จากกรณีร้านหมาล่าแห่งหนึ่งมีการลงคลิปวงจรปิด ที่มีรถตู้คันหนึ่งจอดหน้าร้าน จากนั้นมีชาย 4 คน มีคนหนึ่งสวมชุดสีน้ำเงินเข้ม ติดป้ายเป็นเจ้าหน้าที่สรรพสามิต เข้ามาขอดูใบอนุญาตการประกอบธุรกิจ ใบอนุญาตการขายเหล้า บุหรี่ ก่อนที่จะหยิบใบอนุญาตที่ติดบนกำแพงร้านมาดู ส่วนคนอื่นๆ ที่ติดตามมาด้วยอีก 3 คน ก็กระจายไปดูตามจุดต่างๆ ของร้าน เช่น ห้องน้ำ ห้องนอน แล้วก็ยึดใบอนุญาตตัวจริงไป ต่อมา คุณสมสกุล และทนายความ จึงเดินทางมาร้องเรียนที่กรมสอบสวนกลาง
ล่าสุด เฟซบุ๊ก กระทรวงการคลัง : Ministry of Finance ชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่าสรรพสามิตแจงกรณีเข้าตรวจสอบร้านหมาล่าย่านห้วยขวาง ระบุเป็นไปด้วยความชอบธรรม สรรพสามิตชี้แจงกรณีเข้าตรวจสอบร้านหมาล่าย่านห้วยขวาง เป็นไปด้วยความชอบธรรม พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบราชการ หากพบเจ้าหน้าที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ขัดต่อจริยธรรม จะมีมาตรการลงโทษอย่างเด็ดขาด
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 นายภาคภูมิ ตันธนศรีกุล เลขานุการกรม ในฐานะรองโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่าตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อออนไลน์เกี่ยวกับกรณีที่มีผู้ประกอบการร้านอาหารจีนย่านห้วยขวาง เข้าร้องเรียนกับกองบังคับการปราบปราม หลังถูกชาย 4-5 คน อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่สรรพสามิต บุกมาตรวจที่ร้าน โดยมีการนำใบอนุญาตขายสุรายาสูบ กลับไปด้วยนั้น
กรมสรรพสามิตขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้ จากการตรวจสอบพบว่าบุคคลที่ปรากฏในข่าวเป็นเจ้าหน้าที่สรรพสามิต สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 10 จำนวน 6 ราย ประกอบด้วย ข้าราชการ 2 ราย ลูกจ้างชั่วคราว 2 ราย และพนักงานขับรถ 2 ราย และภาพที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ คือ ภาพที่อยู่ระหว่างการเข้าตรวจสอบใบอนุญาตขายสุราและยาสูบ ที่ร้านขายอาหารจีน (ร้านหมาล่า) ในเขตห้วยขวาง โดยในการปฏิบัติงานได้มีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจในร้าน 4 ราย และได้ขอตรวจใบอนุญาตขายสุราและยาสูบแล้วพบว่ามีใบอนุญาตถูกต้อง จึงได้มีการให้เจ้าของร้านเซ็นในใบอนุญาตตรวจค้น โดยไม่ได้มีการดำเนินคดีแต่อย่างใด
สำหรับข้อสงสัยเรื่องการนำใบอนุญาตขายสุรายาสูบของร้านไปด้วย เจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงแต่อย่างใด แต่เกิดจากเหตุสุดวิสัยระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ และเจ้าหน้าที่ได้นำใบอนุญาตฯ ไปคืนเจ้าของร้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายอ้างว่าเจ้าหน้าที่มีการขึ้นไปชั้น 2 โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น กรมขอชี้แจงว่าร้านอาหารดังกล่าวมีลักษณะ 2 ชั้น
ในขณะเข้าตรวจค้นแม้ว่าชั้นสองยังไม่ได้เปิดให้บริการ แต่อย่างไรก็ดีตามมาตรา 123 แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 เจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบสิ่งของผิดกฎหมายได้ในเวลาทำการของสถานประกอบการโดยไม่ต้องมีหมายค้น และได้แจ้งให้เจ้าของร้านทราบก่อนแล้ว
กรมฯ ขอยืนยันว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานดังกล่าวเป็นไปด้วยความชอบธรรม และตามหลักปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบราชการ ไม่ได้มีเจตนาให้ผู้ประกอบการเกิดความเสียหาย สำหรับข้อกังวลของผู้ประกอบการเรื่องที่ใบอนุญาตขายสุราและยาสูบที่ถูกเจ้าหน้าที่นำไปนั้น กรมฯ ขอชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำใบอนุญาตฯ ดังกล่าวไปดำเนินคดีใดๆ ต่อผู้ประกอบการได้ เนื่องจากผู้ประกอบการปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ
ทั้งนี้ กรมฯ ขอประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้ประกอบการว่า หากเกิดเหตุที่ใบอนุญาตขายสุราและยาสูบของท่านสูญเสีย ท่านสามารถขอออกใบอนุญาตใหม่ได้ที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ที่ร้านค้าตั้งอยู่ ในส่วนของกรณีที่มีเจ้าหน้าที่บางส่วนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม โดยเฉพาะการไม่สวมเครื่องแบบระหว่างปฏิบัติหน้าที่ กรมฯ จะมีการลงโทษตามระเบียบของราชการโดยไม่มีข้อยกเว้น และจะมีการกำชับเจ้าหน้าที่สรรพสามิตทั่วประเทศให้ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบของราชการอย่างเคร่งครัด หากพบเจ้าหน้าที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ขัดต่อจริยธรรม จะมีมาตรการลงโทษอย่างเด็ดขาด
หากผู้ใดพบการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่สรรพสามิต หรือพบการกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1713 หรืออีเมล์ [email protected]
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ