็จ่าย ค่าทนายทำเรื่องกรีนการ์ดหลายแสนบาท เขาก็ช่วยออกเยอะมาก เธอรู้สึกว่าสินสอดมันไม่จำเป็นเลย ดีใจมากแล้วที่เขาช่วยเหลือเราขนาดนี้
ส่วนตัวเธอเองแม้จะไม่ค่อยมีเงินเก็บแต่ก็ส่งให้แม่ทุก ๆ ปี ให้เขาพอได้เอาไปอวดป้าข้างบ้าน แม่ไม่มีหนี้ ไม่มีภาระ กิจการที่บ้านก็ดี ไม่ลำบาก ครอบครัวก็เลี้ยงเธอมาอย่างดี เธอสำนึกบุญคุณ และส่งเงินให้เท่าที่ไหว แต่แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ถึงอยากได้สินสอดขนาดนั้น อีกอย่างเธอกับแฟนก็ตั้งใจเปิดธุรกิจร้านอาหารเล็ก ๆ ด้วยกัน ถ้าเอาเงินให้แม่เป็นค่าสินสอด ก็จะไม่มีเงินไปซื้อร้านอาหารที่ต้องการ
ความตั้งใจของเธอคืออยากตั้งตัวให้ได้ก่อน ถ้ามีเงินเหลือเยอะ ๆ ก็จะให้แม่แน่นอน แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเลย แม่ก็ยังจะมาเก็บค่าสินสอดอีก เลยคิดว่าจะเอาเงินตัวเองให้แม่ เพราะไม่อยากเดือดร้อนแฟนแล้ว จึงอยากขอคำปรึกษาว่า มีวิธีการคุยกับแม่ยังไง หรือมีความเห็นยังไง พร้อมทิ้งท้ายเพิ่มเติมว่า “เราคิดว่าแม่เราไม่คืนแน่ ๆ แล้วสมมติถ้าแม่เรียกล้านนึง แล้วเราบอกแม่ว่า สามีจ่ายค่าทำเรื่องกรีนการ์ดกับค่าแต่งงานไปแล้ว ถ้ามาหักลบกันหนูให้แม่ 3 แสน จะดูน้อยไปมั้ยคะ”
เรื่องราวของเจ้าของกระทู้รายนี้ ที่ได้โพสต์ในเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ด้วยหัวกระทู้ว่า “แม่เรียกสินสอดจากแฟนฝรั่ง” ปรึกษาปัญหาชีวิตคู่ คือเธอไปสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่านักเรียน ต้องส่งเสียตัวเองเรียน ส่วนแฟนเป็นผู้ชายอเมริกัน เป็นมนุษย์เงินเดือนที่พอมีเงินเก็บบ้าง ที่ผ่านมาก็ช่วยซัพพอร์ตเธอเรื่องต่าง ๆ มาตลอด แต่ไม่ใช่เรื่องเงิน เขาไม่ใช่สายเปย์ แต่เพราะมีรายได้มากกว่าเวลาไปเที่ยวหรือกินข้าวเขาก็จะช่วยออกซะส่วนใหญ่
โดยเธอกับแฟนเพิ่งแต่งงานกันได้ 2 เดือน แม่เธอก็ถามว่าจะกลับไทยเมื่อไร เธอยังไม่มั่นใจเพราะต้องรอกรีนการ์ดก่อน แม่เธอเลยบอกว่า เขาอยากได้สินสอด “ถ้ากลับไทยไปต้องมีให้แม่นะ” ส่วนตัวเธอคิดว่าเรื่องสินสอดมันไร้สาระมาก คือแฟนดูแลดีมาก ตอนแต่งงานเขาก็จ่าย ค่าทนายทำเรื่องกรีนการ์ดหลายแสนบาท เขาก็ช่วยออกเยอะมาก เธอรู้สึกว่าสินสอดมันไม่จำเป็นเลย ดีใจมากแล้วที่เขาช่วยเหลือเราขนาดนี้
ส่วนตัวเธอเองแม้จะไม่ค่อยมีเงินเก็บแต่ก็ส่งให้แม่ทุก ๆ ปี ให้เขาพอได้เอาไปอวดป้าข้างบ้าน แม่ไม่มีหนี้ ไม่มีภาระ กิจการที่บ้านก็ดี ไม่ลำบาก ครอบครัวก็เลี้ยงเธอมาอย่างดี เธอสำนึกบุญคุณ และส่งเงินให้เท่าที่ไหว แต่แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ถึงอยากได้สินสอดขนาดนั้น อีกอย่างเธอกับแฟนก็ตั้งใจเปิดธุรกิจร้านอาหารเล็ก ๆ ด้วยกัน ถ้าเอาเงินให้แม่เป็นค่าสินสอด ก็จะไม่มีเงินไปซื้อร้านอาหารที่ต้องการ
ความตั้งใจของเธอคืออยากตั้งตัวให้ได้ก่อน ถ้ามีเงินเหลือเยอะ ๆ ก็จะให้แม่แน่นอน แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเลย แม่ก็ยังจะมาเก็บค่าสินสอดอีก เลยคิดว่าจะเอาเงินตัวเองให้แม่ เพราะไม่อยากเดือดร้อนแฟนแล้ว จึงอยากขอคำปรึกษาว่า มีวิธีการคุยกับแม่ยังไง หรือมีความเห็นยังไง พร้อมทิ้งท้ายเพิ่มเติมว่า “เราคิดว่าแม่เราไม่คืนแน่ ๆ แล้วสมมติถ้าแม่เรียกล้านนึง แล้วเราบอกแม่ว่า สามีจ่ายค่าทำเรื่องกรีนการ์ดกับค่าแต่งงานไปแล้ว ถ้ามาหักลบกันหนูให้แม่ 3 แสน จะดูน้อยไปมั้ยคะ”
งานนี้ก็มีชาวโซเชียลเข้ามาแสดงความเห็นกันมากมาย ทั้งในพันทิปและในเฟซบุ๊ก ซึ่งก็มีทั้งคนมองว่าไม่ต้องให้ ควรใจแข็ง บ้างก็ว่าให้แม่เลือกว่าจะเอาสินสอดหรือจะให้กลับไทย บ้างก็ว่าเจ้าของกระทู้ควรออกเงินตรงนี้ให้แม่เองไปเลย บ้างก็มองว่าฝรั่งอาจจะไม่เข้าใจธรรมเนียมเรื่องนี้ ลองคุยกับทั้งทางแฟนและแม่ให้เข้าใจ บ้างก็มาร่วมแชร์ประสบการณ์ ว่าเคยต้องเจอปัญหาเพราะเรื่องการเรียกสินสอดมาแล้วเหมือนกัน
ข่าวจาก : kapook
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ