กำลังเป็นข่าวกระแสสังคมที่ผู้คนต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จากกรณีเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้บุกค้นและยึดทรัพย์สินบางส่วน นั่นคือ รถหรูลัมโบกีนี และ บิ๊กไบค์ ของ นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่้ง สามีนางเอกสาว แพท ณปภา เพื่อตรวจสอบที่มา ที่ไปของทรัพย์สินดังกล่าว หลัง นายบอย หรือ นายณัฐพล นาคคำ ให้การพาดพิงมาถึง นายอัครกิตติ์ หรือ เบนซ์ ก่อนหน้านี้ และเมื่อวันที่ 3 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รอง ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผบช.ปส) ซึ่งได้ออกมาแถลงข่าวภายหลังสอบเข้ม "นายเบนซ์" นานกว่า 5 ชั่วโมง โดยบอกว่า นายอัครกิตติ์ หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง ได้ให้การกับชุดสืบสวนสอบสวนว่า รู้จัก "นายบอย" เพราะเป็นคนชอบรถชอบความเร็วเหมือนกัน และ "นายเบนซ์ " บอกถึงเรื่องรถหรูลัมโบกีนีคันนี้ว่า นายเบนซ์ ได้ยืมเงิน "นายบอย" มา 6 ล้านบาท เพื่อดาวน์รถหรูลัมโบกินีคันนี้
โดย พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รอง ผบช.ปส. แถลงหลังการสอบเข้มในวันนั้น (3 ก.พ.) ว่า "..ขณะนี้ไม่พบว่าเบนซ์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด" และพล.ต.ต.ชาตรี บอกอีกว่า คำให้การที่ได้สอบปากคำจากเบนซ์ จะนำไปเทียบเคียงกับแนวทางการสืบสวน เช่น บัญชีธนาคาร เส้นทางการเงินต่างๆ ระหว่าง เบนซ์ กับ บอย ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ต้องใช้ระยะเวลา นายบอย หรือ ณัฐพล นาคคำ เป็นใคร? ทำไมใจหรู ใจสปอร์ต ให้เพื่อนหยิบยืมเงินมูลค่ามหาศาล.. เขาเป็นเซเลบคนดังที่รับมรดกก้อนโต? หรือเป็นเศรษฐีใหม่จากค้าที่ดิน? เขาเป็นใครกันแน่!? จากการสืบสวนในทางลึกของ เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด นายบอย หรือ นายณัฐพล นาคคำ คือ ผู้ลำเลียงยาเสพติดของเครือข่าย นายไซซะนะ โดย นายบอย จะทำหน้าที่เป็นหนึ่งในมือไม้แขนขาให้ขบวนการค้ายาเสพติดของ นายไซซะนะ ในเมืองไทย!!
ย้อนไปเมื่อ 19 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ปฎิบัติการ "ชัยยะ สยบไพรี 60/1 (ครั้งที่ 1) โดยได้จับกุม "นายไซซะนะ แก้วพิมพา" เอเย่นต์ค้ายารายใหญ่ชาวลาว ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามหมายจับและตรวจยึดทรัพย์สินบุคคลในเครือข่ายของนายไซซะนะ ซึ่ง นายไซซะนะ ถือเป็นหัวหน้าผู้ค้ายาเสพติดข้ามชาติในภูมิภาคอาเซียน ที่กล่าวได้ว่าเป็น เครือข่ายใหญ่กว่า แก๊งค้ายา เล่าต๋า ราชายาเสพติดภาคเหนือ ที่เพิ่งถูกทีมตำรวจปราบปรามยาเสพติด รวบตัวได้ก่อนหน้า ด้วยอำนาจเงิน ส่งผลให้เครือข่ายค้ายาของ นายไซซะนะ สามารถสั่งยาเสพติดล็อตใหญ่จากเครือข่าย นายเหว่ย เซียะ กัง พ่อค้ายาเสพติดฝั่งเมียนมา นำเข้ามายังเมืองมอม แขวงบ่อแก้ว บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ และลำเลียงยาเสพติดไปพักไว้ที่เวียงจันทร์ ก่อนนำข้ามแม่น้ำโขงเข้าประเทศไทย ที่จังหวัดติดน้ำโขงอย่าง นครพนม หนองคาย ฯลฯ พฤติการณ์ของ นายไซซะนะ เจ้าพ่อยาสองฝั่งโขง จะใช้วิธีการค้ายาที่แยบยลกว่าแก๊งค้ายาในอดีต ที่เคยพบว่าใช้มอเตอร์ไซด์ หรือ รถกระบะลำเลียงยาเสพติด เปลี่ยนมาเป็นสั่งยาด้วยรหัสลับผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ และใช้รถหรู ซูเปอร์คาร์ลำเลียงตบตาเจ้าหน้าที่ กระจายยาไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ของไทยทั้งภาคอีสาน กลาง กทม. และภาคใต้ ไม่เท่านั้น เจ้าหน้าที่ยังพบข้อมูลว่า เครือข่ายแก๊งค้ายานายไซซะนะ พยายามจะลำเลียงยาเสพติดไปยังภูมิภาคอาเซียน แต่ก็ไม่รอด เคยถูกทางการไทยจับกุมได้ 4 คดี พร้อมของกลางยาบ้าราว 5 ล้านเม็ด ก่อนจะมีการสืบสวนขยายผล ออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายอีก 9 ราย จับกุมได้แล้ว 4 ราย โดย นายไซซะนะ มีความสัมพันธ์สนิทสนมกับ นายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย ซึ่งจากการเฝ้าติดตามพฤติกรรมของ นายบอย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด พบว่าเวลาที่ นายไซซะนะ เดินทางมาเมืองไทย หรือมาเที่ยวที่เมืองไทย นายบอย จะทำหน้าที่เป็นคนคอยต้อนรับดูแลไปรับไปส่ง
และการสืบสวนในทางลึกของ เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ชี้ชัดว่า นายบอย คือ ผู้ลำเลียงยาเสพติดให้เครือข่าย นายไซซะนะ โดยคอยทำหน้าที่เป็นมือไม้แขนขาในขบวนการค้ายาเสพติดให้กับ นายไซซะนะ ในเมืองไทย! นายบอย เคยถูกตำรวจเข้าจับกุมและถูกยึดทรัพย์มาแล้วเมื่อปี 2553 ฐานร่ำรวยผิดปกติ ร่ำรวยแบบไม่มีที่มาที่ไป (ค้ายา) แต่หลังจากนั้น นายบอย ก็ยังมีพฤติกรรมค้ายาเสพติดอีก และมาถูกจับกุมอีกครั้ง จับเมื่อ 31 มกราคมที่ผ่านมา หลังตำรวจรวบหัวหน้าแก๊ง นายไซซะนะ และมีการซัดทอดมาถึง นายบอย หรือ นายณัฐพล นาคคำ อย่างก็ตาม ในปฎิบัติการ "ชัยยะ สยบไพรี 60/2 (ครั้งที่ 2) เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ระดมปิดล้อมตรวจค้น 40 เป้าหมาย ทั่วประเทศ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย ในพื้นที่ จ.นนทบุรี
ซึ่งโดยเป้าหมายสำคัญคือ บ้านหลังหนึ่งย่านบางกรวย สามารถจับกุม นายชัยวัฒน์ ชูสาย หรือ แป๊ะ พร้อมยึดยาเคตามีน กว่า 21 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 13 ล้านบาท ซึ่งนายชัยวัฒน์ สารภาพว่านำยาดังกล่าวมาพักไว้ เพื่อเตรียมแบ่งขายตามที่ นายณัฐพล หรือ บอย เป็นคนสั่ง โดย นายชัยวัฒน์ ชูสาย หรือ แป๊ะ คือเครือข่ายอีกคนของ นายบอย ซึ่ง นายชัยวัฒน์ ให้การกับตำรวจว่า เช่าบ้านหลังดังกล่าวได้ 2 สัปดาห์ ในราคาเดือนละ 14,000 บาท เพื่อนำยาเสพติดมาพักไว้ โดยทำมาแล้ว 5 ครั้ง และครั้งล่าสุดได้ค่าจ้าง 8 แสนบาท (จาก นายบอย) โดยในช่วงกลางวัน นายชัยวัฒน์ จะทำหน้าที่ขับรถโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ส่วนในช่วงกลางคืน จะทำหน้าที่ส่งยาเสพติดตามที่ นายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย เป็นผู้สั่งการ! ซึ่งการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในวันนั้น (2 ก.พ.) นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับ นายชัยวัฒน์ ชูสาย หรือ แป๊ะ แล้ว ยังจับกุมผู้ต้องหาเพิ่ม ซึ่งเป็นเครือข่ายของ นายบอย คือ น.ส.อรันญา สิงห์ผงาด โดยในวันนั้น (2 ก.พ.) ได้ตรวจยึดของกลาง เป็นยาเสพติด เคตามีน 21.72 กิโลกรัม (ของ นายชัยวัฒน์ ชูสาย หรือ แป๊ะ) และตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อทำการตรวจสอบตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 จำนวน 13 รายการ ประกอบด้วย..
สร้อยคอทองคำ หนัก 3 บาท 1 เส้น, สร้อยข้อมือ หนัก 1 บาท 1, แหวนทองคำ หนัก 1 บาท 1 วง, สร้อยทอง หนัก 121.18 กรัม 1 เส้น, สร้อยข้อมือ หนัก 75.75 กรัม 1 เส้น, สร้อยคอทองคำ หนัก 7.59 กรัม 1 เส้น, เฟอร์นิเจอร์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า, เงินในบัญชีธนาคารของ น.ส.อรันญา 100,000 บาท, รถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู ทะเบียน ธต 5315 กทม. 1 คัน, รถยนต์ ฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน ราคาประเมิน 1,200,000 บาท, รถตู้ โตโยต้า ทะเบียน ฮง 1007 กทม. 1 คัน, จักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ 2 คัน ราคาประเมิน 800,000 บาท, วัวพันธุ์ 63 ตัว และม้า 2 ตัว และทรัพย์สินอีกหลายรายการ ที่อยู่ระหว่างรวบรวมรายละเอียด ซึ่งรวมมูลค่ายาเสพติดและทรัพย์สินที่ตรวจยึด เจ้าหน้าที่ประมาณราคา 200 ล้านบาท!
ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ นายบอย หรือ ณัฐพล นาคคำ ทำไมจึง ใจหรู.. ใจสปอร์ต ให้เพื่อนหยิบยืมเงินมูลค่ามหาศาลหลายล้านบาท นั่นเป็นเพราะ "บอย"มาทางสายยา ค้ายาเสพติด! หลายฝ่ายเฝ้าติดตาม ปฎิบัติการ "ชัยยะ สยบไพรี 60/3 (ครั้งที่ 3) ว่าจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่? อย่างไร? และจะมี เซเลบ ไฮโซ คนดังของไทย คนใด ที่จะเข้าข่ายเป็นผู้ต้องสงสัยร่วมในขบวนการกับ บอย รวมถึง ไซซะนะ อีกหรือไม่? คงติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะหัวหน้าทีมอย่าง พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ที่ได้ "กาหัว" ก๊วน-แก๊ง ขบวนการค้ายาเสพติด โดยบอกจะจัดการให้สิ้นซาก ถอนรากถอนโคลน ที่ว่า "..จะทำให้มัน..จนกว่าขอทาน
ขอบคุณเนื้อหาจาก http://www.nationtv.tv/main/content/crime/378533592/
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ