ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) ประจำสัปดาห์เกี่ยวกับการออกระเบียบกรมราชทัณฑ์กำหนดให้ผู้ต้องโทษคุมขังนอกเรือนจำที่สังคมจับจ้องพร้อมตั้งคำถามว่า เอื้อต่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ฐานะผู้ต้องขังหรือไม่นั้น
นายสมศักดิ์ รองนายกฯ กล่าวว่า ประเด็นการคุมขังนอกเรือนจำเป็นเรื่องที่ออกตามกฎหมายของกรมราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 ในรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และเมื่อปี 2562 ตนเข้ารับตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม ได้ออกกฎกระทรวงว่าด้วยการจำแนกผู้ต้องขังที่มีหลักเกณฑ์เกี่ยวกับพฤติกรรม และการรักษาพยาบาล รวมถึงการเตรียมพร้อมปล่อยตัวในปี 2563
ทั้งนี้ ระหว่างดำเนินการมีอดีตข้าราชการและกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หารือเพื่อขอให้มีที่คุมขังออกเรือนจำสำหรับผู้ต้องขัง หรือผู้ถูกกล่าวหา โดยตนเห็นด้วยจึงให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมและคณะทำงานดำเนินการเรื่องนี้แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ตนได้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีก่อน
สำหรับเรื่องนี้มีคนถามตนเข้ามาเยอะ อย่างในวันนี้วิปวุฒิสภา เชิญผมมาชี้แจง เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ดี ในการเข้าสู่กระบวนการคัดแยกผู้ต้องขังให้เป็นไปตามหลักสากล
ดังนั้น ไม่ใช่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ต้องขังรายใดรายหนึ่งแต่เป็นกระบวนการยุติธรรมซึ่งทำตามกรอบสากลและทำได้หากเข้าเกณฑ์ ส่วนกรณีที่เป็นคดีร้ายแรง เช่น ฆ่า ยาเสพติด จะไม่ถูกนำมาพิจารณากับระเบียบใหม่ นายสมศักดิ์ กล่าว
สำหรับกรณีของ นายทักษิณ นั้นนายสมศักดิ์ รองนายกฯ กล่าวยอมรับว่า เข้าเกณฑ์เพราะโทษไม่เกิน 4 ปี ไม่เป็นบุคคลที่อยู่ในข่ายน่ากลัวของสังคม เช่น โทษฆ่าข่มขืนที่ต้องถูกคุมขังในเรือนจำ หากเป็นโทษที่ไม่เป็นภัยต่อสังคมในระบบสากลสามารถคุมขังนอกเรือนจำได้ รวมถึงเหลือโทษน้อย
ข่าวจาก : ฐานเศรษฐกิจ
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ