20 ก.พ.67 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวชี้แจงภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการโยกย้ายสับเปลี่ยนตำแหน่งข้าราชการ ประเภทบริหารระดับสูงในสังกัดกระทรวงมหาดไทย 10 ตำแหน่งว่า ในส่วนของการโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นการตัดสินใจเลือกของตนเอง เพื่อจะได้จัดทีมบริหารในส่วนกลาง
สำหรับตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน ซึ่งได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้อธิบดีคนเก่าพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากลาออกจากราชการ จึงได้โยกย้ายนายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทยไปดำรงตำแหน่ง เพราะเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ สำเร็จการศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญงานด้านวิศวกรรมที่จะไปพัฒนากระบวนงานของกรมที่ดิน ทั้งในด้านการสำรวจออกโฉนดที่ดินให้กับพี่น้องประชาชน และการพัฒนางานในมิติต่าง ๆ เพื่อยกระดับการให้บริการพี่น้องประชาชน
การโยกย้าย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม จากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน มาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาว่า ได้มีการพูดคุยกับนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ซึ่งท่านได้ตัดสินใจเลือกในการที่จะไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อทำหน้าที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดภูมิลำเนาของภรรยา ดังนั้นที่ปรากฏข่าวว่า เตะตัดขา ไม่ใช่เรื่องจริง เรามีการพูดคุยกันก่อนแล้ว มีการสอบถามกันก่อนที่จะเสนอเรื่องผ่านท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ขอเน้นย้ำว่า เรื่องทำนองนี้ไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้นในกระทรวงมหาดไทย เคยมีปลัดกระทรวงมหาดไทย คนที่ 32 คือนายพงศ์โพยม วาศภูติ ซึ่งเคยเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แล้วไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และกลับมาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และก้าวสู่ตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย คนที่ 32 ดังนั้น ขอยืนยันว่า การแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย เราพิจารณาจากความเหมาะสม โดยยึดระบบคุณธรรม ความรู้ความสามารถ และที่สำคัญได้มีการพูดคุยสอบถามก่อนจะมีการเสนอ
นอกจากนี้ที่ได้เสนอย้ายนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีความรู้ความสามารถมาขับเคลื่อนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนภาพรวม ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนแทน โดยในส่วนของนายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้ที่ยังหนุ่มยังแน่น ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อขับเคลื่อนงานให้กับพี่น้องประชาชน และนายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยซึ่งมีอาวุโสเป็นลำดับ 2 ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เนื่องจากท่านหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ได้ตัดสินใจที่จะดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ.
ข่าวจาก : amarintv
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ