เจ๊หนึ่ง บางปู แฉทนายดัง เรียก 10 ล้าน ทำคดี แต่คดีไม่คืบ





กลายเป็นบานปลายขยายกว้าง สำหรับปมประเด็นเงิน 71 ล้านบาท สำหรับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความชื่อดัง ที่ถูก ‘เจ๊อ้อย’ ดำเนินคดีโกงเงิน 71 ล้านบาท หลังจากนั้น ถูก ไฮโซปอ-ตนุภัทร เจ้าของสปีดโบ๊ต ‘แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์’ ดาราสาวชื่อดัง นั่ง และได้พลัดตกลงจากเรือสปีดโบ๊ต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา แฉเพิ่มเติมว่ามีทนายดัง ที่แนะนำแนวทางสู้คดีในทางที่ผิดให้ “คนบนเรือ” ซึ่งหลายคนเชื่อมโยงไปที่ทนายตั้มนั้น

29 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา รายการเจาะลึกทั่วไทย ได้สัมภาษณ์ วรัชญากรณ์ อ่อนธรรม หรือ หนึ่ง บางปู บางช่วงบางตอนระุบว่า จุดเริ่มต้นการรู้จักทนายดังคนนี้เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อ 3 ปีก่อน รู้จักผ่านอดีตนางงามคนหนึ่ง ที่ทำมูลนิธิฯ ตอนนั้นกำลังมีปัญหากับสามีเก่า อยู่ในช่วงกำลังจะจะฟ้องร้องกัน และตนต้องแยกกับสามีเก่าจริงๆ จนตนได้เบอร์ติดต่อทนายดังคนนี้มา หลังจากนั้นก็ได้พูดคุยติดต่อกับทางทนาย เขามีการถามถึงปัญหาของตนและสามี

รวมไปถึงทรัพย์สินที่ตนมีทั้งหมดว่ามีอะไรบ้าง เท่าไหร่ พอตนบอกทุกอย่างไปหมดแล้วทนายดังบอกกับตนกลับมาว่า เขาจะจัดการเรื่องนี้ให้แต่ต้องขอเวลาไปปรึกษาบิ๊กผู้ใหญ่ก่อน หลังจากนั้นเขาโทรมาบอกกับตนว่าค่าดำเนินการทั้งหมด 10 ล้านบาท

กล่าวว่า ที่ตนออกมาพูดครั้งนี้ต้องบอกก่อนว่าไม่ได้ต้องการแสง เพียงแค่ตนเป็นหนึ่งในผู้เสียหายเช่นเดียวกัน และตนไม่ได้ต้องการฟ้องร้องอะไร เพียงแต่อยากให้ทนายดังคนนี้ได้รับกรรมบ้าง ที่ผ่านมาไม่เคยพูด เพราะว่าไม่คิดว่าจะมีแค่ตน ตอนนี้มีผู้เสียหายเยอะมาก

จุดเริ่มต้นการรู้จักทนายดังคนนี้เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อ 3 ปีก่อน รู้จักผ่านนางงามคนหนึ่ง เหมือนเป็นการบอกต่อกัน เพราะช่วงนั้น ตนมีปัญหากับสามีเก่า อยู่ในช่วงกำลังจะจะฟ้องร้องกัน และตนต้องแยกกับสามีเก่าจริงๆ จนตนได้เบอร์ติดต่อทนายดังคนนี้มา หลังจากนั้นก็ได้พูดคุยติดต่อกับทางทนาย เขามีการถามถึงปัญหาของตนและสามี รวมไปถึงทรัพย์สินที่ตนมีทั้งหมดว่ามีอะไรบ้าง เท่าไหร่

พอตนบอกทุกอย่างไปหมดแล้วทนายดังบอกกับตนกลับมาว่า เขาจะจัดการเรื่องนี้ให้แต่ต้องขอเวลาไปปรึกษาบิ๊กผู้ใหญ่ก่อน หลังจากนั้นเขาโทรมาบอกกับตนว่าค่าดำเนินการทั้งหมด 10 ล้านบาท ตอนนั้นไม่ม่ีตัง แต่รายได้ช่วงนั้น หารายได้เยอะ คิดว่าเงิน 10 ล้าน คิดว่าไม่มีปัญหาอะไรเลยไปขอกู้ธนาคารมาจ่ายให้

พร้อมบอกว่า 10 ล้านเป็นของเขาแค่ส่วนน้อย ส่วนมากจะเป็นของบิ๊กผู้ใหญ่ตนพยายามต่อรองราคาแล้วแต่เขาไม่ลดเลยสักบาท จนตนตัดสินใจยอมจ่ายเพราะว่าตนนนั้นคิดว่าคงเป็นหนทางเดียว และอีกอย่างบิ๊กผู้ใหญ่คนนั้นตนเห็นว่าเขาสนิทกับทนายดังอยู่แล้วเลยคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ตนคิดว่าทุกอย่างจะจบไม่คิดว่าจะโดนทนายคนดังคนนี้มาทำกับตนแบบนี้

เป็นการเรียกเงิน 10 ล้านได้ถ่ายรูปคู่แค่ 2 รูป แต่คุณภาพในการทำงานไม่ถึง 2 แสน ภายหลังตนเริ่มไม่โอเค เริ่มรู้ตัว ช่วงที่ทนายดังเข้ามาหาแม่ของตนที่โรงงาน และบอกให้ถ่ายรูปคู่กับเขาลงโซเชียล เพื่อที่สามีเก่าตนจะได้กลัวและหนีไปเอง เพราะสามีเก่าตนต้องรู้ว่าตนเป็นใคร แต่นอกจากนั้นเรื่องอื่นไม่มีการดำเนินงานอะไรให้เลย

จนถึงขั้นตนกับสามีเก่าต้องถึงกับคุยกันเอง เคลียร์กันเองแบบไม่จำเป็นต้องมีทนาย จนเรื่องราวผ่านไปตนก็มีการพบเจอทนายดังโดยบังเอิญบ้างแบบไม่ได้นัด เห็นเขาชีวิตดี ออกรถหรูคาเยน มูลค่า 9 ล้าน ตอนนั้นตนแอบคิดในใจเหมือนกันนะว่า เงินตนหรือเปล่า แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรคิดว่าจะจบแบบทุกครั้ง จนระยะผ่านไปได้เกือบ 1 ปี

มีอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ตนอยากจะติดต่อทนายดังกลับไปอีกครั้ง เพราะว่าตนอยากฟ้องสามีเก่าจริงๆ อีกครั้ง ตนเคยทำการนัดทนายดังเขาเรียกเงินมาอีกรอบ 2 จำนวน 7 แสนบาท ตนตกใจมาก 10 ล้านนั้นก็จ่ายไปแล้ว ดำเนินการอะไรก็ยังไม่ได้ดำเนินให้แถมเก็บเพิ่มอีก ตอนนี้หนึ่งกำลังรอเป็นบุคคลล้มละลายดเพราะไปกู้เงินมาจ่าย เพราะไม่มีเงินจ่ายแล้วตอนนี้ เนื่องจากเพิ่งหายป่วย

ขอบคุณข้อมูลจาก รายการเจาะลึกทั่วไทย amarintv

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: