เกินไปไหม…!! เมื่อเมียเปิดประตูไปเจอผัวนอนกับสาวอื่นที่บ้านตัวเอง แถมยังทำสิ่งนี้กับเธอซึ่งๆหน้า สารภาพ 2 รอบไม่ใส่ถุงอีกต่างหาก จิตใจทำด้วยอะไร….?!!!





6 ปีก่อนหากฉันไม่มีผู้ชายคนนี้อยู่เคียงข้าง บางทีชีวิตฉันในวันนี้อาจจะเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีสาระอะไรในชีวิตก็เป็นได้ 

? เธโอ ลูกรู้ไหมว่าลูกคือ ดวงใจของแม่ ?

ในวันที่ลูกอายุได้ 3 เดือน แม่ได้ยินคำพูด ที่ทำให้แม่ฮึดสู้และก้าวผ่านกับคำพูด ประโยคนั้น จากครอบครัวของพ่อลูก พวกเขาได้บอกกับแม่ในวันที่แม่ อุ้มลูกเข้าไปขอความช่วยเหลือ ให้ช่วยซื้อนมให้ลูก

และประโยคที่แม่จำฝังใจมาจนถึงวันนี้
คือคำพูดที่ว่า " ถ้าแม่ไม่มีปัญญาเลี้ยงลูก ก็ให้แม่เอาลูกไว้ให้พวกเขาเลี้ยง "

วินาทีนั้นทั้งเสียใจ และรู้สึกสมเพชตัวเอง ที่อุตส่าห์บากหน้าอุ้มลูกเพื่อไปขอความเมตตา จากครอบครัวของพ่อลูก 

หลังจากได้ยินคำพูดนั้น แม่ก็ไม่รีรอ อุ้มลูกเดินออกมาจากบ้านนั้นทันที และบอกกับตัวเองว่า 
ถึงแม่จะอดอยากไม่มีจะกินแค่ไหน แม่ก็จะเลี้ยงลูกให้เติบโต ให้จงได้ …

ถึงพ่อของลูก: หากเธอ และครอบครัว บังเอิญได้อ่านเจอโพสนี้ของเรา อยากจะบอกว่าเราไม่ได้มีเจตนา เข้ามาโพสเพื่อต่อว่าถึงอดีตที่ผ่านมา  หากเราต้องการ
โพสเพือให้พวกเธอเสียหายเราคงไม่ปล่อยให้เวลาผ่านมาถึง 6 ปี
แต่ที่เราโพสในวันนี้ เราเพียงอยากให้เธอรับรู้ว่าเรากับลูกสุขสบายดี ไม่อดมื้อกินมื้อเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

ขอบคุณที่หลังจากนั้นไม่นาน ครอบครัวของเธอก็ยัง
ใจดีซื้ิอนมมาให้หลาน หากวันนั้นเรายอมยกลูกให้พวกเธอ เราคงเสียใจไปตลอดชีวิต 

กว่าจะมีวันนี้ได้ เราผ่านอะไรมามากมายอยากเล่าและระบายบ้าง ว่าจุดพลิกชีวิตของเรากับลูก เจออะไรมาบ้าง??

ย้อนกลับเมื่อ ปี 2010 
ลูกเกิดได้เพียง 6 วัน 
พ่อของลูกก็ได้บอกกับเราว่า ต้องการขอไปบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่ของเค้า

ซึ่งตอนนั้นลูกพึ่งเกิดได้เพียง 6 วันเราก็ไม่อยากให้เค้าไปเลย แต่ด้วยความที่เค้าอยากบวช( โครงการพระแสนรูป กับทางวัด … ) 

เราจึงยอมให้ไปด้วยไม่อยากเป็นมารผจญ เลยต้องยอมสวมบทแม่พระ อนุโมทนาบุญกับเค้าในการบวชครั้งนี้

ตลอดเวลาที่เค้าบวชก็จะไปปฎิบัติธรรมตามสถานที่ต่างๆที่ทางวัดได้กำหนด เราจึงไม่ได้พบเค้าเลย
เมื่อเวลาผ่านไป ลูกได้ 2 เดือนกว่า เราก็ติดต่อสอบถามไปยังท่านเจ้าอาวาส ว่า เค้าไปออกปฎิบัติแถวไหนบ้างเผื่อ เราจะพาลูกไปทำบุญกับพ่อ 

ซึ่งคำตอบของท่านเจ้าอาวาสทำเอาสมองเราหนักอึ้งไปเลย
เมื่อท่านบอกว่า เค้า ได้สึกออกไปหลายวันแล้ว!!

แต่ๆๆๆ ทำไมเค้าไม่ติดต่อมาหาเรากับลูกเลย หลังจากวางสายเราก็รีบโทรติดต่อไปทางครอบครัวเค้า คำตอบที่ได้คือ เค้าไม่อยู่บ้าน ออกไปไหนไม่รู้

นั้นหมายถึงว่า เค้าสึกออกมาแล้วจริง แต่ไม่กลับมาหาเรากับลูกเลย จนกระทั่งเราติดต่อเค้าได้ และเค้ายอมกลับมาบ้าน 
อ้างนู้นนี่นั้น สารพัด ถึงเหตุผลที่ยังไม่ได้ติดต่อกลับมาหา

จนค่ำวันนั้น เค้าวางมือถือทิ้งไว้แล้วไปอาบน้ำ เราได้ยินเสียงข้อความเข้ามา ก็เปิดอ่านดู ตอนนั้นหัวใจสั่นรัวๆ กับข้อความของเธอคนนั้นที่ส่งมาบอกรักมากมายให้กับเค้า
เราเลยมีโอกาสได้เปิดอ่านข้อความก่อนหน้านี่  ที่พวกเค้าส่งหากัน รักนะจุฟๆ คิดถึงมากนะ อะไรประมาณนี้ 

พอเค้าออกห้องน้ำมา เราก็เปิดศึกมวยไทย ว่าผู้หญิงคนนี่คือใคร เค้าบอกเป็นคนที่มาชอบเค้า เค้าไม่ได้เล่นด้วย เราก็ย้อนถามว่า ถ้าเธอไม่เล่นด้วยแล้วทำไมถึงส่งข้อความบอกรักกันซะขนาดนี้ 

 

[ads]

เมื่อโดนไล่บี้ จนตรอก เค้าก็บอกว่าไม่ได้คิดจะคบจริงจัง แค่เล่นๆ แต่สำหรับเราตอนนั้น ลูกกำลังจะได้ 3 เดือน พ่อก็ยังมามีคนอื่นอีก จับได้แล้วยังจะแถจนถลอกสีข้าง ถึงจะยอมรับ

สุดท้ายเราบอกเค้าว่าเรารับไม่ได้ที่เค้ายังเจ้าชู้ไม่เลิก เราจึงบอกเลิกกับเค้าและให้เค้าเก็บของออกจากบ้าน( เช่า) ไป
เค้าพูดย้อนออกมาว่า เธอเป็นคนเลือกเองนะที่จะเลิกกัน 

เราก็บอกใช่เพราะถึงยังคบต่อ ไม่รู้ เขา( ควาย) จะงอกออกหัวอีกกี่เขา แค่ 2 เขาก็คงไม่พอ พื้นที่หนังหัวเราหรอก

เพราะก่อนหน้าที่ลูกจะเกิด เราก็เคยให้อภัยกับความเจ้าชู้ของเค้ามาแล้วครั้งหนึ่ง

ย้อนไปเมื่อตอนตั้งท้องได้ 3 เดือน ตอนนั้นเราแพ้ท้องหนักมาก จนถึงขั้นต้องไปนอนให้น้ำเกลือ ที่รพ. กินข้าวกินน้ำไม่ได้เลย 

เราได้โทรคุยกับเค้าว่า คืนนี้จะแวะเข้ามาหาเราไหมหลังเลิกงาน เค้าบอกว่าจะแวะไปหานะ

รอ รอ รอ จนหลับ…..
ฝันคะ ในฝันนั้นเห็นผู้หญิงแต่งตัวแบบคนไทยโบราณ ชุดสีเขียวชฎาสีเขียว เดินนำหน้าพาเราไปที่ไหนสักที่ แต่เดินไปได้สักพัก เท้าเราได้ไปเหยียบโดนพระองค์เล็ก หักครึ่งคาเท้าเลย จากนั้นก็สะดุ้งตื่น..

อ้าวเช้าแล้วนี่ กดมือถือโทรหาเค้า ก็ไม่รับสาย เมื่อคืนก็ไม่ได้มาหา ทั้งที่รับปากเราแล้วว่าจะมา เราก็เป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเค้ารึเปล่า เพราะบ้านเขากับรพ.ที่เรานอนอยู่ ก็อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนกันแค่นี้เอง 

โทรๆๆๆจนแบตเราจะหมด เค้าก็ไม่รับสาย จึงตัดสินใจ เดินถือสายน้ำเกลือ เข้าลิฟท์เพื่อที่จะกดลงไปชั้นล่าง 

แต่ขณะที่เข้าลิฟท์ไปนั้น พอประตูลิฟท์ปิดลง เรากำลังจะเอื้อมมือไปกด ชั้นที่จะลงไป ปรากฎว่า!!!!! ยังไม่ทันได้จิ้มกด ลิฟท์ก็เคลื่อนตัวลงไปอย่างรวดเร็วไม่หยุดสักชั้น จนถึงชั้นสุดท้าย เพราะเจ้าช่วย กล้วยทอด !! ตอนนั้นกลัวมาก กลัวลิฟท์ตกลงไปกระแทก ( แบบในหนังที่เคยดู ) กลัวตายมากเลยตอนนั้น ??

พอลิฟท์หยุด ประตูเปิด แค่นั้นแหละ วิ่ง 4×100 ลืมตัวว่ากำลังท้องอยู่ วิ่งจนพ้นลิฟท์ตัวนั้น แล้วยืนหอบแห่กๆ เลยคะ 

แต่ก็ยังนึกชื่นชม ว่าลิฟท์นี่มันฉลาดนะ มันรู้ได้ไงว่าเราจะลงไปชั้นล่างสุด ไม่ถงไม่ถามฉันสักคำ ลากลงมาเองโดยอัตโนมัติเลย 

พอตั้งสติได้ ก็ค่อยๆเดินตรงไปทางออกรพ. ปกติแล้ว ยามจะไม่ให้คนไข้เดินออกไปนอกรพ.นะคะ แต่พอดีรู้จักกันกับยามและบอกว่าจะเดินข้ามไปบ้านแฟนแปปหนึ่ง ยามก็บอกรีบไปรีบมานะ

พอข้ามถนนมาถึงบ้าน เราก็เดินไปหน้าห้องของเราที่อยู่กับเค้า เคาะประตูอยู่หลายรอบก็ไม่มีคนเปิด สักพักเค้าก็ตะโกนถามมาว่าใคร เราก็บอกไปว่า เราเองเปิดประตูสิ มัวทำไรอยู่ เงียบไปอึดใจหนึ่งเค้าก็เปิดประตูห้อง

แต่เรามองไปที่พื้นข้างประตูห้องเห็นมีรองเท้าของผู้หญิงวางอยู่ เราก็คิดว่าของน้องสาวเค้ารึเปล่าก็ยังไม่ได้เอะใจ

แต่เป็นตัวเค้าเองที่ร้อนตัวและพูดออกมาเองว่า เค้าไม่ได้ตั้งใจทำ เราก็ยัง งง ย้อนถามเค้าว่า เธอหมายถึงอะไร.

 

 


เค้าไม่ตอบแต่เรียกผู้หญิงคนนั้นให้ออกมาจากห้องนอน และผู้หญิงคนนั้นเดินออกมาพร้อมกับนุ่งผ้าเช็ดตัวของเราออกมา

ถึงบางอ้อเลยคะ ตอนนั้น เรานิ่งมาก ไม่ด่าไม่โวยวาย ไม่ร้องไห้เลย แค่ทรุดลงไปกองกับพื้นห้องคะ เข็มที่แทงอยู่ก็หลุดออกกับสายน้ำเกลือแต่ไม่รู้สึกเจ็บเลย มัวแต่สวมบทนางเอกลืมเจ็บไปซะงั้น

พอมองดูชัดๆที่บนตัวเค้า ก็เห็นรอยแดงๆจ้ำๆ หลายจุดตั้งแต่คอลงมาถึงหน้าอก และเค้าพูดขอโทษ เราก็มองไปบนที่นอนของเรา เห็นกางเกงในของผู้หญิงคนนั้นตกอยู่บนนั้น และเธอคนนั้นก็หยิบเสื้อผ้าเข้าไปแต่งตัว พอออกมาหล่อนก็นั่งไขว่ห้างลงบนที่นอนและถามเค้าว่า เค้าจะเลือกใครระหว่างหล่อนกับเรา ซึ่งยืนอุ้มท้องลูกของเค้าอยู่ (นางช่างกล้าถามมาก นับถือจริงๆ )

แต่เค้าก็ดันตอบได้น่า...มาก
ว่าเค้าไม่รู้จะเลือกใคร ? ผู้หญิงคนนั้นก็เดินเข้ามาตบหน้าเค้า ซึ่งจริงๆแล้วฉากนี้มันต้องเป็นเรานะที่ต้องโกรธและตบหน้าเค้า ไม่ใช่หล่อน.

หล่อนโมโหที่เขาได้หล่อนแล้วจะไม่รับผิดชอบเลยตบเข้าให้เลย 

ส่วนตัวเราก็ถามเค้าตรงๆว่า เอากันกี่รอบ เขาบอก 2 ไม่ได้ใส่ถุงอีกต่างหาก ..

เราก็ถามเค้าว่า เธอทำได้ยังไง รูปคู่ของเราก็ตั้งอยู่บนหัวเตียงขนาดนั้นเธอทำไมถึงไม่หยุดคิดสักนิด เค้าตอบกลับมาเบาๆว่า ก็มันมืดน่ะเค้ามองไม่เห็น???? ชนะเริ่ดคะ 
ปิดไฟเอากันมืดหมดเลยมองไม่เห็น สำนึกไม่ทัน จัดไปซะ 2 รอบ 

หมดคำพูด เราเลยเดินแบกเหล็กห้อยน้ำเกลือ เดินเข้าไปหาแม่เขาว่าตอนนี้ เค้าเอาผู้หญิงมานอนที่ห้อง และเราคงจะไม่กลับมาอยู่บ้านเค้าอีกแล้ว 

จากนั้นก็เดินข้ามถนนกลับไปรพ. พอถึงเตียงนอนเท่านั้นแหละคะ บ่อน้ำตานางเอกแตก ตอนที่อยู่ต่อหน้าพวกนั้นเราไม่มีน้ำตาเลยนะ ไม่ใช่ไม่อยากร้องแต่มันอึ้งจนร้องไม่ออก

พอตั้งสติได้ก็โทรบอกแม่กับพี่
ปรึกษากันว่าจะทำยังไงต่อไป
ระหว่างนั้น ช่วงค่ำเค้าก็มาหาเรา มาขอโทษขอให้เราอภัยและอย่าเลิกกับเค้าเลย เค้าจะเลิกกับผู้หญิงคนนั้น และเค้าได้ส่ง sms บอกผู้หญิงคนนั้นให้ไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินด้วยถ้าไม่อยากท้องเพราะถ้าท้องเค้าก็ไม่รับเพราะเค้าบอกว่าลูกที่เค้าจะรับผิดชอบคือลูกของเรากับเค้าเท่านั้น ( แต่ท้ายที่สุด ก็ไม่เคยรับผิดชอบอะไรเลย 6 ปีแล้ว ที่ไม่เคยแม้แต่จะถามไถ่ถึงเรากับลูก ขนาดว่าเราพาลูกกลับมาเมืองไทย เค้าก็รู้นะแต่ไม่เคยคิดจะมาเยี่ยมหาลูกเลย)

ต่อจากตะกี้ เมื่อเค้าขอกลับตัวอีกครั้งเราก็นะยังมีความรักให้และกลัวลูกไม่มีพ่อ ( ความรักมันทำให้ตาบอด จนมองไม่เห็นความจริง )
ก็ได้ยอมให้อภัยเค้าและให้เค้าย้ายออกจากที่ทำงาน ( ที่เค้าเจอกับผู้หญิงคนนั้น) 

พากันย้ายมาอยู่ถิ่นบ้านเรา เค้าก็ได้งานใหม่ และไม่มีเรื่องผู้หญิงอีกจนเราคลอดลูก 

แต่เรื่องก็ยังไม่จบ เมื่อเค้าได้ขอไปบวชก็ดันได้ไปเจอ 
น้องผู้หญิงที่ ได้ไปบวชโครงการแม่ชี แสนรูป ที่วัดเดียวกันอีก .....

ติดตามเรื่องราวต่อได้ ที่นี่

 

ขอบคุณเนื้อหาจากคุณ PakkyNanny

 

รูปประกอบจากอินเตอร์เน็ตไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

 

[ads=center]

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: