30 พ.ย.2565 เพจจุดกางเต็นท์ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กร้องเรียนให้ออกจากพื้นที่กางเต็นท์เวลา 3 ทุ่ม ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่ง กลายเป็นกระแสฮือฮาในโลกออนไลน์อย่างยิ่ง
ทั้งนี้เจ้าตัวได้โพสต์ว่า เมื่อผมโดนให้ออกจากพื้นที่กางเต็นท์ตอนเวลาสามทุ่ม เหตุผลคือกลุ่มรร.นานาชาติบอกว่าเค้าจองพท.ทั้งโซนไว้แล้ว (มากางกันไม่น่าต่ำกว่า 50 คน) เค้าไม่ต้องการให้คนนอกเข้าไปกางเต็นท์ปะปนกับนร.ของเค้า จึงต้องการให้ผมย้ายเต็นท์ไปนอนจุดอื่นของหาด
ประเด็นคือ จุดอื่นของหาดนั้นมันอยู่นอกพท.กางเต็นท์ของอุทยาน เป็นเขตห้ามกางเต็นท์ (โคตรมืดด้วย) ละให้ย้ายเต็นท์ตอนสามทุ่ม ผมมากางตั้งแต่บ่ายสามโมงนิดๆ นั่งหัวโด่อยู่นั่นมา 5 ชม.กว่า ไม่มาบอกให้ย้ายตอนก่อนมืดวะครับ ตอนเย็นอาจารย์เค้ายังมาบอกผมด้วยซ้ำว่าเด็กๆอาจเสียงดังหน่อยนะ (ผมยอมรับได้ เสียงดังเต็มที่ก่อน22.00น.) พอกลางคืนอาจารย์ใหญ่น่าจะมาเอง ไล่ที่กันซะงั้น เข้ามาติดต่อกางเต็นท์ตอน 15.00น. จนท.อุทยานก็ให้เข้ามาได้ปกติ
ตอนนี้ตัดสินใจเก็บเต็นท์ขึ้นมอไซค์ ขี่ออกมาย้ายที่นอนเลย นอนไหนค่อยว่ากัน โดยเจ้าตัวได้ร่ายละเอียดกางเต้นท์ทั้งหมดอย่างละเอียดว่า 1. เวลา 15.15น. ติดต่อขอกางเต็นท์กับจนท.อุทยานหน้าป้อม จนท.แจ้งระเบียบการกางเต็นท์ตามปกติ บัตรเข้าอุทยานให้มาชำระที่หน้าป้อมวันพรุ่งนี้ จะได้เข้าเที่ยวจุดอื่นๆตอนเช้าได้ด้วย ค่ากางเต็นท์จะมีคนไปเก็บตอนกลางคืน
2. เลือกทำเล พบว่า ลานกางเต็นท์เต็มไปด้วยเต็นท์ของนักเรียนนานาชาติและเหล่าคุณครูที่มาทำกิจกรรมแคมป์ปิงกัน (เกิน20 เต็นท์) ไม่มีการกั้นโซนใดๆทั้งสิ้น ผมเลยเลือกจุดที่ว่างข้างศาลาหน้าหาดที่เหลือพื้นที่กางได้ (กลางหาดเป็นเต็นท์ของทางโรงเรียนนานาชาติ ซ้ายสุดของหาดมีเต็นท์เล็กๆของคนไทย 2 คน ทางขวาสุดของหาดคือเต็นท์ผม)
3. กางเต็นท์เสร็จตอน 15.50น. มีคุณครูชาวต่างชาติ 2คน มาแจ้งผมว่า คืนนี้โรงเรียนของเค้ามานอนแคมป์กัน “อาจเสียงดังหน่อยนะครับ” ผมก็ตอนว่าผมรับได้ ถ้าหลังสี่ทุ่มเงียบก็ไม่มีปัญหา
4. ตอนนั้นนักท่องเที่ยวภายนอกที่มาเที่ยวหาดยังเยอะอยู่ ผมเลยออกไปเที่ยวถ่ายรูปที่อื่นก่อน กลับมาอีกครั้งตอน 18.00น. พบว่ากลุ่มโรงเรียนกำลังทำอาหารเย็นกันอยู่ ผมก็นั่งฟังเพลงดูทะเลชิลๆหน้าเต็นท์ผมจนถึงเวลา 19.30น.ก็ไปอาบน้ำ (ยังไงคุณครูคนอื่นๆก็เห็นผมแน่ๆ เพราะผมเดินถือตะเกียงเดินริมหาดไปมาคนเดียวนานพอสมควร)
5. เวลาประมาณ 20.50น. ผมนั่งเล่นหน้าเต็นท์ จู่ๆมีคุณครูฝรั่ง1 ท่านเดินมาพร้อมทีมงานของเขาทั้งชายและหญิง รวมแล้วเกิน 10 คนแน่ๆ (ทีมคุณครูต่างชาติ และชายไทย3 คน) เขามาแจ้งผมว่า (คุยภาษาอังกฤษกันนะครับ ผมเลยตอบกลับเค้าได้แค่สั้นๆ)
ครู – ยอมให้คุณกางตรงนี้ไม่ได้ เพราะพื้นที่ตรงนี้เขาจองไว้แล้ว คุณต้องย้ายจุดกางเต็นท์
ผม – จองได้ด้วยเหรอ
ครู – ใช่แล้ว และไม่อยากให้คนนอกมากางเต็นท์ปะปนกับนักเรียนของเขา เนื่องจากอาจเสียงดังและเพื่อความปลอดภัย
ผม – แล้วผมต้องย้ายตอนนี้เนี่ยนะ ทำไมไม่แจ้งผมก่อนตั้งแต่ตอนเย็น ผมนั่งอยู่ตรงนี้มาตั้งหลายชั่วโมงแล้ว
ครู – ผมขอโทษ แต่คุณต้องย้าย การ์ดของเราจะช่วยคุณย้ายเต็นท์ไปกางตรงนู้น (ละก็ชี้ไปท้ายหาดที่มืดสนิด) หรือไม่ก็ตรงนู้น (ชี้ไปอีกทางของหาดที่เป็นจุดห้ามกาง)
ผม – ผมจะย้ายออกเอง อย่ามาแตะของๆผม
6. ขณะนั้นทีมงานคุณครูก็พยายามจะไปขอให้เต็นท์สีดำอีกหลังของคนไทยย้ายจุดกางเช่นกัน แต่สรุปว่าเป็นเต็นท์ของคุณครูโรงเรียนเขาเอง [กลายเป็นว่าคืนนั้นมีคนมากาง 2 กลุ่ม -> ผมคนเดียว และ กลุ่มโรงเรียนนานาชาติ 50 กว่าคน]
7. ผมเดินเข้าไปถามจนท.อุทยาน ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จนท.แจ้งแต่เพียงว่าไม่รู้เรื่องว่าตอนเช้าคุยกันยังไง เขาเพิ่งมาเข้าเวร แต่จะย้ายไปกางนอกเขตกางเต็นท์ไม่ได้
8. ด้วยสถานการณ์ ที่บีบเราทุกทาง [ถ้ากางต่อ ต้องไปกางจุดมืดๆริมหาด ไกลห้องน้ำและแสงไฟมาก ซึ่งผมก็กลัวไง กลัวสัตว์กลัวผี (ไม่กลัวลำบากเลยนะ แต่กลัวผีจริงๆ) กับอีกทางคือออกไปหาโรงแรมข้างทางถูกๆนอน ผมจึงตัดสินใจย้ายออก ตอน 21.40น. ปล. ผมเดินทางด้วยมอเตอร์ไซต์ออกจากบ้านคืนนั้นคืนที่ 9 ของการเดินทางพอดี ไปกางที่อื่นไม่เคยเจอแบบนี้เลย
ข่าวจาก : ข่าวสด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ