กรณีทางกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ได้เข้ายื่นหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ให้ดำเนินการกับพระพยอม กรณีที่พระพยอมแสดงออกทางการเมือง ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราว โดยชื่นชม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่า มีคุณสมบัติความเป็นผู้นำสูง คนแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ ขณะถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่เขากลับทักทายร่ำลาโบกมือ คุมอารมณ์ได้ดีมาก ไม่มีอาการสั่นเครือ หรือร่ำไห้ออกมา เลือกตั้งรอบหน้าคะแนนฉลุย พร้อมดึงสติด้อมส้ม
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวกับพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว
พระพยอมกล่าวว่า คำว่าชมมันดีกว่าแช่งไหม ไม่เหมือนพระเค ร้อยล้าน ที่ทำพิธีแช่ง พระแช่งไม่ได้มีหน้าที่ต้องให้ศีลให้พร และพระพุทธเจ้าบอกว่า การยกย่องคนดีชื่นชมคนดี ไม่มีอะไรที่จะเห็นว่าผิดหลักผิดเกณฑ์เลย และคำว่าชมนี้ไม่ได้บอกว่าพรรคนี้เก่ง ชมเฉพาะพฤติกรรมบางตอน เช่น ตอนที่โดนหนักแต่ยังไม่แสดงอาการสะอึกสะอื้น น้ำตาไม่คลอ เสียงไม่สั่น อย่างนี้เขาเรียกคนเก็บอารมณ์ก็ต้องชม แต่คนบางคนเก็บไม่อยู่เลยปรี๊ดแตก ตะพึดตะพือแบบนั้นก็ไม่ชมอยู่แล้ว
พระพยอมกล่าวอีกว่า หลักสำคัญอยู่ว่าอาตมานี้อยู่ในจังหวัดนนทบุรี แล้วคนจังหวัดนนทบุรี เขาก็ให้คะแนนคุณพิธา ยกทั้งจังหวัดเลย ไม่เหลือสักคนเดียว ส.ส.พรรคอื่นไม่ได้เลย แล้วเราอยู่บ้านเดียวกัน จังหวัดเดียวกัน จะมีความเห็นขัดแย้งไปเพื่ออะไร อาตมาชมนิดชมหน่อยจะเป็นอะไรไป แต่ถ้าไปตำหนิสิจะอยู่ร่วมกันในจังหวัดยาก คนจังหวัดนนท์เขาเทให้แล้ว แล้วเราจะไปท้วงไปติง ไปตำหนิติเตียนแล้วมันจะอยู่ร่วมบ้านร่วมเมืองกันได้อย่างไร เพราะฉะนั้นคนเมืองนนท์เราไม่ต้องการให้มาขัดแย้งกัน ถ้าไปตำหนิหรือว่าคุณพิธาเยอะๆ แล้ว คงไม่ต้องฉันข้าวคงต้องฉันหญ้าแทน
“เพราะฉะนั้นจึงอยากจะบอกว่า ไม่ว่าใครจะไปร้อง จะฟ้องก็ไปเถอะ เพราะว่าถ้าพระพยอม ผิด 4 อย่างนี้ พระพยอมไปมีเพศสัมพันธ์กับสีกา พระพยอมฆ่าคนตาย พระพยอมลักทรัพย์มนุษย์เกิน 5,000 บาท หรือพระพยอมอวดอุตตริมนุสสธรรม 4 อย่างนี้พระพยอมก็อยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นคนที่พูดด่าโดยไม่มีข้อมูลโบราณเขาเรียกว่า ไม่รู้ไม่ชี้ดีที่สุด ไม่รู้แล้วอวดชี้ แต่คนเดี๋ยวนี้แปลกชอบเชื่อคนพวกนี้ อย่างตอนนี้เห็นมีติ๊กต็อก ถ้าได้ด่าใครแล้วมีคนเข้ามาเสิร์ชเยอะๆ ดูเยอะๆ เขาก็จะได้สตางค์ เพราะฉะนั้นโยมต้องมีสติ เพื่อไม่ให้เขากอบโกยสตางค์จากการด่าคน แล้วด่าคนก็ต้องเป็นคนดังๆ พระดังๆ ถ้าด่าคนไม่ดังสตางค์ไม่เข้าอะไรแบบนี้”
พระพยอมกล่าวว่า โยมต้องคิดกันให้เยอะๆ นะ หลวงพ่อท่านพุทธทาสเคยพูดไว้ไม่มีผิดเลย ต่อไปโลกจะวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีซึ่งจะนำไปสู่ความวินาศทางศีลธรรม ตอนนี้ชัดแล้วด่ากันทางติ๊กต็อก ด่ากันทางโซเชียล อาตมาไม่คิดเลยว่าเขามีอาชีพด่าคนแล้วได้สตางค์ มันเป็นยุคอะไรกันแน่ แล้วก็เป็นยุคที่เชียร์ใคร ชมใครไม่ได้ที่หลังก็คงลำบากกับสื่อนะ ปีนี้เข้าพรรษาว่าจะเงียบๆ ไม่โต้ตอบเรื่องการเมือง เพราะว่าขี้เกียจกลัวกระสุนตกลงวัดมากเหลือเกิน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางสำนักพุทธศาสนาได้มีหนังสือมาตักเตือนบ้างหรือยัง พระพยอมกล่าวว่า ยังไม่มีหนังสือมา ปกติก็มาหามาคุยกันบ่อย มาเถอะอาตมาจะไม่เป็นพระดื้อ เมื่ออะไรไม่ให้พูด พูดแล้วเกิดความเสียหายในบ้านเมืองก็หยุดพูด ที่พูดไปเป็นแค่ออกความเห็น ว่าถ้าปฏิรูปหรือแก้กฎหมายบางเรื่องที่ให้มีความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำใครๆ ก็นิยมเพราะเป็นหลักสากลโลกอยู่แล้ว
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ