เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานเรื่องราวของ นักธุรกิจชาวอิตาลี ที่ออกมาแชร์ประสบการณ์สุดเฟลระหว่างไปเที่ยวเมืองแซ็ง-ทรอเป ฝรั่งเศส และทานอาหารที่ร้านหรูหราในรีสอร์ทที่มีชื่อเสียง หลังจากทานเสร็จเขาก็ไม่ลืมวางทิปไว้บนโต๊ะ ก่อนที่จะลุกออกไปจากร้านดังกล่าว
หลังจากนั้นเขากลับถูกพนักงานของร้านอาหารไล่ตามออกมาตลอดทางจนถึงที่จอดรถ และบอกว่าเงินจำนวน 500 ยูโร หรือราว 2 หมื่นบาท ที่เขาวางทิ้งไว้บนโต๊ะนั้น เป็นทิปที่น้อยเกินไป และยังบอกให้เขากลับไปที่ร้านอาหาร เพื่อจ่ายทิปอีก 2 หมื่นบาท การกระทำนี้ทำให้เขาโกรธและวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง พร้อมประกาศว่า “ฉันจะไม่ก้าวเท้าเข้ามาที่นี่อีก”
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นฝรั่งเศส เผยถึงคำบอกเล่าของเพื่อนของนักธุรกิจรายนี้ ระบุว่า ตอนแรกเขาคิดว่าเงิน 500 ยูโรหรือราว 2 หมื่นบาท ที่ทิ้งไว้นั้นมีค่ามากแล้ว อย่างไรก็ตาม แทนที่พนักงานจะขอบคุณ กลับตำหนิว่าเงินไม่มากพอ บริกรบอกเขาว่าให้ทิปน้อยไป และเขายังต้องควักเงินจ่ายให้หนักกว่านี้อีกเล็กน้อย เพื่อให้ทิป 1,000 ยูโรหรือราว 4 หมื่นบาท หรือคือ 20% ของบิลทั้งหมด เนื่องจากเป็นธรรมเนียมของทางร้าน
อันที่จริง กรณีของนักธุรกิจชาวอิตาลีรายนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เนื่องจากเคยมีนักท่องเที่ยวถูกร้านอาหารริมทะเลบางแห่งในฝรั่งเศส เรียกขอทิปขั้นต่ำ 1,500 ยูโรหรือราว 58,000 บาท
นอกจากนี้ ที่ร้านอาหารระดับไฮเอนด์บางแห่ง ระบุไว้เลยว่า ลูกค้าจะต้องให้ทิปอย่างน้อย 10,000 ยูโรหรือราว 390,000 บาท และที่เหลือเชื่อกว่านั้นคือ ร้านอาหารบางแห่งอนุญาตให้พนักงานสร้าง “บัญชีดำลูกค้าที่ไม่ให้ทิป” เพื่อคัดกรองแขกตามความสามารถทางการเงินด้วย
ทั้งนี้ หลังจากโพสต์แชร์ประสบการณ์ดังกล่าวแพร่ออกไป ก็เกิดเสียงวิจารณ์สนั่นบนโลกโซเชียล จนทำให้รัฐบาลท้องถิ่นต้องเข้ามาดำเนินการ จำเป็นต้องวางแผนที่จะกำหนดอัตราทิป และมาตรฐานสำหรับทิปเสียใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน
ล่าสุด นายกเทศมนตรีเมืองแซ็ง-ทรอเป ได้เรียกร้องให้เจ้าของร้านอาหารจัดการประชุมร่วมกัน เพื่อป้องกันและยุติสถานการณ์ความขัดแย้งเหล่านี้ และเปลี่ยนวิธีการต้อนรับลูกค้าให้เป็นทางการมากขึ้น
ข่าวจาก : ข่าวสด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ