แพทย์เตือนกินยาแก้ปวดมากเสี่ยงไตพัง
ศ.เกียรติคุณ นพ.ธีรชัย ฉันทโรจน์ศิริ ผอ.โรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินร์ กล่าวว่า เนื่องในวันไตโลก 2015 รพ.สถาบันโรคไตฯ สถาบันชั้นนำของเอเชียในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคไตอย่างครบวงจร และอยากให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายและป้องกันโรคไตวายเรื้อรัง
[ads]
ด้าน ศ.เกียรติคุณ พญ.ธัญญารัตน์ ธีรพรเลิศรัฐ ประธานฝ่ายการศึกษาวิชาการและฝึกอบรม รพ.สถาบันโรคไตฯ กล่าวว่า โรคไตนับเป็นปัญหาที่สำคัญของการสาธารณสุขโลก รวมถึงไทยด้วย และจากการศึกษาพบว่าคนไทยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เป็นโรคไตถึง 8 ล้านคน จำนวนนี้เป็นผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายต้องล้างไตทางช่องท้อง ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมและปลูกถ่ายไตถึง 40,000 คน นอกจากนี้ จากการเก็บข้อมูลยังพบด้วยว่าจำนวนผู้ป่วยโรคไตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น การรณรงค์ป้องกันไม่ให้เกิดโรคจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ และควรมุ่งเน้นใน 2 เรื่องหลัก คือ 1.ในเชิงรุก ต้องเร่งให้ความรู้และทำให้ประชาชนตระหนักถึงอันตราย รวมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการตรวจคัดกรอง และ 2.การป้องกันและหลีกเลี่ยงจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ได้แก่ ลดการกินยาแก้ปวดเพื่อลดอาการอักเสบ กลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น ไอบูโพรเฟน, ไดโคลฟีเแนค, อินโดเมทาซิน, นาโปรเซน และซีลีคอกซิบ เป็นต้น เพราะนอกจากไม่เป็นประโยชน์แล้วยังมีพิษต่อไตอีกด้วย อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่สำคัญของการเกิดโรคไตหลักๆนั้น เกิดจากโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง
ขณะที่ นพ.ธีรวัฒน์ ธนชยานนท์ แพทย์โรคไต รพ.สถาบันฯ กล่าวว่า การได้รับการรักษาและบำบัดโรคไตอย่างถูกวิธีตั้งแต่แรก จะช่วยลดความสูญเสียของผู้ป่วยได้ และขณะนี้ รพ.มีการเปิดฟอกไตกลางคืน ซึ่งจะได้ผลการรักษาที่ดีกว่าการฟอกเลือดปกติ คือ การควบคุมความดันโลหิตและหัวใจทำงานดีขึ้น สามารถลดปริมาณการรับ– ประทานยาได้ และที่สำคัญช่วยลดผลแทรกซ้อนระหว่างการฟอกเลือด เช่น อาการตะคริว หรืออาการอ่อนเพลียได้อีกด้วย.
[ads=center]
ขอบคุณเนื้อหาจาก http://www.thairath.co.th/content/484040
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ