แอชลีห์ มอร์ริส อาศัยอยู่ในเมือง Melbourne ประเทศออสเตรเลีย จัดอยู่ในกลุ่มผู้โชคร้ายที่ป่วยด้วยโรคแพ้น้ำ หรือ Aquagenic Urticaria ในจำนวนประชากรโลก 230 ล้านคนจะมีผู้ป่วยโรคแพ้น้ำอยู่เพียง 1 คนเท่านั้น
แอชลีห์ ป่วยเป็นโรคแพ้น้ำทุกชนิด ตั้งแต่อายุ 14 ปี ไม่ว่าจะน้ำอุ่น น้ำเย็น น้ำฝน น้ำประปา หรือเหงื่อ ทันทีที่ร่างกายสัมผัสน้ำเธอจะปวดแสบปวดร้อนไปทั้งตัว ไม่นานนักก็จะมีผื่นแดงตามตัว ผื่นคัน แสบร้อน ดูเหมือนโรคผิวหนังไม่มีผิด อาการดังกล่าวจะปรากฏนาน 2 ชั่วโมงแล้วจะหายเป็นปกติ
ด้วยเหตุนี้แอชลีห์จึงมีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตมากมาย ตั้งแต่อาบน้ำได้แค่วันละ 1 นาที หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ทีอุณหภูมิสูงเพื่อป้องกันไม่ให้เหงื่ออก ห้ามตากฝนหรือหิมะโดยเด็ดขาด[ads]
แพทย์สันนิษฐานว่า โรคแพ้น้ำของแอชลีห์น่าจะมาจากเมื่อเธอป่วยเป็นโรคต่อมทอนซิลอับเสบ แล้วได้รับยาปฏิชีวะเพนิซิลลิน(Penicillin) ในปริมาณสูง( Heavy Dose)ติดต่อกันเป็นเวลานาน จึงส่งผลต่อระดับฮิสตามินในร่างกาย ทำให้เธอเป็นคนแพ้ง่ายนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยแพ้น้ำอีกรายที่มีอาการหนักกว่าแอชลีห์หลายเท่า เธอชื่อ มิเชลลา ดัตตั้น โดยมิเชลลาสามารถอาบน้ำได้เพียงสัปดาห์ละครั้ง ครั้งละไม่เกิน 10 วินาที ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่สามารถดื่มน้ำดื่มใดๆได้เลย นอกจากน้ำอัดลมประเภทไดเอต เพราะน้ำเปล่าจะทำให้ภายในลำคอบวม ปวดแสบ ปวดร้อนและทรมานอย่างมาก ร่างกายของมิเชลลามีความต้านทานน้ำได้น้อยมาก แพทย์ระบุว่า โรคแพ้น้ำของมิเชลลาอาจเกิดจากระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันหลังจากที่เธอคลอดบุตรชาย อาจจะยากที่จะจินตนาการว่า อาการของโรคนั้นเป็นอย่างไร เธอจึงสาธิต นำน้ำลูบตัว ปรากฏว่าเกิดผืนแดงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เธอกล่าวทิ้งท้ายว่า “มันคัน แสบร้อน และเจ็บปวดมากกว่าที่คุณได้เห็น”
เนื่องจากโรคนี้ยังไม่มีการศึกษาวิจัยถึงสาเหตุและกระบวนการรักษาให้หายขาด จึงทำได้แค่รักษาตามอาการเท่านั้น
[ads=center]
Reference : www.dailymail.co.uk
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ