ธอส.เชื่อธนาคารรัฐตรึงต่อไปอย่างน้อย3-6เดือน ยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้





ฉัตรชัย ศิริไล” กรรมการผู้จัดการ ธอส. เผย วิกฤติสถาบันการเงินในต่างประเทศ ไม่น่าส่งผลกระทบภาพรวมระบบการเงิน หรือระบบเศรษฐกิจ เชื่อสถาบันการเงินของรัฐ ตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไปอย่างน้อย 3-6 เดือน

วันที่ 16 มี.ค.2566 นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวถึงกรณีวิกฤติสถาบันการเงินในต่างประเทศ ว่ามองว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบกับภาพรวมระบบการเงิน หรือระบบเศรษฐกิจ แต่เป็นเรื่องที่สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนทั้งในตลาดเงินและตลาดทุนมากกว่า ราว 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากธุรกิจของสถาบันการเงินที่มีปัญหาเป็นธุรกิจค่อนข้างเฉพาะจึงไม่น่าจะมีผลกระทบมากนัก

แต่เชื่อว่าประเด็นดังกล่าวน่าจะมีผลกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไประยะหนึ่ง ซึ่งก็อาจจะส่งผลให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจจะยังไม่พิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของไทยด้วย

สำหรับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ยังยืนยันว่าจะมีการตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไปอย่างน้อย 3-6 เดือน ซึ่งปัจจัยทั้งหมดถือเป็นผลดีกับลูกค้าของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเปราะบาง

“ช่วง 3-6 เดือนนี้ เชื่อว่าแบงก์รัฐน่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ยกเว้นกรณีที่ตลาดหรือสถาบันการเงินบางแห่งมีแผนจะระดมทุนก็อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพื่อเป็นการระดมเงินทุนบ้าง แต่ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ช่วงนี้คงไม่เห็นมีการปรับขึ้น ส่วนในระยะต่อไปคงต้องติดตามเฟดว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป” นายฉัตรชัย กล่าว

สำหรับภาพรวมการปล่อยสินเชื่อของ ธอส. ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 15 มี.ค. 2566 ปล่อยได้แล้ว 3.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งแนวโน้มมีการเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ในปีนี้ธนาคารมีแผนในการบริหารจัดการหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) โดยจะมีการขายสินทรัพย์รอการขาย (NPA) วงเงินราว 1 หมื่นล้านบาท ในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. 2566 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวช่วยทำให้หนี้เสียของธนาคารในปีนี้ลดลงอย่างน้อย 1 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 6.5 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าสิ้นปีหนี้เสียของธอส. น่าจะอยู่ที่ไม่เกิน 4.25% บวกลบ

ทั้งนี้ ธอส. ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อความร่วมมือทางธุรกิจผ่านโครงการสินเชื่อบ้าน บสส. (SAM) by GHB ระหว่าง บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด โดยธนาคารได้เตรียมกรอบวงเงิน 800 ล้านบาท จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เพียง 3.80% ต่อปี เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนที่ต้องการซื้อบ้านมือสองจาก SAM เข้าถึงสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำ สำหรับกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสำดวกที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย

โดยผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นปีแรกเพียงเดือนละ 4.7 พันบาทเท่านั้น สามารถลดภาระการผ่อนชำระเงินงวดลงเมื่อเทียบกับการผ่อนเงินดาวน์เฉลี่ยเดือนละ 2-3 พันบาท ยื่นคำขอกู้อนุมัติและทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธ.ค. 2567 วงเงิน 800 ล้านบาทนี้ เป็นช่วงเริ่มต้น

กลุ่มเป้าหมายหลักคือกลุ่มที่กู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งจะเพียงพอรองรับ 400 ครอบครัว แต่หากยังมีความต้องการเพิ่มเติม ธนาคารก็พร้อมจัดเตรียมวงเงินเพิ่มเพื่อรองรับความต้องการ โดยยืนยันว่า ธอส. มีวงเงินเพียงพอที่พร้อมจะขยายเพิ่ม” นายฉัตรชัย กล่าว

ด้าน นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้จัดการ SMA กล่าวว่า การลงนามในครั้งนี้นำไปสู่การเปิดตัวแคมเปญสินเชื่อบ้าน บสส. (SAM) by GHB และโปรโมชั่น กู้ได้ให้เลย ซึ่งเป็นการให้บริการทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่าของ SAM ควบคู่กัน โดยมองว่าโครงการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์กับลูกค้าในกลุ่ม 2 ล้านบาทอย่างมาก

 

ข่าวจาก : ข่าวสด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: