ใครๆ ก็มีธุรกิจเป้นของตัวเอง เพราะมันเป็นงานที่ให้ความรู้สึกว่าสามารถควบคุมได้เองทุกอย่าง ไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร ไม่ต้องให้ใครมาสั่ง แต่ก็มีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้จะเริ่มอะไรดี จึงต้องเริ่มที่การซื้อ "ธุรกิจแบบเฟรนไชส์" หรือธุรกิจที่มีโมเดลสำเร็จรูปมาให้แล้ว แค่ซื้อสูตร ซื้อร้าน ก็ลงมือทำได้เลย ซึ่งถ้าใครโชคดีก็ได้งานดี เงินดี รอดตัวไป แต่ถ้าโชคร้ายก็อาจจะโดนโกง เจอโมเดลธุรกิจที่น่าผิดหวัง ทุนให้ไปเท่าไหร่ก็จมหมด
ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา ชาวพันทิป ล็อกอินViperPerFectz ก็ได้ออกมาตั้งกระทู้เตือนหลายคนที่คิดจะซื้อเฟรนไชส์ธุรกิจ "สินค้า 20 บาท ระดับSMEตีแตก" เห็นเจ้าของธุรกิจออกรายการมากมายอย่าเพิ่งหลงเชื่อ ระวังจะเจอระบบร้านที่ไม่เป็นธรรมกับคนซื้อ
โดยเขาได้เล่าว่า
ฝากเตือนทุกๆท่านที่คิดอยากลงทุนซื้อแฟรนไซส์ 20 บาท วิเคราะห์แบรนด์ต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจจ่ายเงินไปก้อนโต ผมเองเปิดร้านมาได้ 2 ปีกว่าแล้ว แต่สงสารคนที่ต้องตกเป็นเหยื่อของคนที่มักง่ายโดยคิดว่าเป็นเจ้าของธุรกิจเฟรนไชส์ง่ายๆ เพียงแค่ "ขายฝัน" เรามาดูกันดีกว่าว่าวิธีการ "หารายได้ร้อยล้าน" ของเสี่ยเด็กคนนี้เป็นไงบ้าง เริ่มจาก
1) นำทุกๆ ท่านเข้าสู่โหมดเทพ จากคนจนรายได้วันละ 300 บาท จะขายได้วันละเป็นแสนๆ กำไรวันละหลายหมื่นบาททันที
2) จะให้คุณดูรายการที่เสี่ยเด็กคนนี้ไปออกมา ไม่ว่าจะเป็นรายการ sme ตีแตกก็ดี รายการนั้นรายการนี้ก็ดี พร้อมแลมโบฯคันโก้
3) เมื่อท่านตัดสินใจซื้อในราคาราวๆ 380,000 ท่านจะได้สินค้าราวๆ 200,000 บาท ค่าทำร้าน 100,000 บาท(ตามที่เขาบอก จริงๆแล้ว ค่าทำร้านไม่น่าจะเกิน 50,000 ด้วยซ้ำ) นอกนั้นค่าป้าย(กินเปล่า ราวๆ 100,000 บาท) พร้อม บิลใบ้หวยมา (มีรูปข้างล่าง)
จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ดูไม่ดีตรงไหนใช่มั้ยละครับ แต่ปัญหาก็คือ เฟรนไซส์ไม่ได้ช่วยอะไรร้านสาขาในด้านการจัดการเลย สักนิด ระบบสั่งของ ระบบการจัดการ ระบบหลังร้าน ระบบหน้าร้าน ระบบที่ร้านค้าส่งควรมีเค้าไม่มีเลยสักนิด(แล้วพวกเราซื้อเฟรนไชส์เพื่อ!!??) วันๆ CEO ผู้นี้ก็เอาแต่โฆษณาว่าร้านตัวเองดีอย่างนั้นอย่างนี้ ตัวเองทำแล้วรวยแบบนั้นแบบนี้ เอาแต่ขยายขายสาขาท่าเดียว(ก็ใช่สิ 400+ สาขา กินเปล่าสาขาละ 50,000-100,000 บาท รวมๆแล้วก็หลายสิบล้านอยู่) มุ่งแต่วิ่งไปข้างหน้าท่าเดียวโดยที่ไม่รู้เลยว่าลูกข่ายเป็นตายร้ายดียังไง จะอยู่ได้รึเปล่า
เวลาของที่ร้านจะหมดก็ต้องสั่งพิมกันทางไลน์คุยกัน บางทีสั่งเป็นรูปส่งไป ซึ่งนึกภาพตามนะครับ เวลาสั่งสินค้าหลักหมื่นหลักแสน ชิ้นนึง 15-16 บาท ความมั่วและความยุ่งยากมันจะขนาดไหน สั่งของไปก็นานมากกว่าจะอ่าน กว่าจะรวมยอด กว่าจะจัดของ กว่าจะส่ง รวมๆเป็นสิบๆวัน สั่งแล้วได้ของช้าไม่พอ สั่งแล้วเอาของที่ไม่ได้สั่งมายัดให้อีก ตัวเฟรนไชส์เองไม่มีระบบสั่งสินค้าหรืออะไรมารองรับเลย ที่สำคัญ บิลที่มีรายละเอียดสินค้าสักนิดก็ไม่มี มีแค่บิลใบ้หวยเขียนมือ (อันนี้ต้องชมนะครับ ธุรกิจร้อยล้าน เขียนบิลกับมือ!!! 7K)
ทั้งๆที่ร้านค้าส่งอื่นๆมีระบบเว็บไซต์ การสั่งสินค้า การจัดของ การส่งของที่รวดเร็ว โปรโมชั่นต่างๆให้สะดวกสบายมากๆ สั่งของวันนี้ ไม่เกิน 3-4 วันก็มาถึงหน้าร้าน ซึ่งเราไม่ต้องเสียเงินหลักหมื่นหลักแสนเพื่อซื้อป้ายเลย(แล้วเราควรจะเสียเงินค่าโง่ซื้อเฟรนไชส์ให้เค้าเพื่อ??)
สุดท้ายนี้ แค่อยากเตือนเพื่อนๆ พี่ๆ ลองพิจารณาให้ดีก่อนจะซื้อเฟรนไชส์อะไรสักอย่าง ซึ่งจาก 300 สาขาในปัจจุบัน น่าจะมีเกิน 80% ที่อยากจะระบายหรือบอกความในใจกับสังคม แบบที่ผมเป็นอยู่ ไม่อยากให้ใครมาโดนเช่นนี้เพิ่มมากขึ้นแล้วครับ ตอนนี้กลืนไม่เข้าคายก็ไม่ออก ต้องทนๆกันไปแบบนี้ …
[ads]
ซึ่งหลังจากโพสต์ไปแล้ว ก็มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น บ้างก็เข้ามาให้กำลังใจ บ้างก็ว่าผิดคนละครึ่ง และบางคนก็ยังมาคอนเฟิร์มว่าที่เจ้าของกระทู้โดนนั้น เพื่อนตนเองก็เคยโดนมาแล้วด้วย (ความเห็นที่ 12)
เพื่อนเราฝากมาระบายค่ะ ขอระบายคร่าวๆ ไม่อยากลงรายละเอียดเยอะนะคะ ไม่อยากมีปัญหา เนื่องจากเป็นความโง่ส่วนตัวของเพื่อนเราส่วนหนึ่ง 55555
** เพื่อนเรายอมรับว่าไม่ได้ศึกษาข้อมูล ให้ละเอียด ถี่ถ้วน เพราะส่วนตัวแล้วรู้จักกับเจ้าของแบรนด์ประมาณหนึ่ง เข้าเรื่องเลยนะคะ….
เนื่องจากว่า เพื่อนเราเคยคิดที่จะเปิดเป็นตัวแทนกระจายของประจำภาคของเฟรนชายส์แบรนด์เดียวกันนี้ เลยติดต่อไป ค่ามัดจำ 5 แสนบาท ส่วนค่าเฟรนชายส์ 2 ล้าน รวมแล้วเพื่อนเราจ่ายไป 2 ล้าน 5 แสน บาท ที่นี้เพื่อนเราก็ลงทุนสร้างโกดังไป พอเสร็จเรียบร้อย…. เจ้าของก็บอกว่า “ไปดูฤกษ์มา ว่าควรจะเปิดเดือนไหน” ซึ่งระยะเวลาเปิดก็เลยต้องเลื่อนเวลาออกไป ประมาณ 2-3 เดือน
ระหว่างนั้นแฟนของเพื่อนเราเลยได้มีเวลาศึกษาข้อมูลเพิ่ม เลยพบว่ามันไม่คุ้ม เลยอยากจะขอยกเลิก โดยยินยอมให้ยึดค่ามัดจำไปได้ (5 แสนบาท) เป็นค่าเสียเวลาต่างๆ แฟร์ๆ ค่ะ เพราะเค้าก็ยังไม่ได้ลงทุนอะไรให้เราเลย นอกจากขับรถมาดูสถานที่ แล้วก็โพสต์ลงสื่อออนไลน์ส่วนตัว 1 รูป และในสัญญาก็ไม่มีบอกนะคะว่า *ถ้ายกเลิกจะยึดเงินทั้งหมดหรืออะไร*
ปรากฏว่าทางเจ้าของแบรนด์ไม่ยอม ……. เอิ่มมม จะยึดเงินไปทั้งหมด แจ้งว่า เพราะเค้าเสียโอกาสทางการค้า จะคืนเงินให้ก็ต่อเมื่อเค้าขายให้คนอื่นได้แล้ว หรือหากเพื่อนเราเอาไปขายต่อให้คนอื่นได้ เพื่อนเราบอกอีกว่า เค้าไม่กล้าไปบอกขายต่อให้คนอื่นหรอกค่ะ เค้ากลัวบาป กลัวไปขายฝันต่อ เลยปล่อยเวลาไปซักพัก เพราะเจ้าของแบรนด์บอกว่า เค้าเสียโอกาสไป และมีคนติดต่อเข้ามาเยอะหลายราย แต่เค้าเลือกเพื่อนเรา เพื่อนเราเลยยังมีหวังว่าจะได้เงินคืนมาส่วนหนึ่ง ในเมื่อเค้าบอกมีหลายคนสนใจ คิดว่าเจ้าของคงติดต่อไปหารายอื่นๆ เผื่อเค้าจะยังสนใจ แต่ก็เงียบค่ะ..
นี่ก็เป็นปีแล้ว ติดต่อไปอีกทีเค้าให้คำตอบว่า เค้าไม่คืนเงินให้ อยากได้ให้ไปฟ้องเอาเอง เงิบบบบ เพราะเค้าไม่ได้ผิดอะไร แรงมากกกก
แต่ก็ไม่ได้ไรค่ะ เพื่อนเราเค้ามีเงินค่ะ เงินแค่นี้มันไม่ได้เดือดร้อนอะไรเค้ามาก อีกด้านหนึ่งมันก็จริงเพื่อนเรามีส่วนผิดที่เป็นฝ่ายอยากยกเลิกสัญญาเอง เจ้าของแบรนด์เค้าไม่ได้ผิดในส่วนนี้ ยอมรับค่ะ เพียงแต่เพื่อนเราเตือนว่า จะได้รู้ว่าคนแบบนี้คบไม่ได้ค่ะ! จริงงงงๆๆๆ ถ้าเกิดเรื่องนี้มันไปเกิดกับคนที่เค้ามีเงินลงทุนก้อนเดียว ก้อนสุดท้าย แล้วเจอแบบนี้ คงจะแย่ค่ะ
ที่มาเล่าไม่ได้จะอะไรนะคะ แค่อยากให้เป็นอุทาหรณ์ค่ะ (อุทาหรณ์ ราคา 2ล้าน 5 แสน) 55555 และเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับเรานะคะ เป็นเรื่องของเพื่อนเรา เค้ามาระบายให้เราฟังนานแล้ว ข้อมูลอาจจะไม่ตรงเป๊ะๆ นะคะ คร่าวๆ ผิดพลาดอะไรขอโทษด้วยค่ะ แค่อยากมาแชร์ค่ะ
อย่างไรก็ดี ฟังหูไว้หู อะไรที่เป็นเงินเป็นทองย่อมมีความเสี่ยงเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นธรรมดา ต้องใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ
คลิกที่นี่ หากต้องการเข้าสู้ลิ้งค์ต้นเรื่องเพื่ออ่านความคิดเห็นอื่นๆ
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ