วันก่อนหลายคนคงพอจะทราบข่าวกันบ้างสำหรับคดีที่หนุ่มเจ้าของร้านประดับยนต์ถูกโจรสวมรอยใช้สำเนาบัตรประชาชนปลอมไปถอนเงินเกือบล้านบาท ล่าสุดก็มีอีกคดีเกิดขึ้นในทำนองเดียวกันอีกแล้ว ซึ่งอัพเดทโดยเฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยทางเฟซบุ๊กดังกล่าวได้เล่าว่า
เปิดใจ ! น้องเอมอร นักศึกษาจังหวัดพะเยา ที่อ้างว่าตนเองทำบัตรประชาชนหล่นหาย เมื่อปี 2558 อาจตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง เมื่อธนาคารกสิกรไทย สาขา อ.พาน จ.เชียงราย และสาขา บิ๊กซี จ.น่าน ประมาทเลินเล่อ
เรียนพี่น้องประชาชนและสมาชิกทุกท่าน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก ในการให้บริการลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย สาขา อ.พาน จ.เชียงราย และสาขา บิ๊กซี จ.น่าน ที่ประมาทเลินเล่อ และผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง สมควรที่ผู้บริหารธนาคารกสิกรไทยต้องลงมาตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ถึงความโปร่งใสของพนักงาน ว่ามีส่วนรู้เห็น ในคดีฉ้อโกงนี้หรือไม่
จากบัตรประชาชนของนางสาวเอมอร นักศึกษาจังหวัดพะเยา ที่นางสาวเอมอรได้อ้างว่า ทำหล่นหายในจังหวัดพะเยา เมื่อปี 2558 โดยช่วงที่บัตรประชาชนหายนั้น นางสาวเอมอร เป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดพะเยา (ภาพ 1)
หลังจากนั้นไม่นาน ในวันที่ 8 มีนาคม 2559 มีคนร้าย สวมเสื้อสีแดง (ภาพ 2) นำบัตรประชาชนของนางสาวเอมอร ไปเปิดบัญชีธนาคารกสิกรไทย ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขา อ.พาน จ.เชียงราย เลขที่บัญชีตามภาพที่ 3
ต่อมา คนร้ายได้หลอกนักธุรกิจให้โอนเงินมา 1 ล้านบาท เข้าบัญชีนางสาวเอมอร (ภาพ 3) ซึ่งได้มีการแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2559
ต่อมาในวันเดียวกัน ได้มีบุคคลใส่ชุดสีขาว (ตามภาพ 4) ได้นำสมุดบัญชีพร้อมบัตรประชาชนของนางสาวเอมอร มาถอนเงินจำนวน 1 ล้านบาท ที่ไปหลอกมาจากนักธุรกิจ และได้ขอปิดบัญชี ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาบิ๊กซี จ.น่าน โดยที่ธนาคารไม่ได้มีการตรวจสอบ ว่าบัตรประชาชนของนางสาวเอมอร ไม่ตรงกับใบหน้าของคนร้ายแต่อย่างใด
คำถามคือ ทำไมธนาคารกสิกรไทย สาขา อ.พาน จ.เชียงราย ถึงได้ให้คนที่ไม่ได้เป็นเจ้าของบัตรประชาชน มาเปิดบัญชีออมทรัพย์ได้ ?
ข้อ 2 ทำไมธนาคารกสิกรไทย สาขาบิ๊กซี จ.น่าน ถึงได้ให้บุคคลที่ไม่ใช่เจ้าของบัตรประชาชน มาถอนเงิน และปิดบัญชีออมทรัพย์ได้ ?
ข้อ 3 จากภาพ 2 และภาพ 4 หญิงเสื้อแดงเป็นคนเปิดบัญชี โดยใช้บัตรประชาชนของนางสาวเอมอร แต่ในภาพที่ 4 บุคคลใส่ชุดสีขาว เป็นคนมาถอนเงินและปิดบัญชี ทั้ง 2 คนนี้ ไม่ใช่บุคคลคนเดียวกัน เกิดอะไรขึ้นกับธนาคารกสิกรไทย สาขา อ.พาน จ.เชียงราย และ สาขาบิ๊กซี จ.น่าน ถ้าหากระบบของธนาคารเป็นแบบนี้ ต่อไปนี้ ใครก็ตามที่ขโมยบัตรประชาชนไป พร้อมสมุดบัญชี ก็สามารถถอนเงินได้ โดยที่เจ้าของบัญชีไม่ได้ไปทำธุรกรรมด้วยตัวเองใช่หรือไม่ ? แล้วธนาคารจะรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างไร ?
ส่วนน้องเอมอร ก็ต้องติดตามดูกันต่อไปว่า จะสามารถพิสูจน์หลักฐานและพยานได้หรือไม่ว่า ทำบัตรประชาชนหล่นหายจริง เมื่อปี 2558 โดยที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือร่วมมือกับคนร้าย ? หากพิสูจน์ไม่ได้ น้องเอมอรจะต้องตกเป็นผู้ต้องหาในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทันที เพราะมีชื่อเป็นผู้รับโอนเงิน
อยากให้ผู้บริหารธนาคารกสิกรไทยลงมาตรวจสอบในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนนะครับ
ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม
งานนี้ก็เป็นอีกอุทาหรณ์ได้ดีสำหรับใครที่มีเอกสารสำคัญ หากทำบัตรประชาชนหล่นหายควรรีบตรวจสอบเอกสารสำคัญอื่นๆ ด้วย ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าทางธนาคารจะมีมาตรการอย่างไรอีกสำหรับเหตุสวมรอยที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจนลูกค้าเกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัยขึ้นมา
ขอบคุณข้อมูลจาก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ