นพ.เสรี หงษ์หยก อดีต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนผู้เสียชีวิต ระบุว่าเพื่อนโดนเงี่ยงปลาทับทิบตำวันที่11ก.ค.ที่ผ่านมา กลับมาทำแผลเองจนรู้สึกปวดแผลมากจึงไปพบแพทย์ จนวันที่14ก.ค. เพื่อนเดินเตะตรงบันได จนขาบวมเขียวและเย็นผิดปกติ ตนจึงบอกให้ไปโรงพยาบาล ทำ MRI พบกล้ามเนื้อฉีก
โดยแบคทีเรียที่พบที่ขาไม่ได้เกิดจากร่างกาย คาดว่าน่าจะเป็นเชื้อที่ถูกเงี่ยงปลาตำ ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่มีความรุนแรงมากอยู่ได้ทั้งในน้ำจืดและเค็ม ตอนผ่าแผลเน่าที่ขาของเพื่อนได้กลิ่นเนื้อเน่าอย่างชัดเจน เนื้อยุ่ย คล้ายเนื้อหมักกับยางมะละกอ คาดว่าเชื้อแบคทีเรียจากปลาน่าวิ่งไปกินแผลที่ขา หลังจากนั้นเพื่อนเสียชีวิตตอนตี3 คืนวันอังคาร พร้อมเตือนประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก ทานปลาปรุงสุกได้ตามปกติ
นพ.เกรียงไกร จีระแพทย์ รอง ผอ. รพ.นนทเวช ระบุว่าเชื้อที่เจอสามารถพบได้ในแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งผู้ที่ได้รับเชื้อนี้มีโอกาสเสียชีวิตสูง บางคนถึงขั้นตัดขาทิ้ง เพราะเชื้อวิ่งไปตามกระแสเลือด ทำให้อวัยวะสำคัญล้มเหลว
[ads=center]
สำหรับเคสนี้ค่อนข้างน่าแปลกใจ เพราะบางคนที่โดนเงี่ยงปลาตำก็ไม่มีอาการอะไร ขณะที่บางคนเกิดอันตรายร้ายแรง พร้อมแนะนำให้ผู้ถูกเงี่ยงปลาตำควรเร่งทำความสะอาดแผล และไปพบแพทย์เพื่อทำการเปิดปากแผล
ล่าสุด แพทย์วอนประชาชนอย่าตื่นตระหนก พร้อมแนะหากถูกก้างหรือเงี่ยงปลาตำให้ล้างแผลฆ่าเชื้อโรคทันที
นพ.เกรียงไกร จีระแพทย์ รอง ผอ. รพ.นนทเวช ระบุว่า เชื้อแบคทีเรียดังกล่าวสามารถพบได้ในแหล่งน้ำธรรมชาติ และเมื่อได้รับเชื้อแบคทีเรียนี้เข้าไปก็มีโอกาสเสียชีวิตสูง และบางรายอาจถึงขั้นตัดขาทิ้ง เพราะเชื้อวิ่งไปตามกระแสเลือด ทำให้อวัยวะสำคัญล้มเหลว ดังนั้น หากใครที่โดนเงี่ยงปลาตำ ควรบีบเลือดออกให้มากที่สุด แล้วใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลเพื่อฆ่าเชื้อโรค แต่หากเกิดแผลบวม เป็นไข้ ควรรีบไปพบแพทย์ แล้วแจ้งข้อมูลให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด
ขอบคุณที่มาจาก http://morning-news.bectero.com/post.php?pml=21679&f=1
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ