เป็นข่าวโด่งดังเพียงชั่วข้ามคืนติดกัน 2 ข่าว เมื่อ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังเมืองขอนแก่นมีภาพหลุดผูกข้อมือกับเด็กสาว ม.5 ซึ่งหลังจากมีข่าวนี้ออกไป ทางนักการเมืองท่านดังกล่าวก็ได้มีการนัดผู้สื่อข่าวจำนวนหนึ่งเพื่อแถลงข้อเท็จจริงในวันถัดมา แต่ปรากฎว่านักข่าวที่ได้ตกลงเข้าร่วมสัมภาษณ์กลับถูกลูกน้องของนักการเมืองท่านนี้ปิดประตูล้อม จับแก้ผ้าเหลือแต่กางเกงใน แล้วถ่ายรูปประจานเพื่อเป็นการสั่งสอนให้เข้าใจว่าตนเองรู้สึกอับอายเป็นอย่างไร ทำให้ในขณะนี้กระแสข่าวกลับดังทวีคูณจนนักข่าวหลายสำนักต้องพยายามสืบหาข้อเท็จจริงให้กระจ่างกว่านี้
คุณบรรจง มงคลชีวกานต์ รอง ผอ.ฝ่ายข่าว ช่องเวิร์กพอยท์ทีวี ก็เป็นนักข่าวท่านหนึ่งที่สนใจในประเด็นนี้ และพยายามติดต่อขอสัมภาษณ์นักการเมืองท่านนี้ แต่ปรากฏว่านอกจากนักการเมืองจะไม่ให้ความร่วมมือใดๆ กับนักข่าว ยังมีการพูดจาวกวนไปมา และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือ สำนวนการพูดจาไม่น่าเชื่อถือ เหมือนกับไม่ใช่ผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะ!!
ซึ่งถึงแม้ว่าสำนวนจะดูเพี้ยนๆ ขัดกับบุคลิกของนักการเมือง แต่นักข่าวท่านนี้ก็เชื่อว่าต้องเป็นนักการเมืองที่เป็นข่าวตัวจริงแน่นอน เพราะบางช่วงเหมือนนักข่าวได้ถามบางสิ่งออกไปแล้วนักการเมืองรู้สึกโมโห ซึ่งข้อสังเกตพร้อมภาพหลักฐานการแชททั้งหมด เขาได้แถลงผ่านเฟซบุ๊ก บรรจง ชีวมงคลกานต์ เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมานี้ว่า
ไปกันใหญ่แล้ว จับนักข่าวกักขังถอดกางเกงแก้ผ้าประจาน
เมื่อวานนี้(25 ก.ค.)ผมยังภาวนาว่าคนที่คุย inbox กับผมในเฟซบุ๊คส่วนตัวไม่น่าจะใช่คุณหมอเปรมศักดิ์ อาจเป็นคนอื่น หรือเฟซบุ๊คโดนแฮคฯ เพราะคนระดับนี้ไม่น่าใช้ภาษาแบบนี้คุยกับผม
วันนี้อ่านข่าวนี้แล้วผม"ตกใจ"แอบคิดเลยว่าหรือจะเป็นเจ้าตัวคุยเอง เพราะเป็นเฟซฯส่วนตัวด้วยไม่ใช่แฟนเพจ (ขอบคุณข่าวจากเนชั่นทีวี)
นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีตสส.ขอนแก่นยึดกล้อง ยึดโทรศัพท์ แล้วจับนักข่าวแก้ผ้าถ่ายรูป
เวลา 09.30 น. วันที่ 26 ก.ค.59 ผู้สื่อข่าวหลายสำนักไปรอสัมภาษณ์นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ที่สำนักงานเทศบาล หลังจากที่ไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ กรณีมีการแพร่ภาพทางโชเชียลมีเดียพบบุคคลหน้าเหมือนนพ.เปรมศักดิ์แต่งงานกับนร.มัธยม
เมื่อนพ.เปรมศักดิ์ พบนักข่าวที่ขอสัมภาษณ์ถึงข้อเท็จจริง นพ.เปรมศักดิ์บอกว่า "เดี๋ยวให้นักข่าวมาพร้อมๆกันแล้วจะพูดทีเดียว"
จนเวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่เทศบาลเรียกนักข่าวเข้าไปในห้องทำงานนายกเทศมนตรี ที่มีนพ.เปรมศักดิ์นั่งรออยู่ แล้วสั่งเจ้าหน้าที่ล็อคประตูห้อง เก็บกล้อง, โทรศัพท์มือถือนักข่าวทุกคน โดยนักข่าวที่ไปมี 5 คน 1. นักข่าวช่อง3 2. นักข่าวมติชน 3. นักข่าวเดลินิวส์ 4. นักข่าวเนชั่นทีวี 5. นักข่าวKKC เคเบิลทีวี
ในห้องที่ล็อคไว้มีเจ้าหน้าที่เทศบาลและผู้บริหาร รวมทั้งนพ.เปรมศักดิ์ รวม7คน ผู้ชายทั้งหมด
"วันนี้ผมไม่มีอะไรจะพูดหรือให้สัมภาษณ์ แต่ขอตำหนิสื่อว่าเอาภาพไปลงทำไมไม่ถามผมก่อน ผมก็อยู่ที่นี่ตลอดไม่ได้หลบหน้าไปไหน…ผมคบกับนักข่าวมานานเป็นเรื่องเจ็บปวดมากผมนอนร้องไห้มาเป็นอาทิตย์แล้ว.."
นักข่าวช่อง3 พยายามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับภาพที่มีการแชร์กัน แต่นพ.เปรมศักดิ์ไม่พูดถึง นอกจากการต่อว่าสื่อ ในเรื่องการนำภาพไปลงว่าเป็นการประจานเรื่องส่วนตัว และบิดเบือนข้อมูล เช่น ไปเขียนว่าเมื่อวาน (25กค.) ที่ไปพบผวจ.ขอนแก่น ก็ไปเขียนว่าผู้ว่าฯเรียกไปพบ
"ผมไปพบผู้ว่าฯจริงแต่ที่ไปเพราะผู้ว่าฯอยากขอบคุณผมที่ดึงเอาการประชุมสันนิบาตเทศบาลมาที่ขอนแก่นได้"
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวถึงภาพที่มีการแชร์ที่นั่งกับเด็กสาวและมีปึกธนบัตรที่มีผู้ระบุว่าเป็นเงิน4แสนบาทวางข้างหน้าสั้นๆว่า "มันแค่เป็นการช่วยเหลือครอบครัวเขาเพราะครอบครัวเขาเดือดร้อน" และพยายามตำหนิสื่อว่าทำหน้าที่ไม่เหมาะสมและพูดเชิงข่มขู่ว่ามีเรื่องเยอะแยะจะแฉนักข่าวบ้าง
"ไหนเดลินิวส์…ลงหนักมาก ผมอยากรู้ว่าถ้าผมถ่ายรูปคุณไปลงประจานคุณจะรู้สึกยังไง"
แล้วก็สั่งให้เจ้าหน้าที่แก้ผ้านักข่าวชายเดลินิวส์ เจ้าหน้าที่ 4 คนเข้ามาล็อคตัวนักข่าวเดลินิวส์แล้วถอดกางเกง แม้นักข่าวจะโวยวายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จนเจ้าหน้าที่ถอดกางเกงนักข่าวเหลือเฉพาะกางเกงใน โดยมีเจ้าหน้าที่เทศบาลถ่ายภาพนักข่าวที่ถูกถอดกางเกง ทั้งกล้องวิดิโอ, โทรศัพท์มือถือ ท่ามกลางความตกตะลึงของนักข่าวคนอื่นในห้อง โดยใช้เวลาประมาณ5นาทีจึงให้ใส่กางเกงกลับ
นพ.เปรมศักดิ์กักนักข่าวในห้องทำงานและกล่าวตำหนิสื่อฝ่ายเดียว ตั้งแต่เวลา 10.30-12.00 น. จึงให้เจ้าหน้าที่เปิดประตูให้นักข่าวออกจากห้องทำงาน
ขอบคุณเนื้อข่าวเนชั่นทีวี และคุณอุมาพร ธำรงวงศ์โสภณ
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าสุดท้ายข่าวจะออกมาในทิศทางใด ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะเพียงไม่กี่วันมานี้ นักการเมืองท่านดังกล่าวก็สร้างเรื่องให้ตกตะลึงกันถึง 2-3 เรื่องติดๆ กันเลยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก บรรจง ชีวมงคลกานต์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ