คุณ มกุฏ อรฤดี ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของ เจ๊ะหัน ให้เราได้อ่านกันเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2559 ว่า ชายผู้นี้เรียนจบแค่ ป.6 และจบมานานกว่า 30 ปี จากนั้นก็ไม่มีโอกาสได้อ่านหนังสือเลย แต่เมื่อ 6 ปีก่อน หลังจากที่เขาอ่านหนังสือ ตัวอักษร ความรู้ ทำให้วิธีคิดและชีวิตเขาเปลี่ยนไป จากก่อสร้างธรรมดา ๆ ที่คนในครอบครัวก็ทำงานรับจ้าง ตอนนี้เขาได้คิดโครงการต่าง ๆ ที่ช่วยเหลือชุมชน ตั้งกองทุนสวัสดิการในหมู่บ้าน คิดอาชีพใหม่ ๆ เปิดโลกให้กับคนในพื้นที่ ชีวิตความเป็นอยู่ไม่ใช่แค่ตัวเขา แต่ทั้งชุมชนนั้นดีขึ้น ส่วนตอนนี้ เขาดูแลวิสาหกิจชุมชนที่มีมูลค่าหลายสิบล้านบาทอยู่ และแน่นอนชีวิตประจำวันของเขา จะมีหนังสือติดตัวอยู่เล่มหนึ่งเสมอ..
ส่วนเรื่องราวของเขา เปลี่ยนชีวิตได้อย่างไรบ้าง ลองไปอ่านกันค่ะ บอกเลยว่าเป็นแรงบันดาลใจชั้นเยี่ยมที่ทำให้เราตระหนักถึงการอ่าน ไม่ว่าจะหนังสืออะไร หรือแนวไหน การอ่านก่อเกิดผลดีและเปลี่ยนโลกได้จริง ๆ
เมื่อ 6 ปีก่อน
เขารับจ้างก่อสร้าง คนในครอบครัวก็รับจ้าง
เมื่อ 6 ปีก่อน เขาเริ่มอ่านหนังสือเล่มแรก
เมื่อ 5 ปีก่อน
เขาเริ่มอธิบายความหมายในหนังสือ
และปลูกหญ้าขาย เมื่อได้อ่านหนังสือ 'หญ้า'
เมื่อ 5 ปีก่อน
เขาก่อตั้งกองทุนสวัสดิการในหมู่บ้าน
เพราะได้อ่านหนังสือ ดร.ดูลิตเติ้ล
เมื่อ 4 ปีก่อน
เขาอ่านมากขึ้น เพราะรู้ว่าหนังสือช่วยคิด
และคิดอาชีพใหม่ให้ครอบครัว ชุมชน
เมื่อ 4 ปีก่อน
ผมสมัครเข้ากองทุนสวัสดิการฯ ของเขา
เมื่อ 3 ปีก่อน
เขาคิดวิธีขจัดยุงลาย และชาวบ้านได้เงิน
ด้วยวิธีรับซื้อกะลามะพร้าวอันเป็นแหล่งยุง
เขาเผากะลามะพร้าวทำถ่านอัดแท่ง
เมื่อ 2 ปีก่อน
ราคายางพาราเริ่มตกต่ำ
เขาคิดหาพืชปลูกแทนยางพารา
และชักชวนคนอื่น ๆ ให้ปลูกหมากในที่ว่าง
เมื่อปีก่อน
เขารับซื้อผลหมากและปาล์มจากชาวบ้าน
เขาบอกคนในครอบครัวว่า
"อย่ากดราคาคนจน พวกซาเล้งต้องช่วยเขา"
เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมถามเขาเล่น ๆ ว่า
"ความสำเร็จจนบริหารเงินนับสิบ ๆ ล้าน
เกิดขึ้นในเวลาอันสั้นได้อย่างไร"
เขาตอบหนักแน่นพร้อมรอยยิ้มว่า
"เพราะผมอ่านหนังสือ"
ผมอยากให้เขาได้ช่วยงานรัฐบาล
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก มกุฏ อรฤดี
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ