ผศ.ดร.สานิต ศิริวิศิษฐ์กุล หัวหน้าแผนกวิจัย สำนักวิจัย มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เปิดเผยว่า จากการที่พรรคเพื่อไทยได้ออกนโยบาย สลากเกษียณ หรือหวยเกษียณ เพื่อต้องการส่งเสริมการออมทรัพย์ และเป็นการรองรับการเกษียณแก่ประชากร สอดคล้องกับสถานการณ์ผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องนั้น
สำนักวิจัย มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ จึงได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน จำนวน 1,500 ราย พบว่า ประชาชนเห็นด้วย 67.8% ไม่แน่ใจ 34% และไม่เห็นด้วย 8.2%
เมื่อถามว่า หวยเกษียณมีจะประโยชน์ต่อการออมเงินไว้ใช้ยามหลังเกษียณได้ มากน้อยเพียงใด ผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ช่วยได้มาก 70.2% ช่วยได้น้อย 24.07% และช่วยไม่ได้เลย 5.1%
ส่วนความรู้ความเข้าใจต่อนโยบายดังกล่าวนั้น พบว่า ผู้ให้การสำรวจมีความเข้าใจ 40.7% ขณะที่ค่อนข้างเข้าใจ 43.7% และไม่เข้าใจเลย 15.6%
ผศ.ดร.สานิต กล่าวว่า หวยเกษียณ เป็นสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ ที่กระทรวงการคลังเปิดตัวเพื่อส่งเสริมการออมสำหรับผู้สูงอายุ โดยจะมีการออกรางวัลทุกสัปดาห์ และมีรางวัลสูงสุด 1 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ซื้อสลากใบละ 50 บาท
จุดเด่นของหวยเกษียณ คือ หากไม่ถูกรางวัล เงินที่ซื้อสลากจะไม่หายไป แต่จะถูกเก็บสะสมเป็นเงินออม และสามารถถอนเงินออกมาได้เต็มจำนวนเมื่ออายุครบ 60 ปี ทำให้หวยเกษียณเป็นทางเลือกการออมที่น่าสนใจและได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก
นอกจากนี้ ในระยะแรก จะเป็นการขายให้กับสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) หรือผู้ประกันตนมาตรา 40 และแรงงานนอกระบบ โดยมีเงื่อนไขดังนี้
1. ผู้มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 15-60 ปี
2. เกษตรกร ค้าขาย รับจ้างทั่วไป
3. ผู้ประกันตน ม.40 ทางเลือก 1 (ผู้ประกันตนจ่ายเองเดือนละ 70 บาท)
4. ผู้ที่ไม่เป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
5. ผู้ที่ไม่เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยตัวอย่างอาชีพที่สมัคร กอช.ได้ เช่น เกษตรกร ค้าขาย แม่บ้าน เจ้าของร้าน ฟรีแลนซ์ ขับรถรับจ้าง แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง เป็นต้น
ขณะที่ผู้ไม่สามารถซื้อหรือสมัครได้นั้น จะเป็น ข้าราชการ ผู้ประกัน มาตรา 33, และมาตรา 39
ในส่วนของเงื่อนไขในการซื้อ กอช. จะออกสลากขูดแบบดิจิทัล ใบละ 50 บาท และผู้ซื้อจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยสลากที่ซื้อจะต้องถูกเก็บไว้จนกว่าจะอายุครบ 60 ปี รวมถึงซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน และซื้อสลากได้ทุกวันผ่าน แอปพลิเคชั่น กอช.
เบื้องต้นนโยบายดังกล่าว อยู่ระหว่างการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย คาดว่าใช้ระยะเวลาประมาณ 6เดือน-1ปี เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
ข่าวจาก : thebangkokinsight
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ