4 กันยายน หลังจากผู้เสียหายที่ถูก เจ้าอาวาสวัดพืชอุดม ย่านคลอง 13 ยืมเงินไปเกือบ 10 ล้านบาทและบอกให้ผู้เสียหายไปยึดโบสถ์ยึดศาลา พร้อมกับไปร้องเพจสายไหมต้องรอดให้ช่วยเหลือ
ล่าสุด พระราชสุทธิธรรมจารย์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เจ้าอาวาสวัดประยูรธรรมาราม ได้เรียก เจ้าคณะอำเภอเจ้าคณะตำบล มาหารือถึงประเด็นดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งการหารือได้เรียก เจ้าอาวาสรูปดังกล่าวมาร่วมชี้แจงด้วยแต่จากการตรวจสอบไม่ได้อยู่ที่วัดและทราบว่าไปรักษาตาที่โรงพยาบาลบ้านแพ้วไม่สามารถกลับมาหารือได้ทันภายในวันนี้
โดย พระราชสุทธิธรรมจารย์ บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของคนสองคน ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยให้เจ้าคณะอำเภอเป็นผู้ดำเนินการซึ่งจะเรียกเข้ามาชี้แจงในวันพรุ่งนี้ (5 กันยายน) ที่วัดพืชอุดม ในเวลา 10.00 น. และ เจ้าคณะจังหวัดได้แนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีทางกฎหมาย เพราะเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวได้เซ็นรับสภาพหนี้ไปแล้ว ก็สามารถดำเนินคดีได้ส่วนหากพบความผิดจริงก็จะต้องให้สึกออกจากการเป็นพระทันที
เมื่อถามว่าระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง จำเป็นต้องย้ายเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวไปอยู่วัดอื่นหรือไม่ บอกว่าไม่ต้องย้าย และเมื่อถามว่าหากเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวมีการโยกย้ายทรัพย์สินออกไป ทางเจ้าคณะจังหวัดบอกว่าไม่สามารถทำได้เพราะทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของพระพุทธศาสนา ถ้าหากออกไปก็จะมีความผิดเพิ่มไปอีก
ขณะที่ พระครูอาทรธัญญานุรักษ์ เจ้าคณะตำบลลำไทร เจ้าอาวาสวัดโสภณาราม บอกว่า ได้ทราบเรื่องดังกล่าวมา 3-4 เดือนแล้วและได้ดำเนินการมาโดยตลอด แต่เจ้าอาวาสวัดดังกล่าวกลับมีพฤติกรรมเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่กระตือรือร้นที่จะแก้ปัญหา ซึ่งทางเจ้าคณะตำบลเคยเสนอให้ไปอยู่วัดอื่นก็กลับนิ่งเฉย และเมื่อถามว่าเอาเงินไปทำอะไรก็ไม่ตอบยอมรับเพียงแค่ว่าเป็นหนี้ ซึ่งก็จะต้องตรวจสอบและการตรวจสอบต้องดูว่าเงินเข้ามาแล้วไปไหนต่อ ซึ่งหากมีความผิดก็จะให้สึกทันที
ส่วนประเด็นที่ผู้เสียหาย บอกว่าถูก เจ้าอาวาสวัดดังกล่าวถูกถีบและถูกบีบคอ ทางเจ้าคณะตำบล บอกว่ายังไม่ได้สอบสวน แต่จะสอบสวนเรื่องเงินก่อน เพราะทราบว่าเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวมีการยืมเงินในลักษณะนี้กับบุคคลอื่นอีก ซึ่งก็จะตรวจสอบทั้งหมด
เจ้าคณะตำบลได้ฝากไปถึงญาติโยมว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลผิดก็ว่าไปตามผิดแต่ยังมีพระที่ปฏิบัติดีอยู่ในวัดอีกหลายรูปขอให้ญาติโยมมั่นใจในกระบวนการตรวจสอบที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ทางเจ้าคณะตำบลได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวบอกว่าอยู่ระหว่างการเดินทางกลับจากการไปหาหมอที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว ไม่สะดวกที่จะมาช่วงเย็นวันนี้ พร้อมนัดไปที่วัดพรุ่งนี้ 10 โมง ยืนยันว่าไปหาหมอจริงๆ ไม่ได้หลบหน้า
ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด มีเศรษฐินีท่านหนึ่งไปร้องเพจสายไหมต้องรอดว่ามีเจ้าอาวาสวัดท่านหนึ่งย่านลำลูกกาคลอง 13 ไปยืมเงินจำนวน 10 ล้านบาท โดยมีสัญญากู้ยืมเงินกันและจะชดใช้หนี้สิ้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และก็ไม่มีการคืนเงิน และยังบอกอีกว่าเงินที่ยืมมานำไปบูรณะโบสถ์ ศาลา และถ้าไม่มีเงินมาใช้หนี้อยากได้อะไรก็ให้เอาไป อยากได้โบสถ์ก็เอาไป อยากได้ศาลาวัดก็เอาไป และก็ให้กุญแจมา
ซึ่งทางผู้เสียหายไม่รู้จึงได้นำกุญแจไปฝากไว้ที่เจ้าคณะตำบลพืชอุดมไว้แล้ว และทางผู้เสียหายก็มาปรึกษาตน ตนก็พาไปพบท่านอาจารย์อ๊อด เจ้าอาวาสวัดสายไหม ซึ่งท่านอาจารย์อ๊อดก็นำมาพบ พระราชสุทธิธรรมจารย์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เจ้าอาวาสวัดประยูรธรรมราม เพื่อนำเรียนให้ท่านทราบ และทราบว่าทำไม่ได้เพราะของวัดเป็นของญาติโยมที่มาทำบุญ ทางเจ้าอาวาสจะยกให้ใครไม่ได้ และให้ทางเจ้าคณะจังหวัดตัดสินว่าทางเจ้าอาวาสเป็นแบบนี้ทางคณะสงฆ์จะมีมาตรการอย่างไร
เบื้องต้นท่านเจ้าคุณบอกว่าเรื่องนี้มีความผิดหลายส่วนทั้งทางแพ่งและอาญาทางแพ่งก็ให้ฟ้องไป ส่วนทางอาญาก็ให้ผู้เสียหายไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน ส่วนหลักของสงฆ์ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ