เสียงบ่นเรื่องของการผูกขาดทางการค้าจากการควบรวมกิจกรรม ระหว่าง DTAC (ดีแทค) และ TRUE (ทรู) สองค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ และผลพวงต่อการควบรวมนี้เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
ชาวบ้านคนเดินดินถึงราคาที่ต้องจ่ายแพงขึ้น สัญญาณความแรงของอินเทอร์เน็ตที่ลดลง ตลอดจนการดูแลลูกค้าที่ดูเหมือนว่าจะแย่ลงนั้นอาจเป็นเพียง “เสียงลือเสียงเล่าอ้าง” หรือก็อาจจะถูกมองว่าเป็นแค่เสียงของคนจำนวนไม่มากที่ได้รับผลกระทบ หากแต่เสียงบ่นเหล่านั้นกลับสอดรับตรงกันกับรายงานของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI
TDRI เป็นองค์กรวิชาการที่น่าเชื่อถือเพราะมีทั้งหลักการและมันสมอง เรียกว่าเป็นสถาบันที่อ่านเกมขาดและหลายครั้งก็ออกมากระตุกเตือนภาครัฐและประชาสังคมถึงผลต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น และจากกรณีการควบรวมสองค่ายสัญญาณมือถือยักษ์ใหญ่นี้ TDRI ก็ได้ออกโรงมากระตุกเตือนสังคมมานานแล้ว ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นทั้งในเชิงทฤษฎีและทางปฎิบัติซึ่งในปัจจุบันก็ได้เกิดขึ้นจริง ตรงตามที่ TDRI เคยออกมาเตือน
ในต่างประเทศนั้น จะมีกฎหมายป้องกันการผูกขาด มีดัชนีการการจุกตัว (Herfindahl-Hirschman Index: HHI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความผูกขาดในเชิงโครงสร้าง ซึ่งค่าสูงสุดคือ 10,000 จุด ซึ่ง TDRI ชี้ว่าเมื่อเกิดการควบรวมแล้วดัชนีนี้เพิ่มขึ้นจาก 3,659 มาอยู่ที่ 5,012 หรือแปลเป็นภาษาชาวบ้านว่า ส่วนแบ่งการตลาดเมื่อรวมกันแล้วคือ 52% กลายเป็นเบอร์ 1 ของตลาดโดยอัตโนมัติ ซึ่งถือเป็นระดับที่อันตราย
เหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นในประเทศประชาธิปไตยที่มีระบบตลาดแบบเสรีแน่นอน เพราะถึงแม้ระบบตลาดเสรีจะปล่อยให้กลไกตลาดดำเนินไปโดยเสรี แต่ก็ยังต้องมีการกำกับจากรัฐ ซึ่งในกรณีของประเทศไทยคือ สำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า หรือในกรณีการโทรคมนาคมนี้คือ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.
แล้วความไร้สามารถในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันการผูกขาดของหน่วยงานเหล่านี้ จะส่งผลกระทบต่อคนไทยอย่างไร? สิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วก็คือ ค่าบริการมือถือ/เน็ตที่แพงขึ้น ความเร็วเน็ตที่ช้าลง การบริการที่แย่ลง หรือแม้กระทั่งอาจจะกลับไปสู่ยุคที่มีผู้ให้บริการเพียง 2 ราย เช่น การล็อก IMEI เครื่องโทรศัพท์ทำให้เกิดการบังคับขายพ่วง ทั้งยังไม่ต้องพูดถึงความหวังในการสร้างสภาพแวดล้อมที่จะก่อให้เกิดนวัตกรรม เพราะในเชิงเศรษฐศาสตร์แล้ว ความจำเป็นในการแข่งขันก็ลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.bangkokbiznews.com/world/1104677
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ