รู้จัก หญ้ารีแพร์ สมุนไพรไทยสรรพคุณคืนความสาว





หญ้าฮี๋ยุ่ม หรือ หญ้ารีแพร์ กลายเป็นพืชที่ได้รับความสนใจขึ้นมาอย่างมาก หลังได้มีการนำเสนอในฐานะหญ้าตัวเด่นในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ซึ่งจะจัดขึ้นที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในวันที่ 3-7 กันยายน 2557 หญ้าฮี๋ยุ่ม สรรพคุณเป็นอย่างไร วิธีการใช้ต้องทำอย่างไร มาไขความสงสัยไปกับการพูดคุยกับนายแพทย์ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และเภสัชกรหญิงสุภาพร ปิติพร หัวหน้าเภสัชกร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในรายการเจาะข่าวเด่น ที่ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา
รู้จัก หญ้ารีแพร์ สมุนไพ
            หญ้าฮี๋ยุ่ม ตั้งท่าเป็นพืชนางเอกในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 11 ไปเสียแล้ว ซึ่งเป็นงานประจำปีของกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อเผยแพร่ความรู้การใช้แพทย์แผนไทยในการดูแลตัวเองแก่ประชาชน โดย นายแพทย์ธวัชชัย กล่าวว่า ในปีนี้สนับสนุนเรื่องการดูแลตัวเองของผู้หญิงเป็นพิเศษ จึงเน้นไปที่พืชสมุนไพรสำหรับผู้หญิง โดยมีหญ้าฮี๋ยุ่มเป็นตัวชูโรง ด้วยสรรพคุณเป็นพืชสมุนไพรที่ภูมิปัญญาไทยเลือกใช้ในการดูแลหญิงหลังคลอด ด้วยการนำไปอาบ อบ และกิน ช่วยทำให้ผิวพรรณกลับมาเปล่งปลั่ง มดลูกเข้าอู่ และบาดแผลหายเร็วขึ้น
            ในทางวิทยาศาสตร์พบว่าหญ้าฮี๋ยุ่ม ซึ่งเป็นพืชตระกูลเดียวกับไผ่ มีสาร “ซิลิกา” (silica) อยู่โดยธรรมชาติ ซึ่งสารตัวนี้เป็นสารต้นกำเนิดของคอลลาเจนและน้ำไขข้อในร่างกาย หากขาดสารนี้จะทำให้มีลักษณะแก่ก่อนวัย ผิวพรรณไม่เปล่งปลั่งเต่งตึง หญิงหลังคลอดที่ต้องการฟื้นตัวได้ไว ภูมิปัญญาชาวบ้านก็ได้นำหญ้าตัวนี้เข้ามาช่วย
            ส่วนเรื่องชื่อที่เรียกว่า หญ้ารีแพร์ repair นั้น เภสัชกรหญิงสุภาพร ก็เผยถึงที่มาของชื่อว่า ชื่อเดิมของหญ้าฮี๋ยุ่มนั้น ชาวบ้านเรียกกันมานานแล้วตามสรรพคุณของมัน แต่เรียกออกสื่ออาจจะลำบากหน่อย จึงได้ตั้งชื่อเรียกขึ้นใหม่ว่า หญ้ารีแพร์ นั่นเอง
            ซึ่งหญ้ารีแพร์หรือหญ้าฮี๋ยุ่มนี้ ยังเป็นพืชที่เป็นเคล็ดลับของคนโบราณ ที่แม้จะมีลูกดกเป็นสิบคนแต่ก็ยังมีความสุขในชีวิตคู่ได้ ก็เพราะใช้หญ้าฮี๋ยุ่มเลยช่วยให้แม้ลูกมากแล้วช่องคลอดก็ยังคงกระชับ นอกจากนี้ในช่วง 30 กว่าปีที่แล้วก็มีการค้นพบสารพิเศษในไผ่ มีการสกัดออกมาเป็น “แบมบู ซิลิกา” (bamboo silica) มีคุณสมบัติเพิ่มการสร้างคอนเนคทีฟ ทิชชู (connective tissue) เพิ่มความยืดหยุ่น เพิ่มน้ำเมือก ทำให้มีการหล่อลื่นได้ดีขึ้น เหมือนอย่างที่ชาวบ้านบอกว่าใช้หญ้าตัวนี้แล้วเปิดปุ๊บติดปั๊บ ไม่ต้องรอนานที่จะมีอะไรกัน
            ส่วนงานวิจัยรับรองของหญ้าฮี๋ยุ่มในไทยตอนนี้ยังไม่มีอย่างเป็นทางการ แต่ทางกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ก็จะดำเนินการวิจัยให้เป็นแบบแผนต่อไปเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ซึ่งทางนายแพทย์ธวัชชัย เผยว่า เชื่อได้ว่ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพพอสมควร เนื่องจากมีการใช้กันมาหลายร้อยปี ไม่มีอันตราย เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ชาวบ้าน หมอชาวบ้าน ผู้ใช้แล้วก็ยืนยันว่าได้ผลดี ทางกรมฯ เองก็สนับสนุนให้ใช้ เปรียบเหมือนอาหารหรือผักพื้นบ้านที่ช่วยบำรุงกำลังและรักษาอาการหลังคลอดได้ด้วย ส่วนทางต่างประเทศนั้น ก็มีงานวิจัยออกมาเกี่ยวกับสาร แบมบู ซิลิกา ว่าช่วยเรื่องให้เส้นเอ็น กระดูก และปอดแข็งแรง รวมถึงอวัยวะใดก็ตามที่ต้องการความยืดหยุ่นมีความแข็งแรงดี และช่วยเรื่องความเปล่งปลั่งของผิวพรรณด้วย
สำหรับวิธีการใช้ประโยชน์จากหญ้าฮี๋ยุ่มหรือหญ้ารีแพร์นั้น สามารถใช้ได้ทั้งการกินและใช้ภายนอก การกินก็สามารถนำยอดหญ้าฮี๋ยุ่มมาลวกจิ้มน้ำพริก นำใบขยี้กับน้ำร้อน หรือต้มแล้วคั้นแต่น้ำดื่ม มีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยสมานแผล ทำให้ผิวเก็บกักน้ำได้ดีขึ้น ผิวพรรณจึงชุ่มชื้น เปล่งปลั่งเต่งตึง ส่วนการใช้ภายนอก คนโบราณการนำมาตำหรือขยี้แล้วโปะแผล ต้มน้ำอาบ หรือเอาน้ำซะ (น้ำจากการชะล้างหลาย ๆ รอบ) อาบ ช่วยให้แผลหายไว และที่สำคัญคือใช้ในการอยู่ไฟสำหรับหญิงหลังคลอด โดยให้นำหญ้าฮี๋ยุ่มตากแห้งมาก่อไฟ ใช้ไม้ผุเป็นเชื้อไฟพอให้ไฟคุนิด ๆ (ใช้ไม้ผุไฟจะได้ไม่ให้ความร้อนมากเกินไป) แล้วนั่งเอาไอรม รมครั้งละ 10-15 นาที ทำเช้า-เย็นเป็นเวลา 7-10 วัน ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ ลดบวม ช่วยลดน้ำหนัก ซึ่งทางวิทยาศาสตร์ความร้อนช่วยลดบวมได้ หญิงหลังคลอดที่มีปัญหาเรื่องหย่อนยานและบวมจึงทำได้ผลดี ซิลิกาที่มีก็ช่วยเรื่องการสมานแผล เสริมสร้างเนื้อเยื่อ ทำให้แผลหายไวไม่ติดเชื้อ ส่วนผู้หญิงทั่วไปที่ต้องการทำเพื่อสรรพคุณกระชับช่องคลอด ให้ทำในลักษณะอบไอน้ำ คือนำหญ้าไปต้มแล้วนั่งเอาไอน้ำรมแทน
            สำหรับในผู้ชายก็สามารถใช้ประโยชน์จากหญ้าฮี๋ยุ่มได้เช่นกัน ทั้งเรื่องช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ใช้ในการรักษาบาดแผล และสามารถทำในลักษณะอบไอน้ำเพื่อบรรเทาอาการริดสีดวงด้วย
            ในต่างประเทศมีการนำสารสกัดแบมบู ซิลิกา ไปผสมเครื่องสำอางเพื่อช่วยให้ผิวพรรณยืดหยุ่นเปล่งปลั่ง นับว่าเป็นสารที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ในวงกว้างอยู่แล้ว ส่วนทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเองก็ได้นำสารตัวนี้ไปเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในไลน์ “บัวไผ่ข้าว” ด้วยเช่นกัน ส่วนโครงการต่อไปเกี่ยวกับหญ้าฮี๋ยุ่ม ก็จะมีสปาหญ้าฮี๋ยุ่ม ที่จะช่วยเสริมคอลลาเจนทำให้ผิวพรรณสดใสและดูแลผู้หญิงหลังคลอด
[ads=center]
ทั้งนี้นอกจากหญ้าฮี๋ยุ่มแล้ว ในงานก็ยังมีพืชสมุนไพรสำหรับคุณผู้หญิงที่น่าสนใจตัวอื่น ๆ อีก เช่น ต้นแม่ฮ้างสามสิบสองผัว ซึ่งนำไปทำเป็นยาบำรุงสำหรับผู้หญิงตำรับเฉพาะของชาวเลย โดยมีตำนานเล่าขานเรื่องที่มาของชื่อว่า หญิงรายหนึ่งบำรุงตัวด้วยพืชชนิดนี้จนแข็งแรงเรื่องอย่างว่ามากจนสามีสู้ไม่ไหว แต่งกับใครเป็นต้องเลิกไปถึง 32 คน ที่สุดก็เลยต้องไปบวชชี, ต้นจีผาแตก โดยจีเป็นภาษาเหนือแปลว่าเจาะ ความหมายโดยรวมของชื่อออกจะทะลึ่งนิดหน่อย และที่จริงแล้วเป็นพืชที่บำรุงได้ทั้งหญิงและชาย แต่ว่ากันว่าผู้ชายไม่ค่อยยอมให้ผู้หญิงกิน เพราะกลัวว่าผู้หญิงจะอยู่ข้างบนนั่นเอง ขอบคุณข้อมูลจาก : รายการเจาะข่าวเด่น

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: