เลิกแถได้แล้ว! แพทย์พระมงกุฎทนไม่ไหวขอพูดบ้าง! “น.ส.พัฒนา”ตายเพราะอะไร?! อ่านแล้วกระจ่างเลย!!





จากกรณี น.ส.พัฒนา เพียงแรง อายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่อาสาพยาบาลของวัดพระธรรมกาย อาชีพผู้ช่วยเภสัชกร มีอาการป่วยเป็นโรคหอบหืดและได้เสียชีวิตอย่างกะทันหันภายในห้องพัก หมู่บ้านศาสนานูปถัมภ์ เฟส 1 ตั้งอยู่ในพื้นที่ 58 ไร่ ของวัดพระธรรมกาย โดยคำวินิจฉัยของสถาบันนิติวิทยาศาตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ระบุว่า ปอดอักเสบและติดเชื้ออย่างรุนแรง ซึ่งการเสียชีวิตของ น.ส.พัฒนา กำลังเป็นที่สนใจของใครหลายคนอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากวัดพระธรรมกายได้ปลุกกระแสข่าวว่าสาวรายนี้ได้เสียชีวิตลงเพราะเจ้าหน้าที่กู้ชีพเข้าช่วยเหลือช้าเนื่องจากการควบคุมพื้นที่ตามมาตรา 44

 

 

โดยในวันที่ 3 มี.ค. พระมหาทศพร ปุญยัญงฺกฺโร ได้รับคำสั่งจาก พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผอ.ฝ่ายสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ให้ออกมาแถลงข่าวชี้แจงประจำวัน โดยพระมหาทศพรยืนยันว่าการเสียชีวิต ของน.ส.พัฒนา เชียงแรง อายุ 48 ปี ชาว จ.พะเยา ผู้ช่วยเภสัชกร วัดพระธรรมกาย เป็นเพราะผลสืบเนื่องจากการใช้มาตรา 44 ทำให้เกิดความล่าช้าในขั้นตอนการช่วยชีวิตผู้ป่วยขั้นวิกฤต

 

 

ร้อนถึง พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการกองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน รพ.พระมงกุฎเกล้า ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Tavatchai Kanchanarin  อธิบายถึงการ "เสียชีวิตเพราะอะไร" จากการเสียชีวิตของ น.ส.พัฒนา โดยระบุข้อความว่า

 

 

เสียชิวิตเพราะอะไร? 
กรณี ผู้ช่วยเภสัชกรคลินิกวัดธรรมกายเสียชีวิต มีเพื่อนๆ สอบถามความเห็นมามาก ตอนแรกก็บอกไปว่ารอผลการชันสูตร (autopsy) ก่อน แต่ก็เนอะ เดี๋ยวหาว่าวิจารณ์ย้อนหลัง ยิ่งวัดธรรมกายเอาเรื่องนี้มาปลุกกระแส ทั้งที่ตัวเองก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบไม่น้อย การเสียชีวิตภายหลังการรักษาแล้วให้กลับบ้าน ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับสถานพยาบาล ต้องรีบเอาเข้าที่ประชุม Morbidity and Mortality Conference ซึ่งมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญครบทุกสาขาที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพยาธิแพทย์และนิติเวช

ผู้ป่วยเดินมาได้ กลับไปไม่กี่วันเสียชีวิต สิ่งที่คลินิกวัดธรรมกายต้องรีบทำเป็นอันดับแรก คือ ทบทวนประวัติการรักษา ตั้งแต่ซักประวัติ ตรวจร่างกาย ส่งตรวจพิเศษ การวินิจฉัยโรค (ถูกต้องหรือไม่) การรักษาที่เหมาะสม และ การนัด follow up

ถ้าวินิจฉัยว่าปอดติดเชื้อ เอกซเรย์เป็นไง ตรวจ gram strain, AFB, C/S หรือเปล่า ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ปลอดภัยหรอ

ถ้าวินิจฉัยว่าหอบหืด ได้ยากลับไป ควรดีขึ้นโดยเร็ว ถ้าไม่ดีควรทำไง ยาที่กินกระตุ้นหัวใจไหม 

เรื่องการกู้ชีพล่าช้าที่ทางวัดเอามาเป็นประเด็นโจมตีว่าทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ก็ต้องดูพยาธิสภาพของโรคด้วย ไม่อย่างงั้นคนไข้มาถึงมือหมอที่ห้องฉุกเฉิน ก็ต้องรอดชีวิตหมดซิ 

ส่วนล่าช้าหรือไม่ ก็ต้องพิจารณาเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงแรก 11.29 – 11.52 (กู้ชีพรัตนเวช) และ ช่วงสอง 11.52 – 12.12 (กู้ชีพรัตนเวชแจ้งศูนย์วิทยุกู้ชีพ รพ.ปทุมธานี แล้วเดินทางไปพบรถพยาบาลที่ประตู 7) ช่วงสาม 12.12 – 12.22 (รถพยาบาลออกจากประตู 7 ไปที่พักผู้ป่วย) ซึ่งทุกคนพูดตรงกันว่า “ช่วงรถพยาบาลออกจากประตู 7 ไปที่พักผู้ป่วย ไม่มีปัญหา” แต่สิ่งที่พยาบาลกู้ชีพรัตนเวชอ้างว่าเป็นปัญหาทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต คือ “การติดต่อทางสัญญาณโทรศัพท์ กับการเคลียร์เส้นทาง (ของตนเอง)” 

ฟังวีดีโอผู้เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายให้การ เกิดความสงสัยขึ้นมา คือ 
1. พยาบาลกู้ชีพรัตนเวชบอกว่า ระหว่างติดต่อศูนย์วิทยุกู้ชีพ รพ.ปทุมธานีสัญญาณโทรศัพท์ขาดหายติดต่อได้บ้างไม่ได้บ้าง และมีปัญหาการเคลียร์เส้นทางของตัวเองมาประตู 7 จึงเกิดคำถามว่า “ทำไมไม่ใช้วิทยุสื่อสาร” โดยปกติแล้ว เจ้าหน้าที่ EMS ต้องมีวิทยุติดตัวทุกคน เพราะบ่อยครั้งเมื่อรถวิ่งเร็วหรืออยู่ในจุดอับจะไร้สัญญาณโทรศัพท์ ยิ่งไปกว่านั้นการใช้วิทยุมีข้อดี คือ “ทุกคนได้ยินรับรู้พร้อมกัน ทำงานกันเป็นทีม มีการช่วยเคลียร์เส้นทางล่วงหน้า อำนวยความสะดวกให้” 

2. ทำไมการปฏิบัติงานของ อาสาปอเต๊กตึ้ง อาสาร่วมกตัญญู และรถพยาบาลปทุมธานี ตั้งแต่รับแจ้งเหตุ เดินทางมาประตู 7 จนถึงที่พักผู้ป่วยรายนี้ หรือรายอื่นๆ เขาถึงไม่มีปัญหา ทั้งที่อยู่ในพื้นที่ถูกตัดสัญญาณโทรศัพท์เหมือนกัน 

3. หน่วยกู้ชีพรัตนเวช สังกัดมูลนิธิศึกษาธรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมของวัดธรรมกาย ดูแลรับผิดชอบในส่วนพื้นที่ของวัดธรรมกายและที่พักโดยรอบ เวลาเจ้าหน้าที่ในวัดหรือคนที่พักโดยรอบวัดเจ็บป่วยก็จะไลน์หรือโทรแจ้งหน่วยกู้ชีพรัตนเวชก่อน แล้วหน่วยกู้ชีพรัตนเวชจะไปประเมินให้การช่วยเหลือเบื้องต้นก่อน ถ้าช่วยเหลือไม่ได้ก็จะติดต่อ 1669เพื่อมารับช่วงต่อ ความล่าช้ามันอยู่ตรงนี้แหละ ทำไมไม่แจ้ง 1669 ให้เข้ามารับเลยเหมือนชาวบ้านทั่วไป 

4. ในยามปกติรถพยาบาลรัตนเวช ได้เข้ามาวิ่งร่วมเป็นลูกข่ายของแม่โซนหรือเปล่า ถ้าไม่ปฏิบัติงาน EMS ในชีวิตประจำวัน จะมีทักษะความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ได้ไง 

สุดท้ายนี้ อะไรเป็นสาเหตุให้เสียชีวิต อยากรู้คำตอบ (ฮา) ต้องไปถามธัมมี่

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Tavatchai Kanchanarin

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: