27 พฤษภาคม 2567 มีรายงานว่า จากกรณีแฟนเพจ ที่นี่ลำพูน โพสต์ภาพกล้องตรวจจับความเร็วและคล้ายปักหมุดบอกจำกัดความเร็วตามจุดต่างๆ ของทางขึ้นลงดอยขุนตาลที่ติดอยู่ตามเส้นทางลำปาง-ลำพูน พร้อมโพสต์ข้อความว่า “ลำพูน-ลำปาง ขึ้นลงดอยขุนตาล กล้อง 8K ติดตั้งใหม่หลายจุด ขับขี่ปลอดภัยไม่เกิน 50 , 60 , 80 และ 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง แล้วแต่จุด”
ซึ่งหลังจากที่มีการโพสต์ได้มีการแชร์ส่งต่อไปเป็นจำนวนมากพร้อมคำวิจารณ์จากชาวเน็ตกันอย่างดุเดือด บางคอมเมนต์ระบุว่า “รถขึ้นดอย ลงดอย เสียจังหวะหมด ลองเอาตำรวจมาขับให้ดูหน่อย” บางคอมเมนต์ก็บอกว่า “ติดขนาดนี้ ต้องปั่นจักรยานละ มอเตอร์ไซค์ ยังเกิน 50 เลย” นอกจากนี้ยังมียอดคอมเมนต์พุ่งไม่หยุดทะลุเกิน 2,200 คอมเมนต์ และถูกแชร์ไปมากกว่า 3,400 ครั้งแล้วนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.ท.เกียรติพร สวัสดิเทพ สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 5 ลำปาง ซึ่งเส้นทางดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เปิดเผยว่า ทราบเรื่องที่โซเชียลกำลังวิพากษ์วิจารณ์กรณีกล้องที่ติดบนถนนหลวงหมายเลข 11 สายลำปาง-ลำพูนช่วง กม.ที่ 480-510 ของดอยขุนตาล ซึ่งเป็นเขตรอยต่ออำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และอำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ทำให้หลายคนต่างกังวลใจ
ทั้งนี้ ขอชี้แจงว่ากล้องจำนวน 24 ตัวนั้นเป็นงบประมาณที่แขวงทางหลวงลำปางที่ของบประมาณไว้ในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนเมื่อ 2 ปีก่อน และขณะนี้ได้ติดตั้งกล้องเสร็จแล้วอยู่ในระหว่างทำการทดสอบระบบอยู่ ยังไม่ได้ตรวจจับความเร็วแต่อย่างใด
โดยกล้องจำนวน 24 ตัวที่ติดตั้งนั้น แบ่งเป็นกล้องตัวเล็กๆ ที่ติดตามถนนลงดอยต่างๆ 18 ตัว เป็นกล้อง AI คอยจับภาพรถเสียหรือรถเกิดอุบัติเหตุ หรือรถจอดริมทาง โดยกล้องจะส่งสัญญาณไปยังป้ายบอร์ด LED ขนาดใหญ่เพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนว่ามีเหตุหรืออุบัติเหตุช่วงกิโลเมตรไหน ส่วนกล้องที่เหลืออีก 6 ตัวที่มีแขนเป็นเสาสีขาวเป็นกล้องจับความเร็วหรือ Speed Camera โดยกล้องติดตั้งขาไปเชียงใหม่ 3 ตัวและฝั่งเข้ามาทางลำปาง 3 ตัว
สำหรับการกำหนดความเร็วต่างๆ นั้น มีการออกแบบและคำนวณวัดความเร็วเพื่อป้องกันอันตรายจากแขวงทางหลวงลำปาง และทดสอบความเร็วแล้วว่าความเร็วเท่าไรจึงเหมาะสม และไม่เกิดอันตราย หรือเกิดความเสี่ยงทำให้รถเกิดอุบัติเหตุ เพราะเส้นทางดังกล่าวเป็นถนนทางโค้งขึ้น-ลงเขา ดอยขุนตาล ซึ่งมีระยะทางยางหลายกิโลเมตร และการตรวจจับความเร็วขณะนี้ยังไม่ได้มีการเริ่มตรวจจับความเร็วแต่อย่างใด.
ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ