แฟนเพจ คลังประวัติศาสตร์ไทย ให้ข้อมูลสาเหตุที่ พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช มิได้ลงประทับยังพระบรมโกศ มิใช่ยกเลิกธรรมเนียม แต่มีที่มา
วันที่ 14 ตุลาคม 2559 สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินถึงพระที่นั่งพิมานรัตยา เสด็จเข้าภายในพระฉาก ซึ่งพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช บรรทมอยู่บนพระแท่น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสำหรับพระบรมศพบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยกราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงรับขวดน้ำพระสุคนธ์จากเจ้าพนักงาน ถวายสรงที่พระบรมศพ แล้วกราบถวายบังคมพระบรมศพ ทรงรับหม้อน้ำพระสุคนธ์ โถน้ำขมิ้น และโถน้ำอบไทย จากเจ้าพนักงาน ถวายสรงที่พระบาทพระบรมศพ
ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงหวีเส้นพระเจ้าพระบรมศพขึ้นครั้งหนึ่ง ทรงหวีลงครั้งหนึ่ง แล้วทรงหวีขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แล้วหักพระสางนั้น วางไว้ในพานซึ่งเจ้าพนักงานเชิญอยู่ จากนั้นทรงวางซองพระศรีบรรจุดอกบัวและธูปเทียน แผ่นทองคำจำหลักลายปิดพระพักตร์ ทรงวางพระชฎาห้ายอด ข้างพระเศียรพระบรมศพ เสร็จแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เชิญพระหีบพระบรมศพ ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ขึ้นประดิษฐานบนพระแท่นแว่นฟ้าหลังพระแท่นสุวรรณเบญจดล
ทั้งนี้ แฟนเพจ คลังประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งเป็นเพจที่ให้ข้อมูลทางด้านประวัติศาสตร์ของประเทศไทย มีผู้ติดตามจำนวนมาก ได้ให้ข้อมูลหลังจากข่าวพระราชสำนักระบุว่า ได้เชิญพระหีบพระบรมศพขึ้นประดิษฐานบนพระแท่นแว่นฟ้าหลังพระแท่นสุวรรณเบญจดล มิได้ลงประทับยังพระบรมโกศ ว่า มิใช่การยกเลิกธรรมเนียมแต่อย่างใด แต่มาจากพระประสงค์ส่วนพระองค์ เนื่องด้วยเมื่อคราสมเด็จย่าสวรรคตนั้น พระองค์ได้ทรงรับสั่งว่าให้นำท่านลงหีบ ซึ่งพระราชกระแสรับสั่งนี้เกิดขึ้นเมื่อคราพิธีสรงน้ำสมเด็จพระราชินี ในรัชกาลที่ 7 ซึ่งสมเด็จย่าเสด็จด้วย และได้เห็นการทำพระสุกำหรือมัดตราสังค์พระบรมศพแล้วอัญเชิญลงสู่พระบรมโกศ เป็นไปด้วยความทุลักทุเล พระองค์จึงตรัสว่า "อย่าทำกับฉันอย่างนี้ อึดอัดแย่" ซึ่งก็เช่นเดียวกันกับสมเด็จพระพี่นางในรัชกาลที่ 9
อย่างไรก็ตามโบราณราชประเพณี เมื่อพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์เสด็จสวรรคต จะประกอบพิธีบรรจุพระบรมศพ พระศพ ลงในพระโกศ แต่ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้เชิญพระบรมศพ และพระศพ ลงหีบพระศพ แทนใส่การใส่พระโกศ ซึ่งสามารถทำได้ตามพระราชอัธยาศัย
โดยพระศพของพระราชวงศ์ชั้นสูงที่อัญเชิญลงประทับยังพระโกศไปนั้น คือปี 2554 พระศพของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าหญิงเพชรรัตนฯ ซึ่งเป็นพระประสงค์ส่วนพระองค์ และทรงตรัสไว้ว่าจะดำรงพระเกียรติยศของการเป็นขัติยนารีแห่งพระราชวงศ์จักรีอย่างสูงที่สุด ในส่วนพิธีการนั้น สำนักพระราชวังจัดตรงตามโบราณราชประเพณีทุกประการ เว้นแต่ตอนพระราชทานเพลิงที่อัญเชิญพระโกศเข้าเตาไฟฟ้า แทนการตั้งบนจิตกาธานหรือเชิงตะกอน และยังมีพระศพของหม่อมเจ้าหญิงกรณิกา แห่งราชสกุลจิตรพงศ์ ที่สิ้นไปเมื่อปีที่แล้ว และเจ้าพนักงานภูษามาลาอัญเชิญพระศพลงยังพระโกศ
ขอบคุณข้อมูลจาก : แฟนเพจ คลังประวัติศาสตร์ไทย, สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ