ช่วงหน้าร้อนตั้งแต่เดือนมีนาคม-พฤษภาคมของทุกปี อากาศมีอุณหภูมิสูงมาก รวมทั้งมีวันหยุดเทศกาลและมีการรื่นเริงฉลองมากมาย สิ่งที่ตามมาคือการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค อาหารไม่สะอาด อาหารปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ ซึ่งอากาศร้อนแบคทีเรียจะเจริญเติบโตได้เร็ว ทำให้อาหารบูดง่าย วันนี้จึงมีเมนูอาหารหน้าร้อน ที่ควรระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงในการรับประทานเป็นพิเศษ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนี้
1.ลาบ/ก้อยดิบ เช่น ลาบหมู ก้อยปลาดิบ
อาหารท้องถิ่นทางภาคอีสาน นิยมปรุงจากเนื้อสัตว์ดิบรวมถึงไข่และตัวอ่อนของแมลงทีกินได้ เช่น เนื้อวัว เนื้อกวาง เนื้อเก้ง เนื้อหมูป่า เนื้อปลา (ตะเพียน หรือ ปลาขาว) กุ้งฝอย หอยเชอรี่ กิ้งก่า (กะปอม) ไข่มดแดง ไข่แมงมัน ตัวอ่อนตัวต่อเป็นต้น ซึ่งช่วงที่อากาศร้อนก็เสี่ยงอย่างมากกับการเกิดพยาธิที่เติบโตได้อย่างรวดเร็ว เช่น พยาธิตัวจิ๊ด พยาธิแส้ม้า พยาธิใบไม้ตับ เป็นต้น นอกจากยังอาจเกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรงได้ด้วย
2.ยำกุ้งเต้น
ยำกุ้งเต้นที่รสแซ่บจี๊ดจ๊าด ส่วนผสมอุดมไปด้วยประโยชน์จากสมุนไพรไทย แต่เป็นอาหารที่ไม่ผ่านความร้อน จึงมีโอกาสปนเปื้อนของเชื้อโรคและความสะอาดของขั้นตอนการปรุงที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
3.ยำหอยแครง
ยำหอยเเครงจากหอยแครงสดๆ อาจมีเชื้อ บริโอ วัลนิฟิคัส (Vibrio vulnificus) ที่พบในอาหารทะเลดิบทุกชนิด โดยเฉพาะหอยนางรม หอยแครง และหอยแมลงภู่ดิบหรือกึ่งสุกกึ่งดิบ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะก่อให้เกิดอาการเป็นไข้ หนาวสั่น เป็นโรคผิวหนัง เริ่มมีอาการภายใน 1 ชม. – 1 สัปดาห์ ผู้ป่วยร้อยละ 50 มีโอกาสเสียชีวิตได้
[ads]
4.สลัดผัก
เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ แต่ในผักบางชนิด เช่น ผักกาดต่างๆ กะหล่ำปลี มีโอกาสพบเชื้อโปรโตซัวได้หลายชนิด บางชนิดก็เป็นสาเหตุของโรคท้องร่วง เช่น เชื้อซัลโมเนลลา นอกจากนี้อาจพบไข่ของพยาธิอีกหลายชนิด เช่น พยาธิไส้เดือน พยาธิแส้ม้า รวมทั้งไข่ของพยาธิตัวตืดอีกด้วย ผักทุกชนิดที่จะทานจึงต้องล้างให้สะอาดเสียก่อน อีกทั้งมีเชื้อ สเตฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) ที่ แพร่เชื้อจากการสัมผัสมือ ไอ และจาม เชื้อโรคจะเติบโตได้ดีในเนื้อสัตว์ น้ำปรุงสลัด ครีมซอส ขนมจีน อาหารและขนมที่ใช้มือหยิบจับ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะมีอาการถ่ายเหลวรุนแรง ปวดบิดในท้อง คลื่นไส้ อาเจียน หน้ามืด เริ่มมีอาการภายใน 1 – 6 ชั่วโมง และจะเป็นนาน 1 – 2 วัน
5.รวมมิตร น้ำแข็งใสราดกะทิ
ของหวานรสชาติแสนอร่อย นอกจากมีการปนเปื้อนของน้ำแข็งที่ไม่สะอาดแล้ว กะทิที่เป็นส่วนประกอบก็อาจบูดเสียได้ง่ายกว่าปกติ จะก่อให้เกิดอาการถ่ายเหลวเป็นน้ำ คลื่นไส้ ปวดบิดในท้อง
6.ส้มตำ
อาหารคาวที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากที่สุดของไทย กรณีส้มตำปูม้า อาจพบเชื้อเชื้ออหิวาต์เทียม และเชื้อที่ทำให้เกิดท้องเสียตัวอื่น เช่น กลุ่มซาโมไนลา รวมถึงเจอเรื่องพยาธิใบไม้ในปอด และยังมีการสำรวจส่วนประกอบที่ใช้ในการทำส้มตำและส้มตำปรุงสำเร็จ ผลปรากฏว่าในจำนวนตัวอย่าง พบเชื้อโรคอาหารเป็นพิษและสุขลักษณะที่ไม่ดีในส้มตำปรุงสำเร็จสูงถึงร้อยละ 67 เช่น สีในกุ้งแห้ง สารอะฟลาออกซินในถั่วลิสง หรือพบยาฆ่าแมลงในพริกขี้หนูจำนวนหนึ่งอีกด้วย
ฤดูร้อนเป็นฤดูที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อโรคบางชนิด จึงควรระมัดระวังในเรื่องความสะอาดของอาหาร น้ำดื่ม และภาชนะในการใส่อาหาร สำหรับการป้องกันโรคอาหารเป็นพิษที่ดีที่สุดคือ ยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ อาหารค้างคืนต้องอุ่นให้เดือดก่อน ในกลุ่มอาหารทะเลต้องปรุงสุก และรับประทานอาหารทันที หรือไม่เกิน 2 – 4 ชั่วโมงหลังจากปรุงเสร็จ จะได้อิ่มอร่อย ไม่ป่วยในช่วงหน้าร้อนนี้น่ะค่ะ
[ads=center]
Illustration1-6 by:
[online]www.siamfishing.com
[online]www.lekkathaifood.blogspot.com
[online]www.knowledgeintheword.org
[online]www.baanpizzaphuket.com
[online]www.antshare.blogspot.com
[online]www.baanmaha.com
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ