ผบ.ตร.ไม่โกรธถูกโจมตี “ทรงผมขาวสามด้าน” ชี้เป็นเรื่องระเบียบวินัย





17 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งข้อความเรื่องการทรงผม ไปยัง จตช., รอง ผบ.ตร., ผู้ช่วย ผบ.ตร. , รอง จตช. และ ผบช. โดยระบุว่า จากกรณีที่ผมได้มีการประชุมเพื่อตรวจสอบ ติดตามความพร้อมในการปฎิบัติหน้าที่ในช่วงเทศกาลลอยกระทง เมื่อวันศุกร์ที่ 15 พ.ย.67 ที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงท้ายของการประชุม ผมได้พูดถึงเรื่องทรงผมที่มีการปล่อยปละละเลยและไม่เป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้

อ่านเพิ่มเติม : จี้ถามแรง! ฟื้นทรงผมขาว3ด้าน ตร.ได้อะไร ทำไมไม่เพิ่มสวัสดิการ?

โดยผมได้พูดอย่างชัดเจนว่า “ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่สวมใส่เครื่องแบบนั้น ต้องไว้ทรงผมให้เป็นไปตามระเบียบ ส่วนผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านการข่าวและการสืบสวนก็ต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับการปฎิบัติหน้าที่ จะไว้ทรงผมเหมือนตำรวจที่ต้องทำหน้าที่สวมใส่เครื่องแบบนั้น มิได้”

แต่นับจากวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา จนถึงบัดนี้ มีบุคคลทั้งภายในและภายนอกองค์กรได้กล่าวโจมตีอย่างรุนแรง มีการโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมลงในโซเชียลมีเดีย หลายช่องทาง และมีทั้งที่ปรากฏตัวตนอย่างชัดเจนและไม่ปรากฏตัวตนอวตารข้อความผ่านเพจต่างๆลงมา ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ท้อใจหรือโกรธเคืองผู้ใดทั้งสิ้น

และขอกำชับทุกท่านว่า “ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าข้าราชการตำรวจคนใดเป็นผู้ที่แสดงความเห็นต่าง จากการที่เราอยู่ภายใต้ระเบียบที่ดี ก็ห้ามเรียกเด็กมาตำหนิหรือต่อว่าอะไรต่อเด็กอย่างเด็ดขาดนะครับ” เขามีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นครับ เพียงแต่เราควรทำความเข้าใจกับเด็กรุ่นใหม่ ให้เข้าใจถึงความมีวินัยและความรับผิดชอบ เท่านั้น

และการโพสต์ข้อความ หรือการนำภาพที่หัวหน้าหน่วย ทำภาพตรวจความยาวผมหน้า สภ. ในลักษณะเหมือนการประชดประชัน ก็ต้องพิจารณาความเหมาะสมกันด้วยครับ

ในความคิดของผมในฐานะผู้นำองค์กร ผมไม่อยากให้มองข้ามเรื่องแบบนี้ เพราะนี่เป็นพื้นฐานการสร้างวินัยของตำรวจ การสร้างวินัยต้องเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ เหมือนเราสอนลูก เราจะสอนลูกให้อ่าน กอไก่ ขอไข่ อ่าน ABC ไปพร้อมกับสอนลูกให้เล่นของเล่นแล้วต้องเก็บของเข้าที่ ทานข้าวอิ่มแล้วต้องเก็บจาน ล้างจาน ถูบ้าน ซักผ้า รีดผ้าเอง หากเรียนเก่งแต่ไม่มีวินัยในตัวเอง ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและเพื่อนร่วมงานที่เขาพร้อมจะปฏิบัติ ก็เข้าสังคมยาก หากลูกจะโตขึ้น ถึงแม้จะเรียนเก่งแต่ไม่มีวินัย ไม่มีความรับผิดชอบ ก็เข้าสังคมยากเพราะผู้คนจะรังเกียจ

การไว้ทรงผมที่เป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้อยู่แล้ว และผมเองก็ยังไม่ได้ปรับแก้ไขระเบียบเรื่องนี้ใหม่เลย ผมได้พูดไปตามที่สิ่งที่เห็น และเห็นว่าผู้บังคับบัญชาก็เริ่มละเลย และไม่เป็นตัวอย่างให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชา อาจทำให้ระเบียบวินัยที่มองกันว่า “เรื่องแค่นี้” หย่อนยานและเราจะไม่สามารถรักษาวินัยอะไรในอนาคตได้เลยต่อไป

และตามที่ผมพูดในที่ประชุม ก็มีการเอาไปตีความกันผิดๆ และโจมตีด้วยคำพูดที่รุนแรง ทั้ง ๆ ที่ผมบอกว่า ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับด้านการข่าวหรือด้านการสืบสวนก็ต้องมีการอำพรางตัว จะตัดทรงผมแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องแต่งเครื่องแบบในการปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ และต้องหลีกเลี่ยงให้เจ้าหน้าที่กลุ่มนี้มาใส่เครื่องแบบเพราะจะดูไม่เหมาะสม การไว้ทรงผมสั้น ก็ยิ่งทำให้ตำรวจแต่ละคนนั้น ดูมีวินัย ดูหน้าตาอ่อนเยาว์ มีความสะอาดเรียบร้อย เหมาะสมกับการสวมใส่เครื่องแบบของเรา

หากแต่การเป็นตำรวจ ถ้าไม่อยู่ในวินัย เริ่มจากวินัยง่ายๆ เช่นนียังไม่ชอบ ไม่ทำ บ่น โวยวาย อาจสิทธิ์โน่น สิทธิ์นี่ และหากมากเข้า มากเข้า ก็จะกลายเป็นการสร้างนิสัย ไม่เคารพต่ออาชีพ ไม่เคารพต่อผู้บังคับบัญชา ไม่เคารพต่อคนรอบข้างที่เขารักษาวินัย และไม่เคารพต่อตัวเอง และอาจเป็นหนทางของการไม่เชื่อฟัง ควบคุมไม่ได้ อยากทำอะไรก็ทำ ไม่สนใคร ไม่สนผู้บังคับบัญชาต่อไปอาจสามารถไปทำผิดวินัยอื่นๆ จนถึงวินัยร้ายแรง ที่นอกเหนือการควบคุมได้ในภายภาคหน้า

ผมมองตำรวจเด็ก ๆ เป็นเหมือนลูก ที่ต้องบ่มเพาะทั้งวินัย และอุปนิสัยให้เป็นตำรวจที่ดี เป็นแบบอย่างที่ดี มีคุณภาพ ทั้งการปฏิบัติหน้าที่ และการปรากฏตัวต่อสายตาพี่น้องประชาชนครับ อะไรที่ผมสามารถอลุ่มอล่วยได้ ผมก็ทำให้ แต่การรักษาวินัยเช่นนี้ ในฐานะผู้บังคับบัญชา ผมก็ต้องขอความร่วมมือจากทุกท่านพิจารณาและดำเนินการต่อไปนะครับ ด้วยความเคารพครับ

ข่าวจาก มติชนออนไลน์

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: