เปิดประสบการณ์ชีวิต จากเด็กปั๊มจบ ป.6 สู่พนักงานบริษัทเงินเดือนเฉียดแสน!





หลังจากมีกระทู้ รีวิวชีวิตมนุษย์เงินเดือนจบ ม. 6 จาก 4,000 เป็น 40,000 ใน 7 ปี (http://pantip.com/topic/35771703) เผยแพร่ออกไปทางโซเชียลเมื่อ 1-2 วันก่อนจนได้รับความสนใจกับชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ในกรณีนี้ก็เป็นอีกครั้ง อีกตัวอย่างประสบการณ์ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้หลายคนเช่นกันว่า "วุฒิการศึกษาที่น้อยก็สอยเงินเดือนสูงได้" ลองมาอ่านประสบการณ์ของชาวพันทิปล็อกอิน UltimaWeapon กันดูว่า เขาปั้นเงินเดือนเฉียดแสนได้อย่างไร ทั้งที่จบการศึกษาเพียงแค่ ป.6 และเริ่มต้นอาชีพเด็กปั๊ม!

… สวัสดีครับ สืบเนื่องจากกระทู้ http://pantip.com/topic/35771703 ที่มีหลายๆความเห็นบอกว่า วุฒิการศึกษาสำคัญจะได้ดูน่าเชื่อถือ ผมเลยอยากตั้งกระทู้นี้เพื่อจะมาแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตของผม (จะเรียกว่าอวดก็ได้) ที่มีฐานความรู้แค่ ป. 6 ที่สามารถมีเงินเดือนเฉียดแสนได้ กระทู้นี้ผมไม่หวังอะไรมากครับ แค่อยากให้ทุกคนเปลี่ยนความคิด เพื่อให้ประเทศไทยพัฒนามากกว่านี้

ผมเกิดปี 2531 ปัจจุบันอายุ 28 ปี บ้านเกิดอยู่ที่อุบลราชธานีแถวๆชานแดนกัมพูชา เป็นลูกชาวนาคนหนึ่ง ที่ฐานะทางบ้านจน (ไม่ใช่ชนชั้นกลาง) ผมเริ่มเรียน ป. 1 ที่โรงเรียนน้ำยืน แต่เรียนได้เพียงแค่ราวๆสองอาทิตย์ก็ต้องย้ายไปเรียนที่โรงเรียนบ้านกุดเชียงมุนเนื่องจากพ่อแม่จะย้ายไปอยู่ที่ไร่ถาวร (พ่อแม่ผมมีบ้านในตัวอำเภออยู่หนึ่งหลัง) ตอนจบ ป. 1 ผมได้ที่เกือบที่โหล่ของห้อง อาจจะเพราะผมไม่ตั้งใจเรียน แต่พอ ป. 2 เป็นต้นจนถึง ป. 6 ผมกวาดที่ 1 เรียบ ยกเว้นตอนช่วง ป. 4 หรือ 5 นี่ละ ที่ตกไปอยู่ที่ 2 ครั้งหนึ่งเนื่องจากไม่ตั้งใจเรียน เหตุการณ์ที่ทำให้ผมขึ้นจากเกือบที่โหล่มาเป็นที่ 1 อาจจะเพราะพ่อแม่ผมบอกถ้าได้ที่ 1 จะให้รางวัลเป็นโต๊ะเรียนหนังสือที่ผมอยากได้ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกพ่อแม่ผมจะตกใจมากที่ผมขึ้นจากเกือบที่โหล่มาเป็นที่ 1 ได้ภายในเวลาแค่ชั้นเดียว ซึ่งพ่อแม่ผมก็ไม่ได้โกหก เขาก็ซื้อโต๊ะนั้นให้ รู้สึกราคาจะประมาณไม่กี่ร้อยถ้าจำไม่ผิด ซึ่งข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับพ่อแม่ คืออย่าโกหกลูก พูดแล้วต้องทำให้ได้ ถ้าอยากให้ลูกศรัทธาในตัวพ่อแม่

ช่วง ป. 5 ผมได้มีโอกาสใช้งานคอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีวิชาคอมเพิ่มเข้ามา ซึ่งผมชอบมาก ทุกครั้งที่ว่าง หรือมีกิจกรรมอะไรที่ผมไม่ชอบ (เช่น กีฬาสี) ผมจะขอครูเข้าไปใช้งานคอมเสมอ บางทีก็โดนครูดุว่าทำไมไม่ร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆบ้าง ส่วนใหญ่ที่ผมใช้คอมมักจะค้นหาอะไรแปลกๆทำเสมอ (เครื่องเป็น Windows 95 และ 98 และไม่มีเน็ต) ซึ่งที่ห้องคอมก็จะมีหนังสือการใช้งานคอมพิวเตอร์อยู่ ผมก็จะเอามาอ่านแล้วทำตามไปเรื่อยๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งผมพยายามทำตามหนังสือเพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ครูก็มาบอกว่ามันต่อไม่ได้เพราะเราไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต ซึ่งครูประจำชั้นผมตั้งแต่ ป. 5 ถึง 6 ชื่อครูต่าย เป็นครูที่สอนวิชาคอมพิวเตอร์ด้วย เป็นครูที่ผมรักมากที่สุด เพราะถ้าไม่มีครูต่ายที่เป็นคนสร้างจุดเริ่มต้นให้ชีวิตของผม ปัจจุบันผมจะทำอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ซึ่งตอนเรียนประถมผมได้เงินไปโรงเรียนวันละ 5 บาท (ได้เยอะกว่าคนอื่น เพื่อนๆคนอื่นได้ราวๆวันละ 2 – 3 บาท)

พอจบ ป. 6 ผมได้ไปเรียนต่อมัธยมที่โรงเรียนน้ำยืนวิทยา เนื่องจากผมอยากกลับมาอยู่บ้านในตัวอำเภอมาก และพ่อแม่เห็นว่าผมเรียนเก่งด้วย ก็เลยยอมให้ไปเรียนที่นั่น (ซึ่งต้องจ่ายค่าเทอม จากตอนที่เรียนประถมไม่ต้องจ่ายค่าเทอม) ตอนสอบเข้าผมสอบได้ที่ 2 จากราวๆ 300 หรือ 600 คน ที่นี่ ผมเริ่มเกเร ติดเกม เริ่มโดดเรียนไปเล่นเกมกับเพื่อนๆ ความคิดของผม ณ ตอนนั้นคือ พ่อแม่รักหลานมากกว่า เพราะตั้งแต่มาหลานมา ผมรู้สึกว่าตัวเองได้รับความรักน้อยลง จุดนี้เป็นสิ่งที่อันตรายมากสำหรับพ่อแม่ ไม่ควรจะให้ลูกตัวเองรู้สึกแบบนั้น จนพอขึ้น ม. 2 เปิดเทอมวันแรกผมต้องออกจากโรงเรียนเนื่องจากพ่อทนในความเกเรไม่ไหว

หลังจากออกจากโรงเรียน พ่อผมก็ส่งผมไปอยู่กับยาย เพื่อที่จะเรียนรู้วิธีซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากน้า ซึ่งบ้านยายห่างออกไปราวๆ 70 กิโลเมตร อยู่ได้แค่ราวๆสองเดือนผมก็ปั่นจักรยานกลับมาบ้าน หลังจากนั้นก็อยู่บ้านเล่นเกมกับเพื่อนไปวันๆ จากนั้นไม่กี่เดือนก็ได้ย้ายมาอยู่กับพี่ที่กรุงเทพด้วยเหตุอะไรสักอย่าง ที่กรุงเทพ พี่ก็ให้ไปเรียน ก.ศ.น. ใกล้บ้าน รอบนี้ก็เกเรอีกรอบ โดดเรียนหนีไปเล่นเกม อยู่กับพี่ได้ราวๆปีสองปี พี่ก็ย้ายกลับไปอยู่อุบล ตอนนั้นผมไม่อยากกลับ เลยหนีไป แต่สุดท้ายก็ต้องกลับบ้าน

พอกลับมาบ้านที่อุบล ผมได้หนีกลับมากรุงเทพอีกครั้ง ถ้าจำไม่ผิดด้วยเงินราวๆ 200 บาท พอมาถึงสถานีดอนเมือง ผมโทรหาพี่สาว แล้วเดินไปหาเขาที่บ้านแฟนเขาแถวๆวัดนาวงศ์ แล้วพี่สาวผมก็ไปฝากงานไว้กับเพื่อนเขา เป็นงานตั้งโต๊ะโทรศัพท์นาทีละ 3 บาท ซึ่งผมได้พักอยู่กับพี่ชายแถวๆมหาลัยกรุงเทพ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะได้ค่าจ้างวันละ 100 บาท ซึ่งหลังจากเลิกงานทุกครั้งผมก็แวะเข้าร้านเกมแทบทุกคืน ซึ่งส่วนใหญ่จะเล่น Ragnarok Online ที่ร้านเกมนั้น วันหนึ่ง ผมเห็นคอมเครื่องข้างๆเขาใส่แผ่น CD แล้วเปิดบอทแร็ก ตอนนั้นผมสนใจมาก อยากได้มาลองด้วย เลยลองหาทางเข้าไปใน Share Drive ของเครื่องนั้นดู ปรากฎว่าเขาแชร์ Drive CD ไว้ ผมเลย Copy บอททั้งชุดมา ซึ่งในคู่มือบอทมีเว็บไซต์ ThaiBuzz อยู่ด้วย ผมก็เข้าไปหาข้อมูลต่างๆของบอทในนั้น จนเริ่มเก่ง ก็เริ่มตอบกระทู้ปัญหาบอท จนได้เลื่อนเป็น Staff ที่นั่น

จากนั้น พี่ผมได้ย้ายมาอยู่แถวๆโรงเรียนธัญบุรี ผมก็ตามมาอยู่ด้วย และได้ไปสมัครเป็นเด็กปั๊มที่ปั๊ม Jet หน้าปากซอย ถ้าจำไม่ผิดเงินออกทุกๆสองอาทิตย์ ครั้งละราวๆ 2,000 ระหว่างนั้น ผมได้ไปรู้จักเว็บ mod2play ซึ่งในเว็บนั้นเขาได้แจก source code ของบอทแร็กพร้อมสอนวิธีคอมไพล์ ผมก็หัดทำตาม โดยตอนแรกทำได้แค่แก้ข้อความของโปรแกรม เช่น ชื่อโปรแกรม ฯลฯ จนวันหนึ่ง ผมได้คุยกับเจ้าของ ThaiBuzz ว่าเราน่าจะทำบอทที่เป็นแบรนด์ของเราเองขึ้นมา จึงได้ตกลงกันทำ ThaiKore ขึ้นมา เขาก็เปิดเว็บใหม่ขึ้นมาให้ผม ที่เว็บใหม่ ผมได้ทำระบบสมาชิกพิเศษขึ้นมา ซึ่งต้องจ่ายเงินเพื่อสมัคร ทำให้เริ่มมีรายได้ทางอื่นเข้ามานอกจากเป็นเด็กปั๊ม ซึ่งทำให้ผมตัดสินใจลาออกจากเด็กปั๊มเพื่อมาทำบอทเต็มตัว จนในที่สุดผมมีเงินราวๆ 10,000 บาท ก็ได้ตัดสินใจซื้อคอมพิวเตอร์เป็นของตัวเองหนึ่งเครื่อง สเปคราวๆ AMD Sempron + nVidia GeForce FX 5200 + 256 MB RAM

จากนั้น ผมได้ทำโปรแกรมอีกตัวขึ้นมา ชื่อ X-Kore เป็นโปรแกรมช่วยเล่นแร็ก ซึ่งโปรแกรมตัวนี้ทำขาย ไม่ได้แจกฟรีเหมือนบอท ช่วงแรกน่าจะทำรายได้ได้ราวๆ 5,000 – 10,000 ต่อเดือน ระหว่างนั้น ผมได้คบกับ Staff คนหนึ่งของ mod2play ซึ่งเขาก็บังคับให้ผมไปเรียนต่อ ก.ศ.น. เพื่อที่จะได้ต่อมหาลัย คบกันได้ประมาณสองปีก็เลิกเนื่องจากผมรับไม่ได้ที่ไม่ค่อยได้เจอกัน (กว่าจะได้เจอกันครั้งแรกก็หนึ่งปี หลังจากนั้นก็เจอกันเดือนละครั้ง สักพักสองสามเดือนครั้ง) ช่วงที่เลิกกัน ผมก็จบ ก.ศ.น. ม. 3 พร้อมทั้งได้เปิดเซิฟเวอร์ Ragnarok กับเพื่อนขึ้นมา ช่วงนี้รายได้สะพัดมาก รวมรายได้จาก X-Kore และเซิฟเวอร์อยู่ที่ราวๆ 100,000 – 150,000 บาทต่อเดือน จากนั้น ผมก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วก็ได้คบกัน ผมหมดเงินไปกับผู้หญิงคนนี้เยอะมาก เนื่องจากช่วงนั้นหลงเขามาก เพราะไม่เคยมีแฟนสวยแบบนี้มาก่อน รวมทั้งหมดแล้วน่าจะเกือบๆ 500,000 ซึ่งผมได้ดาวน์รถยารีสให้เขาด้วยหนึ่งคัน ให้เงินดาวน์เขาไป 200,000 บวกกับผ่อนต่อให้อีกสามสี่เดือนก่อนเลิกกัน เรียกได้ว่าเงินทั้งหมดที่ผมหามาได้เกือบทั้งหมดหมดไปกับผู้หญิงคนนี้ (แต่ผมก็ไม่อาฆาตแค้นอะไร จบแล้วก็แยกย้ายกันไป ถือว่าผมโง่เองที่ยังเด็กอยู่)

ระหว่างคบกับแฟนคนนั้น ผมได้ไปหางานประจำทำ (ด้วยเหตุผลอะไรก็จำไม่ได้เหมือนกัน) ได้งานที่แรกที่บริษัท CyberPlanet Interactive ตำแหน่ง Network Programmer ทำอยูได้ราวๆ 6 เดือนก็ลาออก เนื่องจากทนความเครียดทั้งสองทางพร้อมกันไม่ไหว (ทั้งเรื่องงาน เรื่องแฟน) พอออกจากงานได้เดือนสองเดือนก็เลิกกับแฟน

พอเลิกกันกับแฟนคนนั้น ผมก็ไม่มีใจจะเขียนโปรแกรม ทำให้ผมตัดสินใจถอนตัวจากเซิฟเวอร์แร็กที่ทำกับเพื่อน ส่วนรายได้จาก X-Kore ก็ค่อยๆลดลงเรื่อยๆ จนถึงจุดที่รายได้ไม่พอใช้ ผมก็ได้ตัดสินใจไปสมัครงานอีกรอบ คราวนี้ได้งานที่บริษัท Advance Intelligent Modernity ตำแหน่ง Programmer ที่นี่ ผมได้พบกับแฟนคนปัจจุบันจากการที่น้องฝึกงานติดต่อให้ ซึ่งก่อนหน้านั้นผมจีบใครก้ไม่มีใครเอา ซึ่งระหว่างที่ผมไล่จีบคนอื่นอยู่นั้น แฟนคนปัจจุบันผมก็ไล่จีบผมเหมือนกัน จนสุดท้ายผมรักเขา ก็เลยตัดสินใจคบกับเขา ผมทำอยู่ที่นี่ได้ปีหนึ่ง ก็ลาออก เนื่องจากพี่โดม Thai Cyber Game ชวนไปทำงานด้วย ซึ่งผมก็ตกลงไปทำกับเขา

ที่ Thai Cyber Game ผมก็ทำได้แค่ราวๆ 5 เดือนก็ลาออกไปทำที่ AIS เนื่องจากผมกับแฟนวางแผนจะซื้อรถกัน เลยต้องหารายได้ให้มากขึ้น ที่ AIS ผมเป็น Outsource ทำอยู่ได้ปีหนึ่ง เจ้าของบริษัท Electronics Extreme ก็มาชวนผมไปทำงานด้วย ผมก็ตกลง ที่นั่น ผมทำในตำแหน่ง Assistant IT Manager ดูแลทีมโปรแกรมเมอร์ทั้งหมดยกเว้น Web Developers

ระหว่างที่ทำงานอยู่ที่ Electronics Extreme ผมก็เก็บเงินได้ราวๆแสนเจ็ด (เงินเก็บรวมทั้งหมดตั้งแต่เริ่มคบกับแฟนคนปัจจุบัน) จึงตัดสินใจดาวน์ Honda Civic ที่ 20% แบบไม่มีคนค้ำ เรื่องทุกอย่างก็ผ่านไปได้เรียบร้อยดี มีรถป้ายแดงคันแรกในชีวิต จากนั้น ผมก็ได้ตัดสินใจลาออกจาก Electronics Extreme เนื่องจากรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับสายบริหาร แล้วผมก็ได้ไปสมัครงานที่บริษัท Jetabroad Thailand ตำแหน่ง Software Developer ที่นี่ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนในชีวิตผม เพราะเป็นบริษัทต่างชาติ ทำงานคุยภาษาอังกฤษ ช่วงเดือนแรกๆกดดันมากถึงมากที่สุดเพราะฟังไม่ค่อยออก พูดไม่ค่อยได้ แต่พอเริ่มเข้าเดือนที่ 4 เป็นต้นไปทุกอย่างก็เริ่มโอเค การเดิมพันของผมสำเร็จ ผมได้ภาษาอังกฤษ มันเป็นหนทางแห่งการต่อยอดอนาคตของผมให้ยาวไกลไปได้จนผมแก่เฒ่า

เดือน 7 ที่ผ่านมา ผมกับแฟนก็ตัดสินใจซื้อทาวน์เฮาส์หลังหนึ่ง ราคา 2.6 ล้านเพราะไม่อยากย้ายไปไหนกันอีกแล้ว (ก่อนหน้านี้เช่าบ้านอยู่ สัญญากำลังจะหมด ผมกับแฟนตัดสินใจไม่ต่อสัญญาเพราะเจ้าของบ้านไม่ค่อยอยากให้เลี้ยงแมว) กู้ผ่านไปได้ด้วยดี ผมกับแฟนย้ายเข้าบ้านใหม่กันตอนเดือน 8 ที่ผ่านมา จากนั้นก็ได้ตัดสินใจหางานใหม่เพราะต้องการเงินมากขึ้นกว่าเดิม ก็ไปได้งานใหม่ที่ Orion Health ตำแหน่ง Intermediate Software Engineer ที่นี่ทำให้ผมได้เงินเดือนหลักเฉียดแสน ด้วยวุฒิ ก.ศ.น. ม. 3 (แต่ฐานความรู้แค่ ป. 6 เพราะเรียน ก.ศ.น. ไม่ได้ความรู้อะไรเลย)

จบแล้วครับ สิ่งสำคัญที่ทำให้ผมมาได้ไกลขนาดนี้คือ

1. ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ แล้วพัฒนาฝีมือให้ไกล อนาคตจะมาเอง ข้อนี้เป็นจุดที่ทำให้ผมมีหน้าที่การงาน ณ ที่เป็นอยู่
2. คิดให้มีเหตุผล อะไรไม่ Make Sense ก็ไม่เชื่อ ข้อนี้ทำให้แต่ละก้าวในชีวิตผมแทบจะไม่ผิดพลาด หรือถ้าพลาดก็จะไม่มีครั้งที่สอง
3. ความสำคัญที่ผมวางไว้คือ ฝีมือ > ภาพลักษณ์ > คอนเน็คชั่น ถ้าฝีมือเราเป็นของจริง มันจะเปิดเส้นทางแห่งอนาคตให้เราเสมอ ส่วนภาพลักษณ์ ต้องไม่เกินฝีมือ เมื่อไหร่ที่เกินมันจะทำให้เรากลายเป็นคนกลวง บ้าสร้างภาพ แต่ฝีมือจริงอ่อนแอ ส่วนคอนเน็คชั่นสำคัญน้อยสุด เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราทำสองอย่างที่ว่ามาได้ มันจะมีโอกาสเข้ามาหาเราเองเสมอๆ

แถมรูปสองก้าวสำคัญในชีวิตผมที่ผ่านมาครับ

og5u8wv61sguyovu1n8-o

og5ua5v40nny8vyyr54-o


ข้อมูลและภาพจาก : ล็อกอิน UltimaWeapon เว็บไซต์ http://pantip.com/topic/35775112

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: