Temu แอปช้อปปิ้งราคาถูก จากจีน ที่หลายประเทศต้องรับมือ





การเข้ามาบุกตลาดในไทยของ Temu ที่มาพร้อมด้วยสโลแกน “Shop Like a Billionaire” (ช็อปปิ้งอย่างกับเป็นเศรษฐี) เนื่องด้วยสินค้าที่ขายในแอปฯ นั้นมีราคาถูกมากๆ จนก่อเกิดเสียงวิจารณ์อย่างมากว่า การเข้ามาของ Temu จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจค้าปลีกของไทย โดยเฉพาะ SMEs ที่ไม่อาจสู้ราคา Temu ได้ จนอาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของคนไทยเอง นอกจากนั้นยังอาจจะทำให้ไทยขาดดุลการค้ากับจีนเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย โดยปัจจุบันส่วนแบ่งการตลาดของการช็อปปิ้งออนไลน์ในประเทศไทยอยู่ที่ Shopee 49% Lazada 30%) และ TikTok Shop 21%

การมาพร้อมสินค้าในราคาที่ถูกแสนถูก อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นล่อใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการส่งสินค้าฟรี ส่วนลดที่มากถึง 90% จัดส่งอย่างรวดเร็วภายใน 4-9 วัน คืนสินค้าได้ภายใน 90 วัน รับเงินคืนได้เต็มจำนวนอีกด้วย ซึ่งทำให้ Temu ยิ่งได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยเปิดบริการแล้วใน 49 ประเทศทั่วโลก มีผู้ใช้งานทั่วโลก 167 ล้านยูเซอร์ และมียอดดาวน์โหลดแอปฯ ทำสถิติสูงที่สุดในปีนี้

ตลาดใหญ่ของ Temu ในตอนนี้ก็คือสหรัฐอเมริกา ซึ่งตอนนี้มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 17% โดยมีผู้ใช้งานกว่า 80 ล้านคนในต้นปีนี้ และมีการสำรวจพบว่า 3 ใน 10 ของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ ต่างเคยช็อปผ่านแอปฯ Temu มาแล้วทั้งนั้น โดยในปี 2023 ที่ผ่านมา Temu ทำยอดขายในสหรัฐฯ ไปได้ถึง 15.33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

แต่ก็ใช่ว่าการเข้าไปเปิดตลาดในสหรัฐฯ ของ Temu จะไม่มีกระแสต่อต้าน อย่างที่รู้กันว่าปัญหาการเมืองระหว่างสหรัฐฯ กับจีนนั้น ยังคงคุกรุ่นอยู่ โดยเฉพาะกรณีล่าสุดที่สหรัฐฯ พยายามจะแบนแอปฯ TikTok ของจีน เพราะกังวลถึงการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากการใช้แอปฯ ซึ่ง Temu เองก็ถูกตั้งคำถามนี้เช่นเดียวกัน โดยก่อนหน้านี้บริษัทแม่ของ Temu อย่าง Pinduaduo ก็เคยถูก Google ระงับการใช้แอปฯ ถึงขั้นปักธงแดงเปลี่ยนสถานะแอปฯ ให้เป็นมัลแวร์มาแล้ว นอกจากนั้นผู้แทนในสภาฯ บางคนยังตั้งกระทู้ขอให้รัฐบาลกลางห้ามนำสินค้าจาก Temu เข้ามาในประเทศ ภายใต้ข้อกฎหมายปกป้องแรงงานชาวอุยกูร์อีกด้วย

ทางด้านสหภาพยุโรป ซึ่งมีกฎเกณฑ์เข้มงวดมากนั้น แม้ในตอนแรกคณะกรรมการธิการยุโรปจะอนุญาตให้ Temu เข้ามาขายได้ โดยเข้าเกณฑ์เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่มากภายใต้กฎหมาย DSA ที่ต้องมีการจัดการเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและต้องเปิดเผยอัลกอริทึมในการคัดเลือกเนื้อหามาแสดงผล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยสหภาพยุโรปอาจจะมีการกำหนดภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าราคาถูกที่จะเข้ามาขายในสหภาพยุโรปที่อาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ค้าปลีกที่อยู่ในสหภาพยุโรป

ปัจจุบันในสหราชอาณาจักร สินค้าที่มีมูลค่า 39 ปอนด์หรือน้อยกว่า จะไม่เรียกเก็บภาษีนำเข้า เพราะฉะนั้นหากมีการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์นี้ สินค้าราคาถูกทั้งหลายจากต่างประเทศ โดยเฉพาะ Shein หรือ Temu ก็อาจจะต้องถูกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันตลาดการค้าปลีกในสหภาพยุโรปเองไม่ให้ได้รับผลกระทบจากสินค้าราคาถูกจากจีนที่กำลังไหลเข้ามา

และไม่แน่ว่าในอนาคต Temu ก็อาจจะถูกกีดกันด้วยภาษีในอีกหลายๆ ประเทศที่ห่วงว่าสินค้าจากจีนกำลังจะไหลทะลักเข้ามาจนอาจทำให้ค้าปลีกภายในประเทศเสียหายก็เป็นไปได้

 

ข่าวจาก : brandage

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: