นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 และที่ประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส. ได้เห็นชอบให้ ธนาคารดำเนินโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว หรือโครงการปุ๋ยและชีวภัณฑ์คนละครึ่ง
โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อปัจจัยการผลิตที่สำคัญ คือ ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และสารชีวภัณฑ์ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จำนวนกว่า 4.48 ล้านครัวเรือน พื้นที่กว่า 54 ล้านไร่ และเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ ประมาณ 2 แสนครัวเรือน พื้นที่ประมาณ 1.2 ล้านไร่
ทั้งนี้ มุ่งเน้นการเพิ่มผลผลิตข้าวด้วยการใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมตามสภาพนิเวศน์และพื้นที่ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนการผลิต ควบคู่กับการสนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร
”ซึ่งเป็นการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตสมัยใหม่ เข้ามาปรับเปลี่ยนและพัฒนากระบวนการผลิตข้าว รวมถึงการใช้สาร ชีวภัณฑ์มายกระดับผลผลิตข้าว อันเป็นทิศทางที่มุ่งไปสู่การสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและการยกระดับรายได้ให้เกษตรกรไทยเป็น 3 เท่า ภายในระยะเวลา 4 ปี ตามเป้าหมายนโยบายรัฐบาล“
นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลก โดยรัฐบาลจะช่วยเหลือค่าปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และสารชีวภัณฑ์ ให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกับกรมส่งเสริมการเกษตร ปีการผลิต 2567/68 ตามพื้นที่ปลูกข้าวที่ขึ้นทะเบียนไว้ จำนวนครึ่งหนึ่ง หรือไม่เกินไร่ละ 500 บาทต่อไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ สูงสุด 10,000 บาท และเกษตรกรจ่ายสมทบอีกครึ่งหนึ่ง
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile โดยเลือกรับการสนับสนุนค่าปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ หรือสารชีวภัณฑ์ที่ต้องการ ซึ่งมีปุ๋ยที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 16 รายการ จากนั้น เกษตรกรสามารถชำระเงินสมทบค่าปุ๋ยตามที่แจ้งความประสงค์ และสามารถไปรับปุ๋ยและสารชีวภัณฑ์ได้ที่สหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ภายใน 30 วัน
”ธ.ก.ส. จะเปิดระบบแจ้งความประสงค์โครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 – 31 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้เกษตรกรรายย่อย สามารถเข้าร่วมโครงการได้ตามปกติ“
ข่าวจาก : ฐานเศรษฐกิจ
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ