เส้นทางสู่อาชีพรับราชการในปัจจุบัน หลายคนมักจะมองว่ากว่าจะได้สอบบรรจุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เป็นธรรมดาที่สอบครั้งแรกหรือสอบเมื่ออายุน้อยๆ จะสอบไม่ติด บางคนที่มุ่งมั่นก็สอบไปเรื่อยๆ หลายปีจนกว่าจะติด แต่ก็มีหลายคนที่เลือกจะเบนเข็มไปสายอาชีพอื่นดีกว่า เพราะรู้สึกท้อบ้าง ขี้เกียจรอคอยให้เสียเวลาทำมาหากินบ้าง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะคนเราล้วนก็แต่ต้องการจะดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของตนเองและครอบครัวกันทั้งนั้น
แต่สำหรับสาวน้อยวัย 19 ปีคนนี้ "มนสินี ชูสุวรรณ" เธอคือ 1 ใน 64 คน ที่ผ่านการคัดเลือกบรรจุเป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตรที่อายุน้อยที่สุด ความมุ่งมั่นของเธอมาจากอะไร? สานฝันให้สำเร็จได้อย่างไร มาอ่านบทสัมภาษณ์ของเธอที่ได้ให้ไว้ใน ไทยรัฐออนไลน์ กัน
คุณตาทหารเก่าเป็นต้นแบบ แรงกระตุ้นหลัก อยากสานฝัน
"มนสินี ชูสุวรรณ" หรือ "ป๊อบ" สาวน้อยวัย 19 ปี เติบโตมาจาก จ.นครศรีธรรมราช เธอเล่าถึงแรงบันดาลใจในการเข้ามาเป็นข้าราชการทหารอากาศว่า ด้วยความที่เติบโตมากับคุณแม่ คุณตา และคุณยาย ทำให้สนิทกับคุณตา คุณยายเป็นพิเศษ ซึ่งคุณตาท่านเคยเป็นทหารเก่า ก็มักจะเล่าประสบการณ์การเป็นทหารให้ฟังอยู่บ่อยๆ หนึ่งในนั้นก็คือการเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพไทยไปรบที่สงครามเกาหลี ซึ่งถือเป็นเกียรติประวัติและความภาคภูมิใจให้กับวงศ์ตระกูล และนั่นคือแรงบันดาลใจแรกที่ทำให้รู้สึกว่าอยากเป็นทหารอย่างคุณตา รวมถึงมีโอกาสได้นั่งเครื่องบินที่กองบิน 7 จ.สุราษฎร์ธานี ครั้งแรกในงานวันเด็ก ตอนนั้นชอบและรู้สึกประทับใจ เพราะรู้สึกว่าเท่ จนคุณแม่ต้องพาไปนั่งเครื่องบินทุกปี จนกลายเป็นความฝันมาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาว่า โตขึ้นจะเป็นทหารอากาศให้ได้
ตอนเด็กๆ คำถามยอดฮิตของผู้ใหญ่ หรือครู มักจะถาม "โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร?" เด็กๆ หลายคนก็อาจจะเปลี่ยนคำตอบไปเรื่อยๆ ตามช่วงวัยที่โตขึ้น พบเจออะไรมาก็อยากเป็นไปซะหมด แต่นั่นไม่ใช่สาวน้อยคนนี้ ป๊อบเล่าว่าตั้งแต่เด็กจนโต ทุกครั้งที่ต้องตอบคำถามผู้ใหญ่หรือครู จำได้เลยว่าคำตอบเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยก็คือ "หนูอยากเป็นทหารอากาศ"
ความฝัน ต้องไม่ใช่แค่ฝัน ตั้งเป้า เดินหน้าทำฝันให้เป็นจริง!
จากความฝันในวัยเด็ก จนกระทั่งเรียนจบ ม.3 เป็นช่วงที่ทุกคนต้องคิดแล้วว่าจะเอายังไงกับชีวิต ถ้าเป็นเพื่อนๆ ผู้ชายก็อาจจะไปสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร แต่สำหรับเราเป็นผู้หญิง อยากเป็นทหารอากาศต้องทำอย่างไร? ตอนนั้นก็เริ่มเสิร์ชหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตว่าจะเป็นทหารอากาศได้ต้องสอบอะไร เตรียมตัวอย่างไร จนกระทั่งเปิดเจอเว็บไซต์ของกองทัพอากาศ ที่มีการประกาศรับสมัครสอบเข้าเป็นข้าราชการทหารของกองทัพอากาศประจำปี เราก็เข้าไปอ่านว่าแต่ละปีเปิดสอบสาขาอะไรบ้าง ซึ่งสาขาที่สนใจที่สุดก็คือ สาขารัฐศาสตร์ แต่ที่ติดอยู่ก็คือ ถ้าจะบรรจุเป็นข้าราชการสัญญาบัตรได้ต้องมีวุฒิปริญญาตรีก่อน
หลังจากศึกษาข้อมูลเบื้องต้นแล้ว จึงตัดสินใจไปคุยกับคุณแม่ว่า อยากสอบบรรจุเป็นข้าราชการของกองทัพอากาศ คุณแม่ซึ่งเป็นศิษย์เก่า ม.รามฯ ก็แนะนำว่า ม.รามฯ มีการเรียนระบบพรีดีกรี ที่สามารถเก็บสะสมหน่วยกิตล่วงหน้าได้ ซึ่งสามารถเรียนควบคู่ไปกับ ม.ปลายได้ ทำให้เราสนใจ และตัดสินใจเลือกเรียน ตั้งแต่นั้นมาก็เป็นจุดเริ่มต้นของการสานฝัน
"ด้วยความโชคดีที่เป็นคนรู้ตัวเร็วว่าชอบอะไร อยากเป็นอะไร ทำให้ประกอบการตัดสินใจเลือกได้เร็ว ซึ่งส่วนตัวเป็นคนชอบเรียนวิชาสังคม ประวัติศาสตร์ และข่าวสารการปกครองเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นจึงเลือกเรียนคณะรัฐศาสตร์ ม.รามฯ เพื่อใช้ในการต่อยอดเลือกตำแหน่งในสาขาวิชารัฐศาสตร์ได้" สาวน้อยวัย 19 เล่าพร้อมรอยยิ้ม
ตัดสินใจเรียนควบ เร่งคว้าวุฒิปริญญา เตรียมสอบบรรจุชั้นสัญญาบัตร
มาถึงจุดนี้ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐออนไลน์ถามถึงเหตุผลว่า ทำไมถึงต้องการสอบบรรจุเป็นข้าราชการทหารอากาศเร็ว? ป๊อบตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ด้วยความที่เติบโตมากับคุณแม่ คุณแม่เป็นซิงเกิ้ลมัม เรามีกันอยู่สองคนแม่ลูก ไม่ว่าจะไปไหนทำอะไรเราก็จะไปด้วยกัน ซึ่งเรารู้สึกว่าอยากช่วยแบ่งเบาภาระและประหยัดค่าใช้จ่ายเท่าที่จะทำได้ ฉะนั้น การตัดสินใจเลือกเรียนควบคู่ทั้ง ม.ปลาย และมหาวิทยาลัยไปพร้อมกัน น่าจะช่วยย่นระยะเวลาให้เราได้มีโอกาสเข้าสู่สนามสอบข้าราชการทหารอากาศได้เร็วขึ้น บวกกับด้วยความที่เรามีเป้าหมายชัดเจนแต่แรก รู้ตัวเร็วว่าชอบอะไร อยากเป็นอะไร ยิ่งเป็นเหตุผลให้ตัดสินใจเดินควบคู่ไปด้วยกัน โดยไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องยากเกินกว่าที่เราจะทำได้ และคุณแม่ก็ให้อิสระกับเรา ถ้าเราชอบ ท่านก็จะคอยสนับสนุน ส่งเสริม และผลักดันอย่างเต็มที่
ป๊อบเล่าต่อว่า ตั้งแต่วันที่ตัดสินใจเลือกเรียนควบทั้งระดับ ม.ปลายและมหาวิทยาลัยไปพร้อมกันแล้ว เราก็เริ่มศึกษาหาหนังสืออ่านทุกวัน ในแต่ละวันก็จะแบ่งเวลาให้กับการเรียนที่โรงเรียนเป็นหลัก วันไหนมีการบ้านก็ต้องรีบทำให้เสร็จก่อน จึงจะแบ่งเวลามาอ่านหนังสือเตรียมสอบของมหาวิทยาลัย และเตรียมสอบของทหารอากาศ ซึ่งจะให้เวลากับการอ่านหนังสือวันละ 2-3 ชั่วโมง แต่ถ้าวันไหนที่การบ้านเยอะจริงๆ ก็อาจจะต้องเสียสละเวลาบางอย่าง แต่ก็พยายามอ่านทุกวัน วันละครึ่งชั่วโมงก็อ่าน
จากวันนั้นเป็นต้นมา ก็ตั้งใจเรียนมาโดยตลอด กระทั่งจบการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย แผนการเรียนวิทย์-คณิต จากโรงเรียนวัดราชโอรส ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.59 และสำเร็จการศึกษาปริญญาตรี เมื่อปีการศึกษา 2558 คณะรัฐศาสตร์ ม.รามฯ ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 เกรดเฉลี่ย 3.60 และกำลังจะรับปริญญาในปี 2560 ที่กำลังจะถึงนี้
ที่สุดฝันก็เป็นจริง! สอบติดข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร
ด้วยความขยัน พยายาม และมุ่งมั่นที่จะทำตามฝัน จนถึงวันที่รอคอย เธอใช้ความรู้ความสามารถจากที่พร่ำเรียนมา ประกอบกับการอ่านหนังสือสะสมมานานกว่า 3 ปีครึ่ง เธอเข้าสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการในกองทัพอากาศ เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา กระทั่งวันที่ 18 เม.ย.59 วันที่มีความหมายที่สุดในชีวิต สาวน้อยเล่าด้วยแววตาอันภาคภูมิใจว่า "คืนนั้นนั่งรีเฟรชหน้าเว็บไซต์ทั้งคืน จนกระทั่งเวลา 2.00 น. เว็บไซต์ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก เราเลื่อนเมาส์ลงมาเรื่อยๆ ตำแหน่งที่สมัครในสาขาวิชารัฐศาสตร์ ปรากฏชื่อ นางสาวมนสินี ชูสุวรรณ ซึ่งติด 1 ใน 22 คน จากทั้งหมดประมาณ 5,000 คน ในสาขานี้ วินาทีที่เห็นชื่อตัวเอง มือไม้สั่นแบบไม่รู้ตัว น้ำตาไหลออกมาด้วยความดีใจและภูมิใจที่สุดในชีวิต ตอนนั้นตั้งสติได้รีบวิ่งไปปลุกแม่ตอนตีสอง และบอกกับแม่ว่าหนูทำได้แล้ว หนูสอบติดแล้ว เรารับรู้ถึงความตื้นตันใจในแววตาคู่นั้นของแม่ พร้อมกับพูดว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น"
ป๊อบเล่าต่อว่า หลักจากประกาศรายชื่อรอบแรก 22 คน ที่ผ่านการสอบข้อเขียนทางวิชาการไปแล้วนั้น ขั้นตอนต่อไปเข้าสู่กระบวนการยื่นเอกสารทรานสคริป วุฒิการศึกษาปริญญาตรี และนัดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ตั้งแต่การทดสอบวิ่งระยะ 2.4 กิโลเมตร ต้องทำเวลาไม่เกิน 15.17 นาที การทดสอบการดันพื้น และลุกนั่ง จากนั้นจึงเรียกไปสอบสัมภาษณ์ และประกาศคัดเลือกเหลือเพียง 5 คน ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้น
"สำหรับการเตรียมตัวก่อนเข้าสอบ นอกจากการอ่านหนังสือสะสมความรู้มาตั้งแต่ ม.3 แล้ว อีกอย่างที่สำคัญคือ การเตรียมความพร้อมทางด้านสมรรถภาพทางร่างกาย ซึ่งเพิ่งมาจริงจังก็ตอนจบปริญญาตรี กลางวันจะชอบอ่านหนังสืออยู่ห้องสมุดประชาชน ส่วนช่วงเช้าและเย็น ก็จะออกไปวิ่งทุกวัน เพื่อให้ร่างกายพร้อมที่สุด เมื่อถึงวันสอบสมรรถภาพจึงสามารถผ่านมาได้ไม่ยาก"
มุ่งมั่นมากว่า 3 ปีครึ่ง เพื่อวันนี้! ถือว่าประสบความสำเร็จในชีวิต!
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวไทยรัฐออนไลน์ถามต่อว่า การสอบเข้าเป็นข้าราชการ แน่นอนว่าต้องแข่งขันกับคนเป็นหมื่นเป็นพันจากทั่วประเทศ ด้วยอัตราแต่ละตำแหน่งที่เปิดรับซึ่งถือว่าน้อยมาก ฉะนั้นโอกาสที่จะสอบได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เคยท้อหรือละความพยายามบ้างหรือไม่? ป๊อบกล่าวว่า "สำหรับเรามองว่า อันดับแรกต้องเชื่อและศรัทธาในองค์กรที่เราจะเข้าไปสอบก่อน ถ้าเรามีความสามารถ องค์กรก็พร้อมที่จะเปิดรับคนที่มีความสามารถอยู่แล้ว เราแค่เตรียมพร้อมให้ดีที่สุดก็พอ"
ด้วยความฝัน แรงบันดาลใจ และความขยัน ทำให้สาวน้อยคนนี้เอาชนะทุกอย่างมาได้สมใจหมาย ฉะนั้น มาถึงวันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วหรือไม่? ว่าที่เรืออากาศตรีวัย 19 ปีนี้ตอบด้วยแวววตาอันภูมิใจว่า "สำหรับชีวิตหนู การที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอากาศนั้นถือว่าเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิตแล้ว ฉะนั้นจะเรียกว่าประสบความสำเร็จในชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะสิ่งที่เรามุ่งมั่นและทำมาตลอด 3 ปีครึ่ง ก็เพื่อต้องการสอบบรรจุเข้ารับราชการทหารอากาศให้ได้ และวันนี้เราก็ทำได้แล้ว"
ป๊อบเล่าต่ออีกว่า หลังจากนี้ก็ต้องรอประกาศต้นสังกัดและตำแหน่งในวันที่ 25 ส.ค.59 ที่กำลังจะถึง ว่าจะได้เป็นตำแหน่ง นายทหารวิเคราะห์และประเมินการสรรหา นายทหารหลักฐานแบบธรรมเนียม นายทหารประเมินผล นายทหารแผน หรือนายทหารข่าวกรองทำเนียบกำลังรบ อย่างไรก็ตาม จะเริ่มเข้าเป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตรหญิงเต็มตัวในเดือน ธ.ค. นี้ เมื่อเข้าไปแล้ว ทางต้นสังกัดจะส่งไปเรียนที่โรงเรียนนายทหารชั้นบังคับผู้หมวด เป็นระยะเวลา 3 เดือน จึงจะได้ยศเป็น "เรืออากาศตรีหญิง"
นอกจากคุณแม่และครอบครัวแล้ว สาวน้อยคนนี้ยังพูดถึงไอดอลที่เป็นแรงบันดาลใจอีกท่านหนึ่งว่า ทุกครั้งที่เหนื่อยและท้อ ก็นึกถึงคำพูดของ "อ.สิริพิชญ์ สินมา" หรือ "อ.พิงค์" ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ ที่เคยเรียนในระดับพรีดีกรี และประสบความสำเร็จสอบเนติบัณฑิตยสภา และเป็นผู้พิพากษา ท่านเคยพูดไว้ว่า "ถ้าเรารู้สึกท้อ รู้สึกเหนื่อย ให้จินตนาการว่ากำลังแต่งเครื่องแบบขาวข้าราชการ แล้ววันนั้นคงเป็นวันที่พ่อแม่ภาคภูมิใจในตัวเราที่สุด ก็จะทำให้เรามีแรงฮึดสู้"
"ดังนั้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเราก็มาจากการกำหนดของตัวเราทั้งสิ้น เราเหนื่อยในวันนี้ ก็สบายในวันหน้า ทุกอย่างก็ล้วนมาจากความพยายามทั้งนั้น คงไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ โดยเฉพาะความฝันและความมั่นคงในชีวิตของเราเอง" ว่าที่เรืออากาศตรีหญิง วัย 19 กล่าวทิ้งท้าย
ขอบคุณที่มาจาก : ไทยรัฐออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ