ปลัดมหาดไทย แจ้งเวียนหน่วยงานในสังกัดเตรียมความพร้อมดำเนินการ หลัง ครม.ไฟเขียว บุตรหลาน คนต่างด้าว กลุ่มชาติพันธุ์ ชนกลุ่มน้อย ยื่นขอสัญชาติไทยได้ หากอยู่อาศัยมาแล้วไม่น้อยกว่า 15 ปี – เรียนจบชั้นปริญญาตรี
แหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในช่วงเย็นวันที่ 7 ธ.ค.2559 ที่ผ่านมา นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งเวียนมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลของเด็กนักเรียนนักศึกษาและบุคคลไร้สัญชาติที่เกิดในราชอาณาจักรไทย ให้ทุกส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยได้รับทราบและเตรียมความพร้อมในการดำเนินงาน
โดยระบุว่า ที่ประชุม ครม. ได้มีมติเห็นชอบให้สัญชาติไทยแก่คนที่เกิดในประเทศไทย 2 กลุ่ม คือบุตรหลานของคนต่างด้าวกลุ่มชาติพันธุ์หรือชนกลุ่มน้อยที่ได้จัดทำทะเบียนประวัติไว้และได้อยู่อาศัยในประเทศไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า15ปี และบุตรหลานของคนต่างด้าวอื่นๆ ที่เรียนจบชั้นปริญญาตรีแล้วสามารถยื่นคำร้องขอมีสัญชาติไทยได้ด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุมครม. ยังมีมติอนุมัติหลักการให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชนสามารถออกกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติสัญชาติ ซึ่งตามหลักกฎหมายควรออกกฎกระทรวงตั้งแต่ปี 2551 แต่ก็ไม่มีการดำเนินการให้ถูกต้อง โดยให้สิทธิบุตรหลานของคนต่างด้าวทั้งหลายไม่ว่าจะเข้าเมืองไทยมาอย่างไร ทั้งมีหนังสือเดินทาง และไม่มีหนังสือเดินทาง สามารถอาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยไม่ผิดกฎหมายคนเข้าเมืองตราบเท่าที่พ่อและหรือแม่ยังอาศัยอยู่ในประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมครม.เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2559 ที่ประชุม ครม. ได้อนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ ในการแก้ไขปัญหาเรื่องสัญชาติและสถานะบุคคลของเด็กนักเรียนนักศึกษาและบุคคลไร้สัญชาติที่เกิดในราชอาณาจักรไทยดังนี้
1. อนุมัติให้บุตรของชนกลุ่มน้อยหรือกลุ่มชาติพันธุ์ที่เกิดในราชอาณาจักรไทยและมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ ได้สัญชาติไทยเป็นการทั่วไป คือ
1.1 บิดาหรือมารดาที่เป็นชนกลุ่มน้อยหรือกลุ่มชาติพันธุ์จะต้องได้รับการจัดทำทะเบียนประวัติ มีเลขประจำตัว 13 หลักตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร และต้องเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15 ปีนับถึงวันที่บุตรยื่นคำร้องขอมีสัญชาติไทย
1.2 ต้องมีหลักฐานการเกิดในราชอาณาจักรไทยและทะเบียนบ้าน หรือทะเบียนประวัติ
1.3 ต้องไม่ปรากฏหลักฐานการมีและใช้สัญชาติอื่น
1.4 ต้องพูดและเข้าใจภาษาไทย
1.5 มีความจงรักภักดีและเลื่อมใสระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
1.6 มีความประพฤติดี ไม่มีพฤติการณ์ที่เป็นภัยต่อความมั่นคง ไม่เคยต้องรับโทษความผิดคดีอาญา เว้นแต่ความผิดโดยประมาทหรือลหุโทษ หรือถ้าเคยรับโทษคดีอาญาต้องพ้นโทษมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปีนับถึงวันที่ยื่นคำร้องขอมีสัญชาติไทย
2. อนุมัติให้เด็กและบุคคลที่กำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ในสถาบันการศึกษา หรือสำเร็จการศึกษาแล้วที่เกิดในราชอาณาจักรไทยโดยมีบิดาหรือมารดาเป็นคนต่างด้าวอื่น ที่ไม่ใช่ชนกลุ่มน้อยหรือกลุ่มชาติพันธุ์ตามที่ มท. จัดทำทะเบียนประวัติ หรือไม่ปรากฏบิดามารดา และมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ ได้สัญชาติไทยเป็นการทั่วไป คือ
2.1 ต้องมีคุณสมบัติตามข้อ 1.2 -1.6
2.2 จบการศึกษาระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่าจากสถาบันการศึกษาในประเทศไทย สำหรับผู้ที่เรียนจบจากสถาบันในต่างประเทศจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาจากหน่วยงานของรัฐ
2.3 สำหรับคนไร้รากเหง้า ไม่ปรากฏบิดามารดาหรือมารดาบิดาทอดทิ้งตั้งแต่วัยเยาว์ และยังไม่จบการศึกษาระดับอุดมศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองความเป็นคนไร้รากเหง้าจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และต้องมีภูมิลำเนาอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยติดต่อกันไม่น้อยกว่า 10 ปีนับถึงวันที่ยื่นคำร้องขอมีสัญชาติไทย
2.4 สำหรับบุคคลที่อยู่ระหว่างการศึกษาในสถาบันการศึกษา และมีความจำเป็นต้องขอมีสัญชาติไทย ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยหรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากรับมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดฐานะและเงื่อนไขการอยู่ในราชอาณาจักรไทยของผู้เกิดในราชอาณาจักรไทยซึ่งไม่ได้สัญชาติไทย พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงาน สภาความมั่นคงแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
1. กำหนดให้ผู้เกิดในราชอาณาจักรและไม่ได้สัญชาติไทยมีสิทธิการอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรเช่นเดียวกับบิดาหรือมารดา เว้นแต่ผู้ที่เกิดจากบิดาและมารดาซึ่งเป็นคนต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย และเด็กกำพร้าซึ่งมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
2. กำหนดให้สิทธิการอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรของบิดาและมารดาหรือบิดาหรือมารดาสิ้นสุดลง ให้สิทธิการอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรของผู้เกิดสิ้นสุดไปด้วย เว้นแต่ผู้มีอายุไม่น้อยกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ หรือบรรลุ นิติภาวะด้วยการสมรส ผู้ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศที่บิดาหรือมารดามีหรือเคยมีภูมิลำเนาหรือเคยอาศัยอยู่ ผู้ซึ่งมีผู้ปกครอง สามี ภรรยา หรือบุตรเป็นผู้มีสัญชาติไทย ผู้มีภูมิลำเนาอาศัยอยู่ต่อเนื่องในราชอาณาจักร ผู้ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาหรือเป็นผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้กับสังคมตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
3. กำหนดให้ผู้เกิดในราชอาณาจักรและไม่ได้สัญชาติไทยมีอายุตั้งแต่สิบแปดปีบริบูรณ์ อาจถูก เพิกถอนสิทธิการอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรได้ เมื่อมีการกระทำใด ๆ อันเป็นการกระทบกระเทือนต่อความมั่นคง หรือขัดต่อประโยชน์ของรัฐหรือเป็นการเหยียดหยามประเทศชาติ หรือมีการกระทำใด ๆ อันเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
4. กำหนดให้บุตรของผู้เกิดในราชอาณาจักรไทยมีสิทธิอยู่ในราชอาณาจักรไทยตามกฎกระทรวงนี้ ให้มีสิทธิและหน้าที่เช่นเดียวกับบิดาและมารดาหรือบิดาหรือมารดา แม้ว่าบิดาและมารดาหรือบิดาหรือมารดานั้นจะถึงแก่กรรมแล้ว
ข่าวจาก : สำนักข่าวอิศรา
ภาพจาก : วิกิพีเดีย
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ