สำนักข่าวอีทีทูเดย์รายงาน กรณีทางการแพทย์ที่ควรระมัดระวังและสังเกตร่างกายของตนเองเป็นประจำเสมอ โดยชายวัย 40 มีอาการไอนาน 1 เดือน เมื่อไปพบแพทย์ถึงกับช็อก เป็น “มะเร็งปอดระยะสุดท้าย” และ มีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ
นพ. ซู อี้เฟิง แพทย์ประจำแผนกเวชศาสตร์ทรวงอก กล่าวว่า ผู้ป่วยคนดังกล่าวมีพฤติกรรมสูบบุหรี่มา 20 – 30 ปี จากนั้นไม่นานมานี้ เกิดอาการไอหนักเป็นระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งแพทย์แนะนำผู้ป่วยให้รีบรักษาทันที อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยกลับกล่าวว่า “ไม่เชื่อ! ต้องเอาข้อมูลไปถามโรงพยาบาลอีกสองสามแห่ง!”
นพ. หลิน เมิ่งฮุย หัวหน้าแผนกการจัดการสุขภาพแห่งเมืองไทเปเตือนว่า มะเร็งปอดมักถูกเรียกว่า เพชฌฆาตเงียบ เนื่องจากมะเร็งปอดระยะแรกมักไม่มีอาการชัดเจน เมื่อมีอาการชัดเจนและเข้ารับการรักษา ส่วนใหญ่จะเข้าสู่ระยะลุกลาม ทำให้มะเร็งปอดมีอัตราการตายสูงและอัตราการรอดชีวิตต่ำ
นพ. หลิน เมิ่งฮุย กล่าวว่า การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ด้วยปริมาณรังสีต่ำ (LDCT) สามารถตรวจพบก้อนเนื้อในปอดที่มีขนาดเล็กกว่า 1 ซม. และมีความไวสูงและมีโอกาสตรวจพบรอยโรคได้เร็วกว่า จากหลักฐานทางการแพทย์
การตรวจคัดกรอง LDCT สามารถลดอัตราการเสียชีวิตของมะเร็งปอดได้ 20% ในผู้ที่สูบบุหรี่จัด โดยกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการและสมาคมมะเร็งปอดไต้หวันพบว่า การตรวจคัดกรอง LDCT สามารถเพิ่มอัตราการตรวจพบมะเร็งปอดในผู้ไม่สูบบุหรี่ แต่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง
นพ. ได หยู่ติง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลไทเป เตือนว่าการสูบบุหรี่เป็นปัจจัยที่ใหญ่ที่สุดในการเกิดมะเร็งปอด และโดยเฉลี่ย 85% ของการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดมาจากการสูบบุหรี่ ในบรรดาผู้ป่วยมะเร็งปอดที่สูบบุหรี่ อัตราการเสียชีวิตของผู้ชายอยู่ที่ 22 เท่าของผู้ไม่สูบบุหรี่และเพศหญิง แนะนำว่าควรเลิกบุหรี่ให้เร็วที่สุดและตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ