สมาคมศิษย์เก่าวิศวะ มข. เชิดชูเกียรติวิศวกรยอมสละชีวิตไม่ยอมโกง เปิดโปงทุจริต





สืบเนื่องจากข่าวเศร้า สะท้อนปัญหาโครงสร้างระบบการทำงานราชการ จนเกิดเหตุเศร้า แชร์สนั่นโลกออนไลน์ กับการเสียชีวิตของหนุ่มวิศวกร อายุ 27 ปี ชาวอ.เมือง จ.อุดรธานี รมควันตัวเองเสียชีวิต ในรถยนต์กระบะ สีขาว 4 ประตู จอดอยู่ริมถนนมะลิวัลย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมทิ้งจดหมายลาตายไว้ จำนวน 3 แผ่นกระดาษ A4

โดยเนื้อหาในจดหมาย ระบุให้โทรหาแม่ และมีเนื้อหาแฉระบบการทำงานเทศบาลท้องถิ่น ที่กำลังมีโครงการก่อสร้าง แล้วตนเองเป็นผู้คุมงาน แต่ในองค์กรมีวัฒนธรรม บังคับให้เรียกรับค่าตรวจงานจากผู้รับจ้าง ทั้ง ๆ ที่เห็นว่างานก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน

ตนเองเริ่มงานเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2565 มาเจอกับระบบดังกล่าว ก็พยายายปรับอยู่ แต่ก็อยู่ไม่ได้ จึงขอยื่นลาออก ซึ่งจะมีผลวันที่ 1 ธ.ค.2565 นี้ แต่ตนเองยังมีงานที่ไม่ตรวจรับอีก 3 งาน เลยทำให้ถูกจี้ เครียด นอนไม่หลับเป็นเดือน

อยากขอโทษครอบครัวที่ต้องทำแบบนี้ แต่ระบบท้องถิ่นแย่มาก ช่างเป็นเครื่องมือสำหรับทำเงินให้ผู้บริหาร พร้อมลงท้ายว่า ถ้าร่างยังดีอยู่ จะขอบริจาคให้กายวิภาคศาสตร์ มข.

ย้อนวันเวลาแห่งความโศกเศร้า

นายภาณุเมศวร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ชาวอ.เมือง จ.อุดรธานี รมควันตัวเองเสียชีวิตในรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว 4 ประตู ซึ่งจอดอยู่ริมถนนมะลิวัลย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งจากการตรวจในรถยนต์ของผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ พบเพียงเตาอั้งโล่ก่อไฟด้วยถ่านหุงต้ม

จากการสอบถามญาตินายภาณุเมศวร์ ผู้เสียชีวิต ทราบว่านายภาณุเมศวร์ เรียนจบวิศกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ไปทำงานที่ อบต.แห่งหนึ่ง ใน จ.หนองบัวลำภู ได้เพียง 6 เดือน และเกิดความขัดแย้งในที่ทำงาน เพราะภาณุเมศวร์ เป็นวิศวกรคุมงานสร้างถนน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้เสียชีวิต เกิดความเครียดในที่ทำงานจึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่พบจดหมาย มีข้อความระบุว่า

“โทรหาแม่ผม”

พร้อมเขียนเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ และยังมีข้อความ เขียนไว้อีกว่า

“ระบบท้องถิ่น โครงการก่อสร้าง1โครงการ xxx ผู้ควบคุมงาน ต้องไปรับค่าทดสอบวัสดุจากผู้รับจ้าง1% ของมูลค่า และค่าป้ายเหล็ก ช่างคุมงาน ต้องเอาของเก่า ราคา 2,500 บาท และของค่าป้ายไวนิลอีก 2,500 บาท พอตรวจรับ ต้องไปรับค่ากรรมการตรวจรับจากผู้รับจ้าง1% ของมูลค่าโครงการมาเคลียร์ ให้กับกรรมการ พร้อมกับค่าควบคุมงาน1% ของมูลค่าโครงการ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมขององค์กร กองช่าง ที่ทำกันมา ข้าพเจ้าบรรจุ 1 มิถุนายน 2565 มาเจอระบบดังกล่าว พยายามปรับให้อยู่ได้ แต่ก็อยู่ไม่ได้ ขอยื่นลาออก ที่ ผอ.1 ธันวาคม 65แต่ยังมีงาน ยังไม่ตรวจรับอีกจำนวน 3 งาน ของ หจก.xxx คอนกรีต”

มันเป็นลูกจ้างเก่าแก่ของเทศบาล มันพูดเข้าขากันดีมากกับ ผอ. พอเอาตังค์เขามา แล้วงานมีปัญหา 6 วันตรวจรับ ผู้ตรวจรับโทร ให้ผมไปเอาตังค์มาเคลียร์กรรมการ แต่ผมไม่ได้ไป เพราะผมมองดูเนื้องานไม่เรียบร้อย ถนนร่อน แตกร้าว โครงการราคา 6 แสนกว่าบาท ฟันประมูลมาที่ 4 แสน ไหนต้องจ่ายให้นายกไปดูได้เลยครับงานเกือบจะทุกโครงการ ในเทศบาลตำบลxxx ล่าสุดมีแต่ หจก.xxx คอนกรีตได้ เพราะอะไร เพราะนายกรายงาน และคลังก็เป็นเหมือนตัวแทนผู้รับจ้าง เป็นคนดำเนินการทุกอย่างใหผู้รับจ้าง และได้ส่วนเปอร์เซ็นต์ ต่อโครงการ 3%ของมูลค่า

ผมมาบรรจุใหม่ กับให้ผู้ควบคุมงานตั้งแต่เดือนแรก ยังไม่รู้ระเบียบเท่าไหร่ แถมยังมาเจอการทุจริต จนเป็นระบบวัฒนธรรมของเทศบาลตำบลxxx ล่าสุดผู้รับจ้างขอเทคอนกรีต ตอนเย็น ด้วยความสงสาร เพราะไปรับตังค์ค่าทดสอบวัสดุและค่าป้ายประชาสัมพันธ์ เขามาเหมือนช่างคนอื่นๆ เพราะเรามาใหม่ ก็ต้องตามน้ำไปก่อน แต่เพราะด้วยนิสัยที่เป็นคนไม่มีเล่เหลี่ยม เหมือนเขาจ้างคนอื่น ทำให้กลายเป็นการเกรงใจ สงสารผู้รับจ้างขอเทปูนเย็น ผมจึงตกลงว่าเท แต่ผมก็ออกไปดูจนเทเสร็จ เช้ามาเหมือนว่ามีเรื่องร้องเรียนหรืออะไร แต่ทุกคนทำเป็นแสร้งว่าไม่มีอะไร ได้แต่พูดเหน็บเรา ทั้งที่รู้ว่าผมจะโดนอะไร ผมก็แค่คนคนหนึ่งที่ต้องการเรียนรู้ระบบราชการท้องถิ่น แต่สุดท้าย รู้ว่าผมปรับตัวเข้ากับระบบทุจริต จนเป็นนิสัยไม่ได้ ผมลาออกวันที่ 31 ตุลาคม มีผล 1 ธันวาคม

ระบบท้องถิ่นไม่รู้เป็นเฉพาะเทศบาลตำบลxxx หรือไม่ เป็นอะไรที่แย่มาก ช่างเหมือนเป็นเครื่องมือสำหรับทำเงินให้กับผู้บริหาร ไม่เฉพาะนักการเมือง ข้าราชการตัวใหญ่ เช่น ผอ.กองช่างก็ตัวดี คอยแต่จะหาเศษหาเลยจากโครงการ กรรมชั่วของพวกเขา เล่ายังไงก็ไม่หมด ขอให้พวกมันทุกคน ได้รับผลของการที่มันโกง ทุจริต หาเศษหาเลยจากหน้าที่ ร่างถ้ายังอยู่ดี บริจาคให้การวิภาคศาสตร์ มข.

นอกจากนี้ยังมีจดหมายที่เขียนติดต่อกันจำนวน 2 แผ่น เขียนว่า “ถึงพ่อกับแม่และxxx ผมขอโทษที่ต้องทำแบบนี้ ผมเจอการทำงานที่กลืนไม่เข้า คายไม่ออก เพื่อนร่วมงาน ลูกจ้างที่ไซโครให้ผมต้องไปพูดเอาเงินค่าทดสอบวัสดุและค่าป้ายประชาสัมพันธ์โครงการมาให้มันทำ

โดยเนื้อหาในจดหมาย เป็นการตัดพ้อในการทำงาน โดยผู้เสียชีวิตตั้งใจจะลาออกอยู่แล้วในวันที่ 1ธ.ค.65 แต่ต้องมีงานโครงการเคลียร์ 3 – 4 งาน แต่ก็ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองก่อน

ขณะที่ทีมผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของนายภาณุเมศวร์ ซึ่งญาตินำศพมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้าน โดยมีเพื่อนสนิทเพื่อนที่ทำงานที่เทศบาล เดินทางมาเคารพศพ และมีญาติที่ทราบข่าว เดินทางมาแสดงความเสียใจ โดยพ่อและแม่ยังเศร้าโศกเสียใจกับการที่ต้องสูญเสียลูกชายไปไม่มีวันกลับ

“นางปุ” อายุ 54 ปี เปิดเผยว่า

ยังทำใจไม่ได้ที่สูญเสียลูกชายไป กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นยังทำใจไม่ได้  ลูกชายไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ไม่เคยทำให้พ่อและแม่เสียใจ เข้ารับราชการไม่นาน จบวิศวกรโยธาที่ไม่คิดว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้และคิดสั้นฆ่าตัวตาย เรื่องราวที่เกิดขึ้นอยากขอความเป็นธรรมให้ลูกชายด้วย

ก่อนลูกชายจะเสียชีวิต ลูกชายได้ส่งของมาให้ เป็นเอกสารของรถยนต์ และมีจดหมายน้อยบอกว่า แม่ผมขอโทษไปเก็บของกลับบ้านด้วย และยังมีแหวนของลูกชาย ก็สงสัยคืออะไร ลูกชายเป็นอะไร ทำไมลูกชายส่งแหวนมาให้ เป็นแหวนที่แม่ซื้อให้เป็นของขวัญลูก โทรไปหาลูกชายก็ไม่รับ พอรู้ลูกชายเสียชีวิต แทนที่ลูกชายจะได้มาเผาพ่อเผาแม่ก่อน ไม่คิดว่าจะเป็นพ่อและแม่ต้องมาเผาลูกก่อน หากรู้ข่าวลูกชายจะคิดฆ่าตัวตายตนเองจะไปรับลูกชายมาอยู่ด้วยก่อน หัวอกคนเป็นแม่กล่าวตอนท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานข่าว ความเคลื่อนไหวล่าสุด ทางด้าน สมาคมศิษย์เก่าวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เชิดชูเกียรติ แด่ นายภาณุเมศวร์ วาสโสหา ศิษย์เก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ รุ่นที่ 51 (CE) วิศวกรผู้รักความถูกต้อง มากกว่าชีวิตตัวเอง #ยอมสละชีวิตแต่ไม่ยอมโกง เพื่อแสดงให้เห็นถึง #ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ที่ฝังรากลึกมานานในสังคม

ประวัติของวิศวกรโยธาชาวอุดร ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้ตัดสินใจกระทำอัตวินิบาตกรรม หลังประสบปัญหาความไม่โปร่งใสในหน่วยงานที่เขาเพิ่งรับราชการได้เพียง 6 เดือน

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: