9 ตุลาคม พ.ศ. 2544 เล่ย หวู่เจ๋อออกจากบ้านของเขาในเมืองเยว่หยาง มณฑลหูหนาน โดยไม่รู้ว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะไม่ได้เห็นหน้าลูกชายของเขาเป็นเวลากว่าสองทศวรรษ เล่ย หวู่เจ๋อทิ้งเล่ย เยว่ฉวน ลูกชายวัย 4 ขวบให้เล่นภายใต้การดูแลของเพื่อนบ้านคนหนึ่งของเขา
ทว่าดันเกิดข่าวร้ายไม่คาดคิด เพื่อนบ้านหญิงคนดังกล่าวบอกตำรวจในภายหลังว่า พวกเขาได้พบกับชายที่น่าสงสัยบนถนน ซึ่งภายหลังได้วางกับดักจับเด็กและลักพาตัวเขาไปโดยที่เธอไม่ได้สนใจ ทำให้เล่ย หวู่เจ๋อเศร้าเสียใจและรู้สึกผิดกับตัวเองมานาน หลังจากการลูกชายถูกลักพาตัว เขาและภรรยาก็มีลูกสาวด้วยกัน 1 คนแต่เขาไม่เคยหมดความหวังว่า สักวันหนึ่งจะได้เห็นหน้าลูกชายอีกครั้ง
เล่ย หวู่เจ๋อและภรรยาซื้อของขวัญวันเกิดให้ลูกชายทุกปีแม้ว่าเขาจะไม่อยู่ พร้อมอุทิศทั้งชีวิตเพื่อตามหาลูกชายด้วยการถือรูปลูกชายของเขาและหยุดผู้คนที่สัญจรไปมาเพื่อถามว่าพวกเขาเห็นเด็กคนนี้บ้างหรือไม่ เสนอรางวัล 250,000 หยวน (ราว 1,212,078 บาท) สำหรับเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับลูกชาย รวมถึงโพสต์แผ่นพับทั่วประเทศจีน ออกอากาศสารคดีเรื่อง “Twelve Years of Finding a Son” และออกวิทยุกระจายเสียง
กว่า 22 ปีที่เล่ย หวู่เจ๋อใช้เวลาตามหาลูกชายของเขา ทำให้เขากลายเป็นเพื่อนกับพ่อแม่เด็กคนอื่น ๆ ที่หมดหวังที่จะตามหาลูกที่ถูกลักพาตัวไป รวมถึงได้เห็นพวกเขาหลายคนกลับมาอยู่กับลูกหลานอีกครั้ง
ทำให้เล่ย หวู่เจ๋อมีความหวังว่า สักวันหนึ่งเขาก็จะได้กอดลูกชายไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง แม้จะอายุมากขึ้นและรู้สึกเหนื่อยมากขึ้นทุกปีที่ผ่านไป แต่เขาก็ไม่เคยยอมแพ้ เขาพยายามมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้กระทั่งหันไปใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้ารุ่นทดลอง
รวมถึงในสองทศวรรษที่ผ่านมา เล่ย หวู่เจ๋อได้พบกับตำรวจมากกว่า 300 นาย ซึ่งบางคนช่วยเหลือเต็มที่ บอกต่อเบาะแสที่เป็นประโยชน์หลายร้อยเมืองทั่วประเทศจีน ซึ่งทุกครั้งเขาก็รีบไปที่นั่นเพื่อค้นหาร่องรอยที่คลุมเครือของลูกชาย แต่เขามักจะกลับบ้านด้วยความผิดหวังเสมอ จนกระทั่งปีนี้ ความพยายามของเขาก็ได้รับผลตอบแทนในที่สุด
เล่ย หวู่เจ๋อใช้ซอฟต์แวร์การจดจำใบหน้าที่ทันสมัย ซึ่งสื่อจีน ขนานนามว่า “Face Recognition 2.0 Prototype” โดยตำรวจใช้ซอฟต์แวร์นี้เพื่อค้นหา ใช้แบบจำลองอายุตามรูปถ่ายของ เล่ย เยว่ฉวนตอนเด็ก
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา เล่ย หวู่เจ๋อได้รับแจ้งจากสำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะเทศบาลเมืองเซินเจิ้นว่าดีเอ็นเอของเขาตรงกับชวนชวน ชายวัย 26 ปีในเมืองเซินเจิ้น ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เยว่ฉวนถูกจับตัวไปมากกว่า 900 กิโลเมตร ทั้งนี้ ในตอนเย็นของวันที่ 23 มิถุนายน มีการตรวจดีเอ็นเอครั้งที่สองและได้รับการยืนยันว่าตรงกัน
เล่ย หวู่เจ๋อถึงกับจูบหน้าจอโทรศัพท์หลังจากรู้ว่าเขาประสบความสำเร็จในการตามหาลูกชาย ไม่ใช่เขาที่ดีใจ ทางครอบครัวไม่สามารถระงับความสุขในใจได้ “ตอนนี้ผมตั้งหน้าตั้งตารอและรอคอยด้วยใจจดจ่อ ผมได้เตรียมห้องให้ชวนชวนเลือกเป็นพิเศษ 2 ห้อง ผมซื้อเตียงใหม่ ถ้าเขากลับมา เขาสามารถเลือกห้องที่เขาชอบอยู่ได้ น้องสาวก็หยิบเงินออมของเธอออกมาเป็นพิเศษเช่นกัน เพื่อรอคอยพี่ชายกลับบ้าน”
ที่น่าสนใจคือ เล่ย หวู่เจ๋อเคยไปเซินเจิ้นหลายครั้ง ครั้งหนึ่งแม้จะอยู่ห่างจากบ้านของลูกชายไม่กี่กิโลเมตร แต่เขากลับถึงบ้านด้วยความผิดหวังเสมอ ทางเล่ย หวู่เจ๋อขอขอบคุณผู้คนมากมายที่ช่วยเหลือเขาตามหาลูก
ก่อนจะเดินทางไปเซินเจิ้นเพื่อพบกับลูกชาย วัย 26 ปี ครอบครัวเตรียมอาหารพิเศษของมณฑลหูหนาน ของขวัญ พร้อมเตรียมรับลูกชายกลับบ้าน แม้จะโดนแซวว่าเตรียมของขวัญมากมายเกินไปมั้ย แต่ทางเล่ย หวู่เจ๋อบอกว่า ลูกชายเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เขาหวังว่าหลาย ๆ ครอบครัวจะประสบความสำเร็จและช่วยให้เด็ก ๆ กลับบ้านมากขึ้น ซึ่งเป็นบทสรุปที่ประทับใจของเรื่องราวอันน่าสะเทือนใจที่กินเวลากว่าสองทศวรรษ อย่างไรก็ตาม ตามรายงานของสื่อจีน ลูกชายของเขาไม่เต็มใจที่จะยอมรับความเป็นจริงในขณะนี้และปฏิเสธที่ติดต่อครอบครัวทางสายเลือดที่แท้จริงของตนเอง
ซึ่งทางเล่ย หวู่เจ๋อส่งวิดีโอคอลหาลูกชายและอ้อนวอนขอพบ ซึ่ง้ขาก็เข้าใจเพราะเด็กเพิ่งได้ยินข่าววันนี้ และคงคิดว่ามันยากที่จะยอมรับ “มันเกิดขึ้นกะทันหัน พ่อขอโทษที่รบกวนชีวิต ของลูกที่นี่ ลูกมีความกังวล พ่อเข้าใจ มาเผชิญหน้ากัน แก้ปัญหา” ทั้งนี้ เล่ย หวู่เจ๋อก็เตือนตัวเองอยู่เสมอว่าให้เคารพ ความปรารถนาของลูกชายระวังคำพูดและอย่าสร้างภาระทางจิตใจให้กับลูกมากเกินไป
ข่าวจาก : ข่าวสด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ