5 มีนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยในรายการเจาะลึกทั่วไทย ช่อง 9 อสมท เกี่ยวกับเรื่องความล่าช้าการก่อสร้างถนนพระราม 2 ว่า เมื่อช่วงเดือนกันยายน 66 ที่ผ่านมา ตนได้สั่งการให้กรมทางหลวง (ทล.) ให้ไปเร่งรัดการก่อสร้างโครงการให้เสร็จภายในปี 68 แต่ขณะนี้ดูแล้วโครงการยังไม่ไปถึงไหน ดังนั้นเมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมาจึงได้เชิญผู้รับเหมาทั้ง 16 สัญญาเพื่อมาพูดคุยหรือหารือถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ จากการพูดคุยพบว่า มีปัญหาหลักๆ จาก 2 ประการคือ 1.ผู้รับเหมาไม่สามารถก่อสร้างได้ตลอดเวลา เพราะทล.ห่วงปัญหาจราจร เลยให้ทำงานช่วงกลางคืน ทำให้ข้อกำหนดในสัญาสามารถทำได้ 24 ชม.ทำให้สร้างไม่ตลอดเวลาจึงเกิดความล่าช้า เลยให้ทล.ประสานงานกับตำรวจจราจร เพื่อให้ดูแลจราจรระหว่างการก่อสร้างให้ผู้รับเหมาก่อสร้างได้ในช่วงกลางวัน 2.ปัญหาเรื่องสภาพคล่อง เนื่องจากผู้รับเหมาได้ผลกระทบจากช่วงโควิด ทำให้ขาดสภาพคล่อง จึงได้ให้ผู้รับเหมาไปทำสัญญากู้เงินจากสถาบันการเงินว่าจะสามารถกู้เงินจากธนาคารใดได้บ้าง หากติดขัดก็ให้ติดต่อมา แล้วจะประสานกับสถาบันการเงินเพื่อให้ปล่อยกู้ให้ โดยเมื่อผู้รับเหมาได้รับเงินค่าก่อสร้างแต่ละงวดแล้ว ก็จะนำเงินไปคืนหนี้
นายสุริยะกล่าวว่า เชื่อว่าเมื่อทำแบบนี้แล้ว หากผู้รับเหมาก่อสร้างไม่สำเร็จอีกก็จะมีการแบล๊กลิสต์ และลดเกรดชั้นรับเหมา ซึ่งเชื่อว่าน่าจะแก้ไขปัญหาได้ เพราะผู้รับเหมาเหล่านี้จะห่วงเรื่องการลดชั้น โดยเฉพาะชั้นพิเศษ เพราะหากถูกลดชั้นจะทำให้รับงานโครงการขนาดใหญ่ไม่ได้ ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้รับเหมาชั้นพิเศษอยู่ประมาณ 80 บริษัท
“ขณะนี้ได้ให้ ทล.ทำสมุดพกผู้รับเหมาแต่ละรายไว้ เวลาผมไปตรวจงานก่อสร้างโครงการต่างๆ ก็จะนำมาดูว่าผู้รับเหมาแต่ละรายมีอุบัติเหตุหรือล่าช้าอย่างไร จะมีการตัดคะแนนไปเรื่อยๆ เหตุอะไรบ้าง และครบเท่าไหร่จะตัดเกรดและประสานบัญชีกลาง”
นายสุริยะกล่าวว่า ทั้งนี้ ภายในเดือน มิ.ย.68 โครงการก่อสร้างถนนพระราม 2 จะต้องเสร็จ แต่จากนี้หากตรงไหนเร่งรัดให้เสร็จก่อนได้ก็จะเร่งรัดเพื่อความคล่องตัวของการจราจร เช่น ช่วงบางขุนเทียน ซึ่งเป็นความทั ซึ่งส่งผลให้ช่วงดังกล่าวการจราจรแอดอัดเป็นอย่างมาก ก็เลยสั่งการให้ 2 หน่วยงาน ไปเร่งรัดให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ หากเสร็จจราจรจะดีขึ้นฝุ่นก็จะหายไป
นายสุริยะกล่าวว่า ส่วนการลดชั้นก่อสร้างของผู้รับเหมาที่ทำงานล่าช้า หรือทิ้งงาน ก็อยู่ในเกณฑ์ลดชั้นและการลดเกรดผู้รับเหมาและห้ามรับงาน ส่วนผู้รับเหมารายย่อยที่ทำงานล่าช้านั้นส่วนใหญ่เป็นการซับงานมาจากผู้รับเหมารายใหญ่ ดังนั้นจึงต้องไปบี้จากผู้รับเหมารายใหญ่ เพราะเราเป็นผู้ให้งานผู้รับเหมารายใหญ่ ขณะเดียวกันก็ได้สั่งการให้อธิบดี ทล.ไปแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ 1 คนต่อสัญญา เพื่อคุม 1 สัญญา และให้ทำงานใกล้ชิดกับผู้รับเหมา และรายงานความคืบหน้าให้ตนทราบทุกเดือน และทุกๆ 2 เดือน ก็จะเชิญผู้รับเหมามาหารือกัน และมีไม้ตายคือ หากการก่อสร้างโครงการไม่คืบหน้าตามที่รับปากไว้ก็จะยกเลิกสัญญา เนื่องจากในข้อสัญญามีการระบุไว้ว่าเดือนไหนงานต่ำกว่าเป้าหมาย 50% ก็จะยกเลิกสัญญาได้ทันที
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ