การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประกาศขยายเวลาเปิดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าจากเดิม 30 วัน เพิ่มสูงสุดเป็น 90 วัน เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสจองซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ยาวนานขึ้น โดยจะะเริ่มนำร่องขบวนรถชุด 115 คัน จำนวน 8 ขบวน ในเส้นทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั้งสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ ตั้งแต่วันนี้ (20 พ.ย. 2566) เป็นต้นไป ซึ่งสามารถจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือระบบจองตั๋วโดยสารออนไลน์ D-Ticket
สำหรับการจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าระยะเวลา 90 วัน มีได้กำหนดหลักเกณฑ์ คือ
1. ผู้ที่เดินทางน้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน
2. ผู้ที่เดินทางตั้งแต่ร้อยละ 25 แต่ไม่ถึงร้อยละ 60 ของระยะทางขบวนรถ สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 30 วัน
3. ผู้ที่เดินทางตั้งแต่ร้อยละ 60 ของระยะทางขบวนรถขึ้นไป สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน ซึ่งกำหนดวันข้างต้นให้รวมถึงการเปลี่ยนแปลงการเดินทางด้วย
โดย รฟท.ได้ยกตัวอย่างการจองตั๋วโดยสาร เช่น
- สายใต้ หากผู้โดยสารเริ่มต้นการเดินทางจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ไปจนถึงสถานีหัวหิน เป็นการจองตั๋วเดินทางน้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ จะสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน หากระยะทางเกินจากนั้น ไปจนถึงสถานีชุมพร สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 30 วัน และผู้โดยสารที่เดินทางตั้งแต่สถานีสุราษฎร์ธานีเป็นต้นไป สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 90 วัน
- สายเหนือ หากผู้โดยสารเริ่มต้นการเดินทางจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ไปจนถึงสถานีลพบุรี เป็นการจองตั๋วเดินทางน้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ ซึ่งจะสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน หากระยะทางเกินจากนั้น ไปจนถึงสถานีพิษณุโลก สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 30 วัน ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางตั้งแต่สถานีศิลาอาสน์อุตรดิตถ์เป็นต้นไป สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 90 วัน
- สายตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นหนองคาย หากผู้โดยสารเริ่มต้นการเดินทางจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ไปจนถึงชุมทางแก่งคอย เป็นการจองตั๋วเดินทางน้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ ซึ่งจะสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน หากระยะทางเกินจากนั้น ไปจนถึงสถานีชุมทางบัวใหญ่ สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 30 วัน และผู้โดยสารที่เดินทางตั้งแต่สถานีเมืองพลเป็นต้นไป สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 90 วัน
- สายตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นอุบลราชธานี หากผู้โดยสารเริ่มต้นการเดินทางจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ไปจนถึงสถานีสระบุรี เป็นการจองตั๋วเดินทางน้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ ซึ่งจะสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน หากระยะทางเกินจากนั้น ไปจนถึงสถานีนครราชสีมา สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 30 วัน และผู้โดยสารที่เดินทางตั้งแต่สถานีลำปลายมาศเป็นต้นไป สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 90 วัน
ต่อมาผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายรายเข้ามาแสดงความความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก เพราะกังวลว่าระเบียบข้อบังคับในการจองตั๋วล่วงหน้าดังกล่าวของ รฟท. อาจสร้างความยุ่งยากให้กับผู้โดยสาร และจะทำให้ผู้ที่เดินทางระยะสั้นจะไม่สามารถจองที่นั่งรถไฟชั้นที่ดีที่สุดได้ หากถูกจองเต็มก่อนหมดแล้ว
ขณะเดียวกันยังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กบางราย ได้มีความคิดเห็นแตกต่างออกไป โดยมองว่าระเบียบข้อบังคับนี้เป็นระเบียบเก่าที่เคยใช้มาก่อนแล้ว และไม่มีปัญหาใด ๆ กับผู้โดยสารเก่า เนื่องจากเป็นขบวนรถไฟที่วิ่งทางยาว ควรสงวนสิทธิ์ที่นั่งให้กับผู้ที่เดินทางในระยะไกลได้จองล่วงหน้านานกว่า ส่วนผู้ที่เดินทางระยะสั้นก็ควรไปขึ้นขบวนรถไฟที่วิ่งในระยะทางที่สั้น
ด้าน นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ขออภัยที่โพสต์ข้อความอินโฟกราฟฟิกที่เผยแพร่เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าสูงสุด 90 วัน ที่อาจสร้างความสับสนแก่พี่น้องประชาชน โดยการโพสต์เกณฑ์การจองตั๋วล่วงหน้าดังกล่าวมีเป้าหมายแค่แจ้งระเบียบข้อบังคับของการรถไฟฯ เท่านั้น
ขณะที่วัตถุประสงค์หลักของการขยายเวลาเปิดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าสูงสุด 90 วัน มีเป้าหมายสำคัญเพื่อต้องการอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารในการเดินทาง ช่วยให้สามารถวางแผนการจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้มากขึ้น โดยเฉพาะในเส้นทางระยะไกลจะสามารถจองล่วงหน้าได้สูงสุด 90 วัน
ส่วนผู้โดยสารที่ต้องการจองตั๋วโดยสารระยะสั้น ก็สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 30 วัน เพราะยังมีขบวนรถ สายอื่นอีกหลายขบวนเป็นทางเลือกในการเดินทางได้
การรถไฟฯ ขอยืนยันว่าในขั้นตอนการจองตั๋วจริง ผู้โดยสารจะไม่มีความยุ่งยากซับซ้อนเพียงให้ผู้โดยสารแจ้งสถานีต้นทาง และสถานีปลายทางที่ต้องการเดินทาง ก็จะสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ทันที ซึ่งหากเป็นการจองผ่านระบบออนไลน์ D-Ticket ระบบจะคำนวณรายละเอียดการจองให้รับทราบทันทีว่า สามารถจองได้ล่วงหน้าสูงสุดได้กี่วัน หรือหากเลือกจองตั๋วผ่านเคาน์เตอร์สถานีรถไฟทั่วประเทศ เพียงแจ้งสถานีต้นทาง-ปลายทาง เจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋ว ก็จะแจ้งรายละเอียดให้ผู้เดินทางรับทราบเช่นกัน โดยไม่สร้างความลำบากแก่ผู้ใช้บริการแต่อย่างใด
หากผู้โดยสาร ต้องการสอบถามข้อมูลล่วงหน้าเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ เฟซบุ๊ก แฟนเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
ท้ายนี้ การรถไฟฯ ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ และขอขอบคุณทุกความคิดเห็นของประชาชน โดยพร้อมน้อมรับทุกคำติชม เพื่อนำมาใช้ปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาการบริการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์ สร้างความพึงพอใจต่อประชาชนผู้ใช้บริการสูงสุดต่อไป
ข่าวจาก : PPTV Online
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ