ข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันการเสียสมาธิระหว่างขับรถ
วางแผนการเดินทางล่วงหน้า โดยศึกษาแผนที่ทั้งเส้นทางสายหลัก ทางลัด ทางเลี่ยง พร้อม ตรวจสอบสภาพการจราจร สอบถามผู้รู้เส้นทาง หรือศึกษาจากระบบนำทางอัจฉริยะ (GPS) ให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง ผู้ขับขี่จะได้ไม่ต้องพะวงกับการตรวจสอบเส้นทางในขณะขับขี่ ทำให้ขาดสมาธิในการขับรถ ซึ่งจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากความไม่ชำนาญเส้นทาง
ห้ามแตะต้องอุปกรณ์ทุกชนิดขณะขับรถ ผู้ขับขี่ควรปรับเบาะนั่ง กระจก อุณหภูมิ เครื่องเสียง คลื่นวิทยุ แผ่นซีดี รวมถึงจัดเตรียมอุปกรณ์เสริมในการสนทนาทางโทรศัพท์ให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทางเพื่อมิให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิขณะขับรถ
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารระหว่างการเดินทาง เพื่อความปลอดภัย ควรรับประทานอาหารให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง หากจำเป็น ควรแวะรับประทานอาหารตามสถานีบริการน้ำมัน ร้านอาหาร หรือจุดพักรถริมทางที่ปลอดภัย หรือรับประทานอาหารทานง่ายและไม่ยุ่งยาก
ไม่เดินทางกับเด็กตามลำพัง ควรจัดให้มีผู้ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดไม่นำเด็กนั่งตักขณะขับรถควรจัดให้เด็กเล็กนั่งเบาะนั่งนิรภัยทางด้านหลังรถ ส่วนเด็กโตให้คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง เพื่อป้องกันเด็กซุกซนหรือปีนป่ายรถเล่น หากต้องนำเด็กโดยสารรถไปด้วย ไม่ควรเปลี่ยนผ้าอ้อม ป้อนอาหารระหว่างที่ขับรถ กรณีต้องดูแลเด็ก ควรจอดรถในบริเวณที่ปลอดภัยให้เรียบร้อย จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุ
หลีกเลี่ยงการนำสัตว์เลี้ยงโดยสารรถ หากจำเป็น ควรผูกหรือล่ามโซ่สัตว์เลี้ยงไว้ด้านหลังรถกรณีนำสัตว์เลี้ยงไว้ในห้องโดยสาร ไม่ควรเปิดหน้าต่าง ให้สัตว์เลี้ยงเกาะกระจกรถ เพราะอาจกระโจนออกนอกรถ ทำให้ผู้ขับขี่ต้องพะวงกับการดูแลสัตว์เลี้ยง พร้อมจัดให้มีคนนั่งติดรถไปด้วย เพื่อควบคุมมิให้สัตว์ตื่นตกใจหรือกระโจนใส่ผู้ขับขี่
ไม่ประกอบกิจกรรมอย่างอื่นระหว่างขับรถ การขับรถเป็นกิจกรรมที่ผู้ขับขี่ต้องใช้สมาธิอย่างสูงในขณะขับรถ เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการประกอบกิจกรรมที่ต้องละสายตาจากเส้นทางและปล่อยมือจากพวงมือลัยระหว่างขับรถ เช่น แต่งหน้า หวีผม ค้นหาหรือเอื้อมหยิบสิ่งของ คุยโทรศัพท์ ใช้โปรแกรมออนไลน์ เปลี่ยนแผ่นซีดี คลื่นวิทยุ อ่านหนังสือ เป็นต้น เพราะจะรบกวนสมาธิในการขับรถ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หากจำเป็น ผู้ขับขี่ควรประกอบกิจกรรมให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง ในขณะจอดรถพักในบริเวณที่ปลอดภัย หรือเมื่อถึงจุดหมายปลายทางแล้ว
หลีกเลี่ยงการคุยโทรศัพท์ขณะขับรถ ให้ใช้อุปกรณ์เสริมในการสนทนาทางโทรศัพท์ จอดรถคุยโทรศัพท์ในบริเวณที่ปลอดภัย หรือให้ผู้ร่วมเดินทางไปด้วยรับโทรศัพท์แทน ไม่คุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน หลีกเลี่ยงบทสนทนาที่มีผลกระทบต่อสภาพจิตใจ หรือต้องใช้ความคิดวิเคราะห์และตัดสินใจ เพราะจะทำให้ขาดสมาธิในการขับรถ
ผู้ขับขี่กว่าร้อยละ 84 เห็นว่าการขาดสมาธิในขณะขับรถเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน และกว่าครึ่งของผู้ขับขี่เคยใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ทั้งนี้ การพิมพ์หรืออ่านข้อความทางโทรศัพท์มือขณะขับรถจะเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายกว่าปกติ 23 เท่า เพราะผู้ขับขี่ต้องละสายตาจากเส้นทางเฉลี่ย 4.6 วินาที จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ ขณะที่การกดเบอร์โทรศัพท์เสี่ยงเพิ่ม 2.8 เท่า การคุยโทรศัพท์และการใช้โทรศัพท์เพื่อนำทางหรืออื่นๆ 1.3 เท่า เพื่อความปลอดภัย ควรใช้โทรศัพท์เมื่อจอดรถสนิทและดับเครื่อง หรือถึงจุดหมายปลายทางเรียบร้อยแล้ว
ผู้ขับขี่ควรสมาธิในการขับรถและให้ความสนใจเฉพาะเหตุการณ์หรือปัจจัยแวดล้อมที่กระทบต่อความปลอดภัยตลอดระยะการเดินทาง หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือใช้อุปกรณ์อื่นใดที่ต้องละสายตาจากการมองเส้นทาง เพราะจะส่งผลต่อการบังคับพวงมาลัยรถ การใช้ความเร็ว การมองเห็นป้ายจราจร ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากขึ้น โดยเฉพาะหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที หากจำเป็นควรจอดรถชิดริมข้างทางให้เรียบร้อยก่อนหรือให้เพื่อนร่วมทางจัดการแทนจะปลอดภัยมากกว่า
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมระหว่างขับรถ ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ