หนี้เสียพุ่งไม่หยุด แตะ 1.2 ล้านล้าน ‘บ้าน-รถ’ ยังสูง เครดิตบูโรห่วงคุมไม่อยู่





19 กันยายน นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยในปัจจุบัน ดูจากข้อมูลสิ้นเดือนกรกฎาคม 2567 หรือ 7 เดือนที่ผ่านมาพบว่า ตัวเลขหนี้ครัวเรือนในฐานข้อมูลสถิติเครดิตบูโรเท่ากับ 13.6 ล้านล้านบาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ หากดูด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล พบขยับขึ้นต่อเนื่องจาก 1.16 ล้านล้านบาท เพิ่มเป็น 1.19 ล้านล้านบาท คิดเป็น 8.7% ของหนี้รวม และเพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนและมีแนวโน้มไหลต่อไปถึง 1.2 ล้านล้านบาทในไม่ช้า

“สำหรับหนี้เสีย 3 ลำดับแรก ณ เดือนกรกฎาคม ได้แก่ หนี้เสียจากสินเชื่อบ้าน อยู่ที่ 228,447 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% หนี้เสียจากสินเชื่อรถยนต์ 262,985 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.3% หนี้เสียจากบัตรเครดิต 69,471 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.0% เมื่อเทียบเดือนมิถุนายน 2567″ นายสุรพลกล่าว

นายสุรพลกล่าวว่า ด้าน SM หรือหนี้ที่ค้างชำระ 31-90 วัน ซึ่งเป็นหนี้ที่กำลังจะเสีย เมื่อเดือนมิถุนายน 2567 ปรับลดลงมาจากไตรมาสก่อนอย่างมากจนเหลือ 5 แสนล้านบาท แต่ผ่านไป 1 เดือนเข้าเดือนกรกฎาคมกลับเพิ่มเป็น 6.7 แสนล้านบาท หรือเพิ่ม 1.7 แสนล้านบาท ในนี้มาจากสินเชื่อบ้านเพิ่มจาก 1.43 แสนล้านบาท เป็น 1.69 แสนล้านบาท โตขึ้น 18% สินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มจาก 8.5 หมื่นล้านบาท เป็น 1.13 แสนล้านบาทโตขึ้น 33% สินเชื่อเพื่อประกอบธุรกิจโดยมีลูกหนี้เป็นบุคคลธรรมดาหรือคนตัวเล็กตัวน้อยกู้ จาก 2.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มเป็น 4.4 หมื่นล้านบาท โตขึ้น 69% ขณะที่สินเชื่อรถยนต์, บัตรเครดิตนิ่งๆ กับลดลง

นายเผด็จ เผจิญศิวกรณ์ รองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด กล่าวในช่วงหนึ่งบนเวทีสัมมนากรุงเทพจตุรทิศ : Property เจอหนี้ 10 ปี อสังหาฯไทยกลับไปไม่เหมือนเดิมว่า ปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจไทยคนมีหนี้เพิ่มมากกว่ารายได้เพิ่ม มีหนี้ต่อครัวเรือนสูง การเติบโตของรายได้เป็นแบบเคเชฟ แต่จังหวัดมีจุดท่องเที่ยวจะฟื้นตัวเร็วกว่าพื้นที่อื่น ตอนนี้สิ่งน่ากังวลคือหนี้ SM กำลังจะเป็นหนี้เสีย โดยอันดับแรกเป็น หนี้บัตรเครดิต รองลงมา บ้าน และ รถยนต์ โดยคนยอมเป็นหนี้เพื่อนำเงินมาเสริมสภาพคล่อง ยอมจ่ายดอกเบี้ยแพง เป็นปัจจัยและพฤติกรรมเปลี่ยนไป

“ตอนนี้ภูเขาหนี้ไปกระจุกตัวที่เจนวาย มีหนี้ครบ ทั้งบุคคล รถ บ้าน บัตรเครดิต พร้อมเต็มที่ที่จะเผชิญหนี้ต่อไปในโลกอนาคต และปัญหาหนี้ก็มีแนวโน้มจะขยายไปสู่เจนเอ็กซ์ จากปัจจัยเหล่านี้ทำให้การกู้ซื้อบ้านยากขึ้น ทำให้มียอดการปฏิเสธสินเชื่อ หรือรีเจ็กต์เรตสูงถึง 80% คนมีบ้าน 2-3 หลังเริ่มมีปัญหาการชำระหนี้ สะท้อนว่าคนกำลังเข้าขั้นวิกฤต และแนวโน้มหนี้ SM จะไหลเป็นหนี้เสียมากขึ้น ซึ่งปัจจัยกระทบต่ออสังหาฯ คือเศรษฐกิจ ดอกเบี้ย หนี้ครัวเรือน รีเจ็กต์เรต” นายเผด็จกล่าว

นายเผด็จกล่าวว่า การแก้หนี้ครัวเรือนไม่ใช่เป็นการหว่านนโยบายออกไป และไม่มีมาตรการไหนแก้ได้เบ็ดเสร็จสมบูรณ์ ต้องมีการคิดอย่างรอบคอบ
ขอฝากนโยบายรัฐบาลชุดใหม่หาวิธีการจะทำอย่างไรให้ลูกหนี้มีรายได้ ประชาชนมีรายได้อย่างยั่งยืน ต้องย้อนไปดูจากเศรษฐกิจมหาภาค และทำให้คนมีรายได้ระยะยาว

 

ข่าวจาก : มติชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: