เป็นการถ่ายภาพตัวเองด้วยกล้องดิจิทัลเพื่อโพสต์บนโซเชียลเน็ตเวิร์คโดยเฉพาะ คำว่า ‘Selfie’ ถูกเริ่มต้นใช้ครั้งแรกในปี 2002 ในห้องสนทนาออนไลน์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งผู้ใช้อธิบายภาพถ่ายของตนและบอกว่าเป็นภาพที่ถ่ายตัวเองด้วยกล้องมือถือ (It was a selfie) แต่มาฮิตแบบระเบิดเถิดเทิงก็ตอนงานออสก้าที่ Ellen Degeneres ใช้มือถือของตัวเองถ่าย ‘เซลฟี่’ กับดารานักแสดงนำกลางงานออสก้านั่นเอง
(แฮชแท็ก) มีลักษณะเป็นสัญลักษณ์ "#" จุดประสงค์ในการใช้คือรวมเนื้อหาหรือเรื่องราวโพสต์ที่มีความใกล้เคียงกันมารวมเข้าไว้เป็นหมวดเดียวกันเพื่อประโยชน์ในการค้นหาข้อมูล มีการใช้งานอย่างแพร่หลายและเป็นที่นิยมมากบนโซเชียลมีเดียหลายประเภท เช่น Twitter, Tumblr, Pinterest และ Instagram แต่กลับเพิ่งเริ่มมีการใช้งานในวงกว้างบน Facebook เมื่อไม่นานมานี้
อีกหนึ่งคำฮิต ที่หมายถึงข้อความสั้นๆ ที่ส่งเป็น sms เพื่อบอกเล่าสถานะให้เพื่อนฝูงได้รับรู้ว่าอยู่ที่ไหน ทำอะไรกับใครอยู่ แต่เดิม Tweet หมายถึงข้อความสั้นๆ ซึ่งบอกเล่าสถานะของผู้ใช้ผ่านเวปไซด์ที่มีชื่อว่า Tweeter
คือพวกที่ชอบถ่ายรูปขาตัวเอง จะพบบ่อยบนอินสตาแกรม พวกสาวๆ จะชอบถ่ายขาอ่อนตัวเองตอนนอนอาบแดดแล้วโพสในอินสตาแกรม ส่วนสาวไทยก็ถ่ายกันได้แบบว่าไม่ต้องอาบแดด สามารถโชว์เรียวขาผ่านอินสตาแกรมกันได้ทุกที่ทุกเวลาไม่เชื่อลอง "#legsie" กันดูแล้วคุณจะรู้ว่ามันฮิตแค่ไหน
เรียกง่ายๆ ว่า “นักสืบเฟสบุค” เป็นการใช้เฟสบุคเพื่อสืบค้นประวัติของคนๆ หนึ่งที่เราสนใจ ยกตัวอย่างเช่น สาวๆ ที่มาไลค์รูปแฟนเราบ่อยๆ ก็มักจะตามไปสืบค้นประวัติตั้งแต่อนุบาลยันจบปริญญาตรี บ้านอยู่ไหน เรียนอะไร ทำงานที่ไหน แอบดูอยู่ตลอดเวลาผ่านเฟสบุค
มาจากคำว่า stay+vacation หมายถึงการพักผ่อนอยู่บ้าน เป็นคำที่ฮอตฮิตมากในอเมริกาช่วงที่เกิดวิกฤติน้ำมันแพง เลยไม่อยากไปไหนจึงเลือกที่จะพักร้อนทำบาร์บีคิวปิ้งย่างอยู่ที่บ้านจะดีกว่า เลยเป็นที่มาของคำว่า “Staycation” นอนพักอยู่ที่บ้านกันดีกว่า
คล้ายๆ คำว่า Amazing ที่แปลว่า น่าทึ่ง น่าตื่นตาตื่นใจ แต่ Amazeballs เป็นขั้นสุดยอดของคำว่าอะเมซิ่ง ที่แปลว่า "เจ๋งสุดๆ โดนมากๆ" เริ่มเผยแพร่มาจากบล็อกเกอร์ซุบซิบดารา Perez Hilton จนกระจายไปทั่วเว็บและแทรกซึมเข้าไปในภาษาวัยรุ่นที่เบื่อการใช้คำว่า amazing ในการกล่าวชื่นชมอะไรก็ตามที่ตัวเองชอบ
กล่าวถึงบุคคลที่ชอบทำโปรไฟล์ปลอม เอารูปของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง มโนว่าเป็นคนๆ นั้นบนโลกแห่งโซเชียลเน็ตเวิร์ค เพื่อจุดประสงค์ไม่ดี
เกิดจากการการผสมคำ Chilling กับ Relaxing แปลว่าการผักผ่อนแบบชิลๆ ความรู้สึกสบาย ผ่อนคลายอย่างเดียวไม่พอมันต้องชิลด้วย เลยกลายมาเป็น Chillaxing อะไรจะสบายขนาดนั้นว่ามั๊ย!!!
เรียกง่ายๆ ว่าการขโมยซีนชาวบ้านเขาอย่างเจ็บแสบ ขณะที่คุณกับเพื่อนกำลังโพสท่าสวยๆ ให้ตากล้องแชะภาพอยู่แล้วจู่ๆ ก็มีจอมขโมยซีนกระโดดมาด้านหลังเพื่อขอมีเอี่ยวด้วย โดยที่คุณไม่รู้ตัวและเจ็บจี๊ดยิ่งขึ้น เมื่อรู้ว่าภาพที่ออกมาคนข้างหลังโพสท่าได้เจ๋งกว่าเราซะงั้น!!!
กลุ่มคน (mob) ที่มารวมตัวกันแป๊ปนึง (Flash) ในที่สาธารณะ เพื่อทำอะไรบางอย่าง อย่างเช่น การเต้น, เล่นดนตรี หรือ ร้องเพลง หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้วก็จะสลายตัวไป ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ความสนุกสนานเพื่อสร้างความแปลกใจกับคนอื่น คล้ายๆ ปรากฎการณ์ฮาเร็มเชคนั่นเอง
เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด คำศัพท์ยอดฮิตของเด็กไฮสคูล ใช้พูดถึงคนที่แกล้งเป็นเพื่อนมาทำดีด้วย แต่จริงๆ แล้วแอบหวังร้ายกับเรานั่นเอง
หมายถึง ‘แปลกแต่น่ารัก’ หรือ ‘น่ารักแบบพิลึกๆ’ เป็นการผสมกันของคำว่า adorable = น่ารักน่าเอ็นดู กับ dork = คนที่มีพฤติกรรมแปลกๆ (คล้ายๆ nerd หรือ geek) แต่มีอารมณ์ขันและเข้าสังคมได้ดีเลยเป็นที่มาของคำว่า แปลกแต่น่ารักนะเออ!!!
‘โอมจงเงย’ เป็นอาการของคนที่ตัดขาดจากโลกภายนอก นั่งเล่นแต่โทรศัพท์ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเฟสบุค ไลน์ หรือทวิตเตอร์ โดยไม่สนใจเพื่อนหรือคนรอบตัวเลย
คือพวกที่เรียกร้องความสนใจตลอดเวลา ต้องโพสข้อความ อัพรูปบ่อยๆ เขียนเรื่องเว่อร์ๆ เช็คเรตติ้งเป็นระยะเก็บสะสมยอดไลค์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ