5 ก.พ.2566 น.ส.เอ (นามสมมติ) เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ ถึงประเด็นที่เพื่อนบ้านตัวแสบ นำราวตากผ้ามาวางปิดทางเข้า-ออกหน้าบ้าน และยังนำรถกระบะมาจอดปิดหน้าบ้านอีก รวมทั้งเหิมเกริมถึงขนาดนำของมาวางไว้ในบ้าน จนไม่สามารถขายบ้านได้
น.ส.เอ กล่าวว่า บ้านหลังที่เกิดเหตุเป็นบ้านของพี่สาว ซึ่งประมูลซื้อมาจากธนาคารแห่งหนึ่งเพื่อนำมารีโนเวทและประกาศขาย ในราคา 9 แสนกว่าบาท แต่ประกาศมาครึ่งปี ก็ยังไม่สามารถขายได้ เนื่องจากทุกครั้งตั้งแต่ทำบ้านก็จะมีการเอาราวตากผ้ามา จักรยานยนต์ รถกระบะ รวมถึงทรายแมว เอามาไว้หน้าบ้าน แต่เราไม่เคยพูด
น.ส.เอ กล่าวต่อว่า ทุกครั้งที่เราเข้าไป เราก็ได้แต่เอาของยกออกแล้วก็ให้ลูกค้าเข้าไปดู และทุกคนที่เข้ามาดูเราจะแจ้งปัญหาให้ลูกค้าทราบก่อนเสมอ ว่ามีปัญหาเพื่อนบ้านแบบนี้ พอไม่มีคนมาอยู่ ก็จะมีนิสัยมักง่าย นำของมาวางไว้ เพราะว่ายังไม่มีคนมาอยู่ หากรับปัญหานี้ได้ ตนก็พร้อมขาย
น.ส.เอ กล่าวอีกว่า ล่าสุดตนเข้าไปที่บ้านกับพี่สาวอีกครั้ง ก็จะเตรียมถ่ายวิดีโอเอาไว้ เพราะทุกครั้งที่ไปก็เจอราวตากผ้าตลอด แต่วันนี้มันหนักกว่าเดิม มีของอยู่ในบ้านเยอะมาก ทุกคนก็งงว่าทำไมถึงนำของเข้ามาในบ้านเยอะขนาดนี้ ก่อนที่ตนจะเรียกเจ้าของบ้านหลังข้าง ๆ มาหยิบของออกไป โดยทางเพื่อนบ้านก็ได้แต่กล่าว “ขอโทษ” ซึ่งตนก็บอกไปว่ามันหลายครั้งแล้ว
น.ส.เอ กล่าวด้วยว่า มีอยู่วันหนึ่ง มีราวตากผ้ามาไว้หน้าบ้านเหมือนเดิม ตนก็เลยเดินไปถามว่ามีใครอยู่บ้านไหม ช่วยเอาราวตากผ้าออกจากหน้าบ้านที เนื่องจากลูกค้าจะเข้ามาดูบ้าน แต่ก็ไม่มีใครออกมา ตนจึงหยิบออกให้ แต่พอลูกค้าดูเสร็จ เพื่อนบ้านก็ออกมาหยิบราวตากผ้ามาไว้ที่เดิม ตนรู้สึกว่ามันเกินไป
น.ส.เอ กล่าวว่า ซึ่งเพื่อนบ้านหลังดังกล่าว ก็มีการต่อเติมบ้านจนสูง และปิดทึบไปหมดเลย ตนสันนิษฐานว่าเพื่อนบ้านหลังดังกล่าวคงมีคนอาศัยอยู่ที่บ้านเยอะ จนไม่สามารถมีพื้นที่สำหรับวางของ จึงหยิบยืมพื้นที่ข้างบ้านของตน ตนมองว่าทำแบบนี้ไม่มีความเกรงใจเลย ตนไม่รู้จะทำยังไง เพราะล่าสุดเพื่อนบ้านก็พูดยอกย้อนเหมือนไม่ยอมรับผิดในบางเรื่อง เนื่องจากเพื่อนบ้านหลังอื่น ๆ ก็มีการนำของมาวางไว้เช่นกัน เช่น ท่อน้ำ ไม้ถูพื้น เป็นต้น
“เราไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนบ้านต้องทำแบบนี้ แค่ราวตากผ้าก็ไม่ควรแล้ว เพราะมันบังป้ายเปิดขายบ้านอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทไหนที่ช่วยขายบ้านป้ายก็หลุดหมด แต่เราก็โทษใครไม่ได้เพราะเราไม่มีหลักฐาน เวลาบริษัทนายหน้าที่พาลูกค้าเข้ามาที่บ้าน ก็ไม่ได้มาดูละเอียดแบบเราขนาดนี้ เนื่องจากเราเป็นผู้เสียหายโดยตรง” น.ส.เอ กล่าว
น.ส.เอ กล่าวต่อว่า โดยตนมีบ้านที่ขายตั้งแต่ยังไม่ถึงล้านจนถึง 3 ล้าน แต่มีบ้านราคาเดียวกันแบบหลังที่เป็นประเด็น ก็ไม่มีปัญหา เนื่องจากไม่เจอคนที่มักง่ายแบบนี้ มีอยู่ครั้งหนึ่งลูกค้าจะซื้อบ้านหลังนี้ด้วยเงินสด แต่พอเจอสภาพแวดล้อมแบบนี้ลูกค้ารับไม่ได้และยกเลิกจองจนหนีหายไป
น.ส.เอ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นตนยังไม่แจ้งความ ถ้าคราวหน้ายังเจอของเข้าไปในบ้านอีก คงไม่มีการพูดคุยกันแล้ว ตนจะทำการล็อกบ้านทันที ไม่ให้เอาของออก และเรียกตำรวจได้เลย อยากจะฝากบอกเพื่อนบ้าน อย่าไปทำแบบนี้กับคนอื่น เขาอาจจะไม่ได้ใจดีแบบเรา คุณอาจจะโดนตำรวจจับไปแล้วเนื่องจากเรื่องบุกรุกเป็นคดีอาญา อาจคงขึ้นศาลไปแล้ว จึงขอร้องอย่างทำแบบนี้อีก
ข่าวจาก : ข่าวสด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ