คู่รักสมัยนี้มักจะอยู่ด้วยกันโดยที่ไม่ได้แต่งงานกัน ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ หรือแม้กระทั่งวัยเกษียณ เชื่อไหมคะว่ามีตัวเลขการเติบโตของคู่รักวัยผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่ด้วยกันโดยไม่ได้แต่งงานกันในปี 2014 ถึง 900,000 คู่ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงและผู้ชายที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป
ภาพประกอบจาก www.express.co.uk
คนเรามีเหตุผลมากมายที่จะย้ายไปอยู่ด้วยกันทั้งที่ไม่ได้แต่งงานกัน เช่น คุณอาจต้องการที่จะรักษาสิทธิประโยชน์ของประกันสังคมจากการแต่งงานกับสามี-ภรรยาคนเก่า เพื่อให้แน่ใจว่าลูกหลานของคุณจะยังคงเป็นทายาทเพียงคนเดียวของคุณ
ในขณะเดียวกัน การอยู่คนเดียวอาจจะลดความซับซ้อนบางประการ ซึ่งแตกต่างจากการมาอยู่ด้วยกันในช่วงวัยเกษียณที่มีความซับซ้อนมากเกินไป เนื่องจากแต่ละคนอาจจะนำครอบครัวและสินทรัพย์เข้ามารวมด้วย อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่อยากยุ่งยากวุ่นวายกับการใช้ชีวิตคู่ในช่วงวัยเกษียณ ลองปฏิบัติตามเคล็ดลับที่ MoneyGuru.co.th นำมาฝากในวันนี้ดูสิคะ
แบ่งปันทรัพย์สิน…เล็ก ๆ น้อย ๆ
หากคุณไม่ได้แต่งงาน ทรัพย์สินของคุณทั้งคู่จะรวมกันไม่ได้ แต่คุณทั้งคู่อาจจะช่วยกันแชร์ค่าใช้จ่ายภายในบ้านได้ และเพื่อลดความซับซ้อนของรายจ่ายในชีวิตประจำวัน คุณทั้งสองอาจจะมีการเปิดบัญชีร่วมกันเพื่อเอาไว้เก็บค่าใช้จ่ายที่ใช้ร่วมกันโดยเฉพาะค่ะ
อย่างไรก็ตาม หากใครคนใดคนหนึ่งมีฐานะไม่ดีเท่ากับอีกฝ่าย คุณทั้งสองอาจใช้วิธีตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายกันแบบเท่าเทียม แต่ยังคงอิงตามหลักรายได้ของแต่ละฝ่าย เช่น คนที่มีฐานะดีกว่าอาจจะออกค่าใช้จ่าย 60% ส่วนคนที่มีฐานะด้อยกว่าอาจออกค่าใช้จ่าย 40% เป็นต้น
ทำเอกสารทางกฎหมาย
การย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันเพราะความรักครั้งใหม่อาจเป็นไปได้สวย จนกว่าแฟนของคุณจะเสียชีวิตและลูก ๆ ของแฟนคุณแสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่อยากให้คุณอยู่ในบ้านหลังนั้นอีกต่อไป เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้คุณและแฟนของคุณควรทำเอกสารทางกฎหมาย ที่ระบุให้คุณหรือแฟนของคุณที่ไม่ใช่เจ้าของบ้าน มีสิทธิที่จะอยู่ในบ้านหลังนั้นได้ต่อไป (แต่ไม่มีสิทธิครอบครองบ้านหลังนั้น นอกจากทายาทของเจ้าของบ้านเท่านั้น)
วางแผนดูแลสุขภาพ
คู่สมรสสามารถตัดสินใจในเรื่องทางการแพทย์ให้กันและกันได้ แต่หากคุณไม่ได้แต่งงานกันคุณก็ไม่มีสิทธิ์ในเรื่องดังกล่าว ดังนั้นการตัดสินใจเรื่องการดูแลสุขภาพนั้นคุณและลูก ๆ ของคุณต้องเป็นคนตัดสินใจเอง ทั้งนี้คุณสามารถกรอกอำนาจในการดูแลสุขภาพของคุณกับทนายความได้ เพื่อมอบหมายให้ลูก ๆ ของคุณจัดการเรื่องดูแลสุขภาพของคุณ ในกรณีที่คุณไม่สามารถเป็นคนตัดสินใจเรื่องสุขภาพของตัวเองได้แล้ว
ปรึกษาทนายความเรื่องมรดก
คุณต้องพึงระลึกไว้เสมอว่า ทายาทของคุณเท่านั้นที่จะเป็นผู้ได้รับมรดกหลักของคุณ แต่ถ้าคุณต้องการให้ทรัพย์สินบางอย่ากับคนรักใหม่ของคุณคุณก็สามารถทำได้ด้วยการปรึกษากับทนายความ อย่างไรก็ตาม การวางแผนยกทรัพย์สินบางอย่างให้กับคนรักใหม่ของคุณนั้น จะเป็นการดีกว่าถ้าให้ลูก ๆ ของคุณรับทราบเรื่องนี้ด้วยค่ะ
การจะเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ในช่ววัยเกษียณไม่ใช่เรื่องวุ่ยวายและเป็นไปไม่ได้แต่อย่างใดนะคะ ตรงกันข้าม หากคุณรู้จักวางแผนและวิธีในการทำให้ลูก ๆ และคนรักของคุณมีความสุข แค่นี้ความรักครั้งใหม่ของคุณก้ไม่มีอุปสรรคแล้วค่ะ
ข้อมูลอ้างอิง: Time และที่มาจาก http://moneyguru.co.th/
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ