เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) วัย 13 ปี นักเรียนชั้นม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.สุรินทร์ ร้องทุกข์มายังเพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ถูกพ่อตีและไล่ออกจากบ้าน ต้องไปอาศัยอยู่บ้านเพื่อนเพราะห่วงเรื่องเรียนหนังสือ ต้องไปโรงเรียนทุกวัน และตอนนี้ไม่มีเงิน ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย พร้อมกับให้เบอร์โทรศัพท์ทิ้งไว้ หลังทราบเรื่องเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ ได้พยายามโทรฯ ติดต่อเด็กหญิงทันที แต่ไม่สามารถติดต่อได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ ได้พยายามติดต่อแม่และพี่สาวของเด็กแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก นางปวีณา เป็นห่วงเด็กหญิงมากจึงได้ให้เจ้าหน้าที่แช็ตข้อความไปหาเด็กพร้อมให้เบอร์โทรด่วน กระทั่งเด็กหญิงได้โทรกลับมา และแจ้งว่าบางช่วงเวลาต้องปิดโทรศัพท์เพราะเข้าเรียนและไม่ทราบว่าเบอร์ใครโทรมาจึงไม่กล้ารับ โดยนางปวีณา ได้พูดคุยกับเด็กหญิงสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เด็กหญิงเอ เล่าว่า พ่อแม่มีลูกด้วยกัน 3 คน และแยกทางกันตั้งแต่หนูเรียนอยู่ชั้นอนุบาล แม่แยกไปมีครอบครัวใหม่ที่จ.สมุทรสาคร และมีลูกใหม่อีก 2 คน ตอนนี้พี่สาวคนโตอายุ 16 ปี ไปอยู่กับแม่เพื่อช่วยเลี้ยงน้อง หนูเป็นลูกคนกลางอยู่กับพ่อ ส่วนน้องชาย 9 ขวบ ไปอยู่กับย่า วันก่อนพ่อดุด่าตีหนูและไล่หนูออกจากบ้าน หนูเสียใจมากจึงออกไปขออยู่บ้านเพื่อนเพื่อจะได้เรียนต่อ แต่ตอนนี้ก็ลำบากเพราะไม่มีเงินใช้จ่าย จึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ
หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.ยุทธนา จาตุรัตน์ ผกก.สภ.ดม นางสาวพัทธิอร กาฬสุวรรณ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ และนายสุพล เสตเขตต์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯ เดินทางไปพบเด็กที่โรงเรียน และลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านของเด็กหญิงเอ พบว่าพ่อของเด็กมีอาชีพรับจ้างขุดมันสำปะหลังรายได้ไม่แน่นอน สภาพความเป็นอยู่ที่บ้านไม่ค่อยเหมาะสมในการเลี้ยงดูลูก
จากการสอบถาม เด็กหญิงเอ อยากไปอยู่กับแม่ที่ จ.สมุทรสาคร แต่แม่มีภาระเลี้ยงดูลูกเล็ก 2 คน ซึ่งเกิดจากสามีใหม่ เด็กหญิงเอ จึงอยากไปอยู่โรงเรียนประจำเพื่อจะได้เรียนหนังสือ โดยเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯ ได้รับเด็กหญิงเอเข้าคุ้มครองสวัสดิภาพ ก่อนจะทำเรื่องเรื่องย้ายโรงเรียนให้ไปศึกษาต่อที่โรงเรียนประจำแห่งหนึ่งเพื่อให้ได้รับการดูแลที่เหมาะสม ซึ่งพ่อแม่เด็กก็ยินยอม ขณะที่เด็กหญิงเอ เมื่อรู้ว่าจะได้เรียนต่อในโรงเรียนประจำก็ดีใจมาก และสัญญาจะตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า ขอบคุณ พ.ต.อ.ยุทธนา จาตุรัตน์ ผกก.สภ.ดม นางสาวพัทธิอร กาฬสุวรรณ พัฒนาสังคมฯ สุรินทร์ และนายสุพล เสตเขตต์ หัวหน้าบ้านพักเด็กฯ สุรินทร์ ที่เข้าช่วยเหลือเด็กหญิงรวดเร็ว และช่วยเด็กให้ได้เข้าเรียนต่อโรงเรียนประจำเพื่อจะได้มีอนาคตที่ดี ทั้งนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือเด็กหญิงรายนี้ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ต่อไป
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ