ขนคุด เกิดจากการก่อตัวของหนังกำพร้าบนผิวหนังและมักสะสมอยู่บริเวณรูขุมขน แทนที่จะหลุดลอกออกไป หรือจากขนที่ขึ้นมาใหม่ภายหลังจากการโกนขนในบริเวณต่างๆ ซึ่งขนที่เกิดการงอกขึ้นมาใหม่นี้ จะเกิดการม้วนงอตัวกลับเข้าไปทิ่มในรูขุมขน สุดท้ายเกิดตุ่มสีแดงอักเสบหรือสีเนื้อจนทำให้ผิวสาก ไม่เรียบเนียน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบเจอบ่อยๆ และรบกวนจิตใจสาวๆอยู่ไม่น้อย ที่นี้จึงขอแนะนำวิธีการกำจัดขนคุดที่ทำได้เองง่ายๆ ดังนี้
ขั้นตอนแรกคือ การนำ ผ้าขนหนูจุ่มน้ำร้อนๆ บิดพอหมาด ประคบบริเวณนั้นๆประมาณ 10 นาที ความร้อนจะทำให้ผิวหนังและขนอ่อนนุ่มลง จากนั้นใช้ “แหนบ”หนีบปลายขนคุดให้ตึงจะช่วยให้เส้นขนที่อยู่ใต้ผิวหนังถูกดันขึ้นมาชัดเจน แต่หากเส้นขนยังไม่ติดผิวขนาดที่จะถอนออกมาได้ และรู้สึกเจ็บที่จะเค้น ให้พักไว้ก่อน ราว 2-3 วัน แล้วค่อยกลับมาลองทำใหม่อีกครั้ง
ขั้นตอนต่อมา คือการสครับผิวบริเวณนั้นด้วยการผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำผึ้ง ขัดวนอย่างเบามือ ประมาณ 2 ครั้งต่อวัน จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ กำจัดสิวเสี้ยนให้หลุดออกและผิวจะเรียบเนียนนุ่มขึ้น
ขั้นตอนสุดท้าย คือการบำรุงผิวและลดการอักเสบภายหลังจากการถอน ด้วยการใช้ว่านหางจระเข้ 1 ส่วน ผสมทีทรีออยล์และวิซ ฮาเซล สรรพคุณเหมือนโทนเนอร์ตามธรรมชาติ ช่วยกระชับรูขุมขนให้ค่อยๆตื้นขึ้น สมานแผล และเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวหนัง หรือจะทาด้วยโลชั่นที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกก็ได้ เพราช่วยฆ่าเชื้อโรคและฟื้นฟูผิวบริเวณที่เคยเกิดการบวมแดง
นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ บนผิวบริเวณที่เพิ่งกำจัดขนคุดไป เพราะจะทำให้แผลระคายเคืองได้ และทำให้ผิวส่วนนั้นแห้ง ซึ่งทำให้แผลหายช้าอีกด้วย
ในปัจจุบันมีครีมและโลชั่นที่ประกอบด้วย กรด Salicylic acid (Ex. bha paula's choice) , AHA(Ex. aha maxkin 10%) , ยากรดวิตามินเอ (Ex. retin-a) เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องสามารถลดการสะสมของเซลล์ผิวหนัง ทำให้โอกาสเกิดขนคุดน้อยลงได้
หากลองรักษาด้วยวิธีข้างต้นเองสัก 2 -3 สัปดาห์และไม่เห็นผล ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการรักษาให้ถูกต้องและปลอดภัยคงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีกว่า
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ