วันที่ 1 ส.ค.2567 เป็นวันแรกที่เปิดให้ลงทะเบียนร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยเปิดให้กลุ่มมีสมาร์ทโฟนลงทะเบียนและกดรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.-15 ก.ย.2567 สำหรับความพร้อมของโครงการต้องติดตาม 2 ส่วน คือ
1.ความพร้อมของงบประมาณ 450,000 ล้านบาท ที่จะใช้ในโครงการนี้ โดยวันที่ 31 ก.ค.2567 การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวาระร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 พ.ศ…. วงเงิน 122,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต วาระ 2-3
สำหรับการประชุมครั้งนี้ใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมง ที่ประชุมลงมติเห็นด้วย 292 เสียง ไม่เห็นด้วย 161 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง จากนั้นที่ประชุมลงมติเห็นด้วยกับข้อสังเกตคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 พ.ศ…
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานกรรมาธิการฯ กล่าวว่า งบประมาณส่วนนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างโอกาสประกอบอาชีพของประชาชนและธุรกิจ
ทั้งนี้การพัฒนาระบบนี้คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet นั้น ครม.มอบหมายให้สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ “DGA” และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นผู้พัฒนาและดำเนินการระบบ
สำหรับระบบนี้จะเกี่ยวข้องกับการชำระเงินระบบการการใช้จ่ายสำหรับการชำระบัญชี (Clearing and Settlement) ระหว่างบัญชีของประชาชนและบัญชีของร้านค้าที่ธนาคารที่รับชำระเงิน (Open Loop) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนทางราชการ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ 1 ส.ค.2567 จะเป็นวันแรกของการเปิดระบบลงทะเบียนและยืนยันตัวตนสำหรับผู้มีสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” และภาครัฐอำนวยความสะดวกโดยตั้งจุดบริการ (Walk-in) ช่วยลงทะเบียน และสอบถามข้อมูลใน 4 สถานที่หลักทั่วประเทศ รวม 5,199 จุด ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.-15 ก.ย.2567 ดังนี้
1.ศูนย์ดิจิทัลชุมชน 1,722 แห่ง 2.ที่ทำการไปรษณีย์ 1,200 แห่ง ยกเว้นไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านค้าให้บริการ 3.ธนาคารออมสิน 1,047 แห่ง ทั่วประเทศ 4.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1,238 แห่ง
ไม่มีสมาร์ทโฟนลงทะเบียน 16 ก.ย.
ขณะที่กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.-15 ต.ค.2567 ซึ่งจะแจ้งสถานที่อีกครั้ง โดยใช้บัตรประชาชนดำเนินการและต้องตรวจสอบคุณสมบัติสถานะบุคคลตามทะเบียนบ้าน โดยประชาชนศึกษาข้อมูล ที่เว็บไซต์ www.digitalwallet.go.th หรือ www.กระเป๋าเงินดิจิทัล.รัฐบาล.ไทย และศูนย์บริการข้อมูล โทรสายด่วน. Digital Wallet 1111 ซึ่งให้บริการ 24 ชั่วโมง
“รัฐบาลเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะเป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจสำคัญกระจายรายได้ เกิดการจับจ่ายใช้สอย สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนทั่วประเทศตั้งแต่ระดับฐานราก พร้อมบรรเทาภาระค่าครองชีพ รวมถึงเป็นรากฐานสำคัญด้านเศรษฐกิจดิจิทัล” นายชัย กล่าว
“คลัง”การันตีแอปไม่ล่ม
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรณีแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” ล่ม ในวันที่ 31 ก.ค.2567 อยู่ระหว่างสรุปข้อมูล โดยช่วง 19.00-22.00 น.วันที่ 30 ก.ค.2567 ได้อัพเดตเวอร์ชั่นที่เป็นระบบรอคิวที่จะเช็กกับทะเบียนราษฎร์ เพราะแอปพลิเคชั่นไม่มีระบบรอคิว ซึ่งระบบจะถูกปิดช่วงดังกล่าวจึงยืนยันไม่ใช่เพราะระบบล่ม โดยทุกอย่างจะพร้อมวันที่ 1 ส.ค.2567 ตั้งแต่เวลา 8.00 น.
ส่วนประเด็นปัญหาการยืนยันตัวตนที่เกิดขึ้นวันที่ 31 ก.ค.2567 นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า เป็นการรีเซ็ตตัวแอปพลิเคชั่นให้อัพเดตเวอร์ชั่น ซึ่งวางแผนล่วงหน้าไว้แล้วจึงแจ้งประชาชนว่าให้เริ่มวันที่ 1 ส.ค.2567 เวลา 08.00 น.
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ความพร้อมของระบบได้ถูกวางแผนไว้แล้วว่าต้องเซ็ตระบบเพื่อเป็นระบบรอคิว เพื่อส่งไปทะเบียนราษฎร์ ซึ่งระบบต้องใส่เลขบัตรประชาชนและตรวจสอบใบหน้าบุคคลก่อนส่งไปทะเบียนราษฎร์ และต้องตอบกลับจากทะเบียนราษฎร์ก่อน ซึ่งใช้เวลาเป็นระบบรอคิว จากนั้นจึงจะเข้ากระบวนการสร้างยูสเซอร์เนมและพาสเวิร์ด
“หากเกิดความล่าช้าไม่ใช่เพราะตัวแอปฯ แต่ล่าช้าด้วยการรอคิวเพื่อตรวจทะเบียนราษฎร์ ซึ่งระบบจะทำหน้าที่รับคนอยู่แล้ว และหากเกินกว่า 5 ล้านคน จะเป็นระบบรอคิว”
สำหรับประเด็นครบกำหนดแล้วประชาชนบางส่วนลงทะเบียนไม่ได้จะขยายเวลาหรือไม่ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ทุกคนที่ต้องการลงทะเบียนต้องลงได้ โดยแอปพลิเคชั่นจะไม่มีปัญหาและลงทะเบียนจะเป็นไปตามที่กำหนดไว้ เพราะแอปพลิเคชั่นจะไม่มีปัญหาแน่นอน
ส่วนกรณีการย้ายทะเบียนบ้านจะพิจารณาให้ใช้สิทธิตามที่ประชาชน โดยนับ ณ วันลงทะเบียนว่าทะเบียนราษฎร์อยู่ที่ไหนก็จะใช้สิทธิ์ได้ที่นั่น
ข่าวจาก : bangkokbiznews
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ