การขับรถในช่วงฝนตกอย่างปลอดภัย





การขับรถในช่วงฝนตกอย่างปลอดภัย

ฤดูฝนนอกจากจะทำให้เราเปียกปอน เฉอะแฉะแล้ว เมื่อฝนโปรยปรายลงมาเวลาเราขับรถ ยิ่งทำให้ถนนลื่น ทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางก็ไม่ชัดเจน อาจทำให้เกิดอันตรายได้ วันนี้ พี่ชะเอม จึงนำวิธีการขับรถในช่วงฝนตกอย่างปลอดภัยมาฝากกันค่ะ

การขับรถในช่วงฝนตก
         การเปิดใช้ที่ปัดน้ำฝน ปรับระดับความเร็วของที่ปัดน้ำฝนให้สอดคล้องกับความแรงและปริมาณฝนที่ตกลงมา
รวมถึงฉีดน้ำล้างกระจกทุกครั้งเมื่อเปิดใช้งานที่ปัดน้ำฝน จะช่วยชะล้างคราบฝุ่นละอองและลดการเสียดสีกับกระจก
ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น
         การใช้ความเร็วควรลดระดับความเร็วให้สอดคล้องกับสภาพถนนและปริมาณฝนที่ตกลงมา
ขับรถให้ช้ากว่าปกติประมาณ 3 ใน 4 ของความเร็วปกติ โดยเฉพาะหลังฝนตกใหม่
เพราะผิวถนนจะมีสภาพเป็นทางโคลนจึงเป็นช่วงที่รถเสี่ยงต่อการลื่นไถลมากกว่าปกติ 
เพื่อความปลอดภัย ควรขับรถในระดับความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม.
เพื่อป้องกันรถเกิดอาการเหินน้ำ  ที่สำคัญ ควรรักษาความเร็วในระดับที่สามารถควบคุมรถได้
จะช่วยให้รถยึดเกาะถนนได้ดีขึ้นสามารถหยุดรถและมีเวลาเพียงพอในการแก้ไขสถานการณ์ได้ทันที
ที่เกิดเหตุฉุกเฉิน
         การเว้นระยะห่าง ไม่ขับรถชิดท้ายรถคันหน้ามากเกินไป เว้นระยะห่างให้มากกว่าปกติประมาณ
10 – 15 เมตรโดยเฉพาะรถขนาดใหญ่ ควรทิ้งช่วงจากรถคันอื่นให้มากกว่า 15 เมตร
จะช่วยให้มีระยะทางในการหยุดรถได้อย่างปลอดภัย
          การเปลี่ยนช่องทางขับรถในช่องทางของตนเอง ไม่เปลี่ยนช่องทางกะทันหันไม่แซงรถคันอื่น
ในระยะกระชั้นชิด  พร้อมเปิดสัญญาณไฟทุกครั้งที่เปลี่ยนช่องทาง รวมถึงเพิ่มความระมัดระวัง
เมื่อขับรถผ่านทางร่วมและทางแยกเพราะมีจราจรคับคั่ง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
         การหยุดรถ  ให้ค่อยๆ ถอนคันเร่งเพื่อลดระดับความเร็วของรถ ไม่เหยียบเบรกให้รถหยุดกะทันหัน
โดยเฉพาะเมื่อขับผ่านบริเวณที่มีแอ่งน้ำหรือน้ำท่วมขัง เพื่อป้องกันรถเหินน้ำ ทำให้ล้อล็อก จนรถเสียการทรงตัว
ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้   
         การใช้สัญญาณไฟ  เปิดไฟหน้ารถแม้จะเป็นช่วงเวลากลางวัน จะทำให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น
และรถคันอื่นมองเห็นรถเราได้จากระยะไกล ไม่ควรใช้ไฟหรี่เพราะแสงไฟที่ส่องสว่างไม่เพียงพอ
ต่อการมองเห็นเส้นทางรวมถึงไม่เปิดใช้สัญญาณไฟสูง เพราะแสงไฟที่กระทบกับน้ำฝนจะส่องเข้าตา
ผู้ที่ขับรถสวนทางมาโดยเฉพาะในช่วงกลางคืนที่มีฝนตกหนักหรือถนนมีน้ำเฉอะแฉะ
ควรเปิดใช้ไฟตัดหมอกจะช่วยลดการสะท้อนของแสงไฟหน้ารถกับน้ำบนพื้นถนน
ที่สำคัญห้ามเปิดไฟกะพริบหรือไฟฉุกเฉินเพราะจะสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้ร่วมใช้เส้นทาง
ทำให้ไม่มีสัญญาณไฟเลี้ยวใช้ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
 
ข้อควรรู้ในการขับรถช่วงฤดูฝน
            กรณีมีละอองฝ้าเกาะกระจกรถ หากเป็นกระจกหน้าหรือกระจกข้าง
ให้ปรับอุณหภูมิภายในและนอกรถให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันลดกระจกลงเล็กน้อย
แต่หากยังมีละอองฝ้าเกาะกระจก ให้จอดรถในบริเวณที่ปลอดภัยและใช้ผ้าแห้งเช็ดกระจก
กรณีเกิดฝ้าที่กระจกหลังรถ ให้เปิดปุ่มไล่ฝ้า จะช่วยไล่ละอองน้ำที่เกาะกระจกรถ
ทำให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น
          กรณีฝนตกหนักจนมองไม่เห็นเส้นทาง ควรจอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย เช่น
สถานีบริการน้ำมัน จุดพักรถริมทาง เป็นต้น รอจนฝนหยุดตกหรือมองเห็นเส้นทางชัดเจน
ค่อยขับรถไปต่อ
 
หวังว่าวิธีการขับรถในช่วงฝนตกที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ จะทำให้ทุกๆคนปลอดภัยจากการขับรถ
ในช่วงหน้าฝนนี้กันนะคะ ^^

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: