กิจกรรมระหว่างขับรถ ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
อุบัติเหตุทางถนน มีสาเหตุจากหลายปัจจัย นอกจากปัจจัยด้านสภาวะแวดล้อมและสภาพรถแล้ว ความพร้อมของผู้ขับขี่ก็สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะการประกอบกิจกรรมอื่นในระหว่างขับรถ ที่เราปฏิบัติกันด้วยความเคยชิน แต่ทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิ และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
ปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุจากการเสียสมาธิขณะขับรถ
จากการวิจัย พบว่า การเสียสมาธิขณะขับรถเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ และบางครั้งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงในลักษณะที่ไม่คาดคิดได้ ส่วนใหญ่การเสียสมาธิขณะขับรถมักเกิดจากกิจกรรมที่ผู้ขับขี่ประพฤติปฏิบัติเป็นปกติด้วยความเคยชิน จนมองข้ามอันตรายที่อาจเกิดขึ้นโดยกิจกรรมที่ทำให้เสียสมาธิมีหลายรูปแบบ ทั้งการเสียสมาธิทางกายภาพ ทางจิต หรือทั้งสองอย่างรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นการละสายตาจากถนน การปล่อยมือจากพวงมาลัย การมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งแวดล้อมอื่นนอกเหนือจากการขับรถ ทำให้ผู้ขับขี่มีประสิทธิภาพในการขับรถลดลง รวมถึงมีปฏิกิริยาตอบโต้ต่อเหตุฉุกเฉินเฉพาะหน้าช้าลง ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
กิจกรรมที่ทำให้เสียสมาธิขณะขับรถ
คุยโทรศัพท์มือถือทำให้สมาธิของผู้ขับขี่จดจ่ออยู่กับบทสนทนามากกว่าการขับรถบนเส้นทาง
จึงส่งผลให้การตอบสนองต่อการขับขี่ช้าลง 1 วินาที ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หากผู้ขับขี่ละสายตาจากเส้นทาง อาจประสบอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะหากผู้ขับขี่ใช้มือถือหรือจับโทรศัพท์ จะเหลือมือจับพวงมาลัยเพียงข้างเดียว จึงส่งผลต่อประสิทธิภาพในการควบคุมและบังคับทิศทางรถ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน จะไม่สามารถหักหลบสิ่งกีดขวางได้ทัน หากเป็นรถเกียร์ธรรมดา จะยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากต้องปล่อยมือที่จับพวงมาลัยมาเปลี่ยนเกียร์ได้ ที่สำคัญ การใช้โทรศัพท์ยังส่งผลต่อการจดจำป้ายสัญลักษณ์ และป้ายจราจรต่างๆ แม้มองเห็นแต่จดจำรายละเอียดไม่ได้ อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ขับขี่จะใช้อุปกรณ์เสริมในการคุยโทรศัพท์มือถือ เช่น บลูทูธ สมอลล์ทอล์ค เป็นต้น แต่ก็ยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยผู้ที่ใช้อุปกรณ์เสริมเสี่ยง 4 เท่า และหากไม่ใช้อุปกรณ์เสริมเสี่ยง 5 เท่า
ใช้โปรแกรมคุยหรือแช็ททางโทรศัพท์มือถือ เช่น LINE Facebook Tango WhatsApp เป็นต้น ผู้ขับขี่ต้องใช้มือเลื่อนหน้าจอและพิมพ์ข้อความสนทนาโต้ตอบทางโทรศัพท์ รวมถึงละสายตาจากท้องถนนมามองหน้าจอโทรศัพท์ จึงรบกวนสมาธิในการขับรถของผู้ขับขี่ แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วินาที ก็ทำให้การตอบสนอง ทั้งการเหยียบเบรกและหักพวงมาลัยช้าลงเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
ทานอาหาร หากเป็นการรับประทาน ด้วยการใช้ถ้วยชาม ช้อนส้อม จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพราะผู้ขับขี่ต้องใช้มือทั้งสองข้างในการรับประทานอาหาร อีกทั้งอาจต้องเหลือบตามอง เพื่อตักอาหารเข้าปาก ขณะที่ผู้ขับขี่บางคนอาจรับประทานขนมขบเคี้ยว ความมันของอาหารและมือที่เปื้อนเศษอาหาร จะทำให้จับพวงมาลัยไม่ถนัด จึงส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขับรถและการบังคับทิศทางรถ
แต่งหน้า สุภาพสตรีมักแต่งหน้าหรือหวีผมขณะขับรถ โดยเฉพาะในช่วงที่สภาพการจราจรติดขัดหรือรถจอดติดสัญญาณไฟแดง ทำให้สมาธิของผู้ขับขี่จดจ่ออยู่กับกิจกรรมดังกล่าว จนลืมไปว่ากำลังขับรถ ทำให้เผลอปล่อยเบรกหรือเหยียบคันเร่ง ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้
อุ้มเด็กนั่งตักขับรถ ทำให้ผู้ขับขี่หมุนพวงมาลัยไม่ถนัด และต้องละสายตาจากถนนเป็นระยะ สมาธิของผู้ขับขี่จึงอยู่กับเด็กที่นั่งซ้อนตัก อีกทั้งเด็กอาจนั่งบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นทาง หากเด็กซุกซนหมุนหรือแย่งพวงมาลัย เปลี่ยนคันเกียร์เล่น จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขับรถและการบังคับทิศทางรถ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และหากประสบอุบัติเหตุ เด็กอาจพุ่งออกนอกรถ หรือได้รับอันตรายจากแรงกระแทก เพิ่มเป็น 2 เท่า ทั้งจากรถและตัวคนที่เด็กนั่งซ้อนตัก
พาเด็กโดยสารรถไปด้วยตามลำพังทำให้ผู้ขับขี่ต้องคอยสังเกตและระแวดระวังเด็กซึ่งอาจซุกซน ปีนป่าย หรือรื้อสิ่งของภายในรถ จึงต้องละสายตาและเอื้อมมือไปดูแลเด็กเป็นระยะ โดยเฉพาะผู้โดยสารที่มี อายุน้อยจะดึงดูดความสนใจจนผู้ขับขี่เสียสมาธิเพิ่มขึ้น โดยผู้โดยสารที่เป็นเด็ก ทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิขณะขับรถ 4 เท่า และเพิ่มขึ้นเป็น 8 เท่า เมื่อผู้โดยสารเป็นทารก จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น
นำสัตว์เลี้ยงโดยสารรถ สัตว์เลี้ยงมักไม่อยู่นิ่ง และเรียกร้องความสนใจให้ผู้ขับขี่หันมาเล่นหรือนำมานั่งตักขณะขับรถ อีกทั้งยังมีพฤติกรรมตื่นตกใจง่าย หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ ผู้ขับขี่หยุดรถกะทันหัน หรือมีแสงไฟส่องเข้าห้องโดยสารรถ อาจกระโจนใส่ผู้ขับขี่ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
ดูโทรทัศน์ ชมภาพยนตร์แสงสว่าง เสียงและภาพที่เคลื่อนไหวจะดึงดูดผู้ขับขี่ให้ละสายตาจากถนนและสมาธิมาอยู่ที่จอโทรทัศน์ ทำให้มีความสนใจต่อสิ่งแวดล้อมภายนอกลดน้อยลง แม้สายตาผู้ขับขี่จะไม่ได้ดูโทรทัศน์ แต่การเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ การเปลี่ยนแผ่นดีวีดี รวมถึงเสียงของโทรทัศน์จะรบกวนสมาธิในการขับรถ
ฟังเพลง สมาธิของผู้ขับขี่อยู่กับเนื้อเพลงและจังหวะเพลง โดยเฉพาะการเปลี่ยนคลื่นวิทยุหรือแผ่นซีดีเพลง จะทำให้ผู้ขับขี่ขาดสมาธิได้ หากเปิดเพลงที่มีจังหวะเร็ว ผู้ขับขี่อาจลืมว่ากำลังขับรถ จึงโยกตัวไปตามจังหวะเพลงและปล่อยมือจากพวงมาลัย ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงการเปิดเพลงเสียงดังจะทำให้ผู้ขับขี่ไม่ได้ยินเสียงผิดปกติที่เกิดกับรถและเสียงของรถที่ขับตามหลังมา เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทัน จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
มองป้ายโฆษณาริมข้างทางผู้ขับขี่หลายคนไม่คาดคิดว่าการมองป้ายโฆษณาขณะขับรถจะนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะป้ายที่ตกแต่งแสงไฟในช่วงกลางคืนจะดึงดูดความสนใจของผู้ขับขี่เป็นพิเศษ หากขับรถด้วยความเร็วสูง แม้จะมองป้ายโฆษณาในระยะเวลาเพียงชั่วครู่ ก็ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพราะรถจะวิ่งโดยปราศจากการควบคุม หากเกิดเหตุฉุกเฉิน จะไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทัน
สูบบุหรี่ ผู้ขับขี่จะจดจ่อกับบุหรี่ จนขาดสมาธิในการขับรถ อีกทั้งต้องใช้มือในการจุดไฟและคีบบุหรี่ ทำให้เหลือมือบังคับพวงมาลัยเพียงข้างเดียว หากเกิดเหตุฉุกเฉิน จะไม่สามารถหักพวงมาลัยหลบหลีก และแก้ไขเหตุฉุกเฉินได้ทัน
ค้นหาหรือหยิบสิ่งของ ทำให้ต้องเอื้อมมือและเอี้ยวตัวเพื่อค้นหาหรือหยิบสิ่งของ รวมถึงละสายตาเพื่อค้นหาสิ่งของ อาจเผลอปล่อยพวงมาลัย เหยียบคันเร่ง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าร้อยละ 50
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันการเสียสมาธิระหว่างขับรถ
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ